25 ส.ค. เวลา 12:54 • ท่องเที่ยว
มัณฑะเลย์

ฉันยังเรียกว่า "พม่า"

ฉันไม่เคยเรียกพม่าว่าเมียนมาร์ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ว่าชื่อประเทศเปลี่ยนไปแล้ว แต่เพราะคำว่า “พม่า” ฝังอยู่ในความทรงจำของฉันตั้งแต่ยังเด็ก มันคุ้นปาก จนไม่อาจเปลี่ยนมันได้ง่ายนัก
ช่วงนี้ ฉันเริ่มรู้สึกคิดถึงการเดินทางอย่างจับใจ ไม่ใช่การเที่ยวแบบรีบเร่ง ไม่ใช่การถ่ายรูปแล้วโพสต์ เพื่อเหตุผลใดๆ แต่ฉันอยากไปเดินเรื่อยเปื่อยใน "สักที่" ที่กาลเวลาเหมือนยังเอื้อมมือไปแตะทำลายไม่ได้
ฉันเลยอยากจะกลับไปพม่าอีกสักครั้ง แต่ก็ไม่มั่นใจในสถานการณ์
ฉันเคยไปพม่ามาแล้วครั้งหนึ่ง จำได้ว่าทันทีที่ถึงสนามบิน มัณฑะเลย์ (Mandalay – แมนดาเลย์) กับเพื่อนอีกสองคน ฉันก็รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอีกยุคหนึ่ง พนักงานชายในสนามบินยังคงสวมโสร่ง ไม่ใช่เพื่อแสดงอัตลักษณ์ โชว์นักท่องเที่ยว แต่เขาเป็นแบบนั้นในปกติชีวิตของเขาที่นั่น
เมื่อออกจากสนามบิน เราก็ว่าจ้างแท็กซี่ให้พาไปเที่ยวก่อน โดยให้จุดหมายสุดท้ายเป็นสถานีขนส่ง ตอนนั้นฉันใจสู้มาก วางแผนทริป นอนบนรถทัวร์ตั้งแต่ในคืนแรกเลย เอาสิ!
เขาไม่ปฏิเสธ ต่อรองราคากันตรงเคาท์เตอร์ แล้วจบตรงนั้น ไม่มีอะไรมาบวกเพิ่ม ไม่ทิ้งกระเป๋าเราไว้ข้างทาง ไม่งอแงอิอ๊ะ เขาทำหน้าที่ให้เราอย่างดีตั้งแต่ตรงนั้น จนเราลากกระเป๋าไปฝากที่บริษัทรถทัวร์ได้สำเร็จ
Mandalay Royal Palace (แมนดาเลย์ รอยัล พาเลซ) เป็นที่แรกให้เราได้ยลความเป็นพม่าแท้ๆ วังไม้โบราณที่ทั้งงดงามและน่าขนลุกในคราวเดียวกัน ที่นี่เป็นที่ทารุณกรรมผู้คนที่คิดต่างกับกษัตริย์ในอดีต และจนถึงคิดต่างกับรัฐบาลในปัจจุบัน (ตอนที่ฉันไปมันเป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ร่มรื่น แต่ไม่นานหลังจากนั้น สถานที่นี้ได้กลับไปทำหน้าที่เดิมของมันอีกครั้งหนึ่ง)
Hsinbyume Pagoda (ซินบยูเม พาโกดา) เป็นวัดที่มีเจดีย์สีขาวเรียงตัวกันอยู่เป็นขั้นบันได ดูสวยงามเหมือนที่อยู่ของเทวดาในสวรรค์ และ
เราปิดท้ายด้วยแสงสุดท้ายของวัน ที่ U Bein Bridge (อูเบ็ง บริดจ์) เป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่ทอดตัวยาวเหนือทะเลสาบ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ขากลับฉันให้แท็กซี่จอด เพื่อลงไปถ่ายภาพคนตกปลาที่นั่งบนเรือไม้ หมวกปีกทรงหัวแหลมและเบ็ดของเขาทำจากไม้ เขาเป็นจุดสีดำบนเงาสะท้อนของดวงจันทร์ในพื้นน้ำ มันช่างเหมือนภาพวาดของคนจีนในสมัยก่อนซะจริง เสียดายที่ถ่ายยังไงฉันก็ไม่สามารถถ่ายให้มันสวยเหมือนที่ตาเห็นได้
ฉันจองตั๋วรถทัวร์มาจากเว็บไซต์ตอนอยู่ที่เมืองไทย เพื่อเดินทางไปยัง ทะเลสาบอินเล (Inle Lake อินเล เลค) โดยขึ้นรถที่ท่ารถมัณฑะเลย์ไปยังเมือง Nyaungshwe (นยองชเว) ซึ่งเป็นประตูสู่ทะเลสาบ
สองทุ่มกว่าแล้วตอนที่เรามาถึงที่ท่ารถ เราหิวโซกันมาก แต่ไม่มีร้านอาหารใดเปิด มีเพียงรถคันหนึ่งที่ดัดแปลงเป็นรถขายอาหารจอดอยู่ กลิ่นอาหารหอมฟุ้งจนแทบห้ามความหิวไม่ได้ ฉันพยายามสั่งข้าวไข่เจียวด้วยภาษาอังกฤษง่ายๆ แต่แม่ค้าก็โบกมือบ๊ายบาย
แล้วเขาก็ปรากฏตัว ชายหนุ่มที่เคยมาทำงานอยู่ในเมืองไทย เขาพูดภาษาไทยไม่ได้แล้ว แต่เขาเอื้อเฟื้อสั่งอาหารให้เราได้ ไข่เจียวพม่าคือมื้อแรกของเรา กินแกล้มกับสารพัดถ้วยน้ำพริกที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะจนน่างงงัน ฉันลองชิมทุกถ้วยด้วยความสนุก
ภาพสถานที่ตามเรื่องเล่า
รถทัวร์พม่าไม่ได้แย่เลย มันสะดวก สะอาด มีขนม มีน้ำแจก และคืนนั้น ฉันหลับยาวไปจนเกือบถึง Nyaungshwe (นยองชเว) เมืองที่เป็นที่ตั้งของทะเลสาบ เราจองโรงแรมไว้ที่นั่น แต่รถจะถึงประมาณหกโมงเช้า สภาพจะเป็นยังไงนะ ฉันไม่ได้ลุ้นใดๆ ถึงเวลาเราก็จะรู้เอง ❤️
ฉันเขียนถึงพม่า..เพราะทั้งวัฒนธรรม ทรัพยากร ภูมิประเทศ ความเชื่อ ความศรัทธา อุปนิสัย พม่าคือคู่แข่ง ศัตรู ในประวัติศาสตร์ และเพื่อนในปัจจุบัน เพื่อนและศัตรูที่เคยมีความรุ่งเรือง สมศักดิ์ศรีกับเรา
แต่ชาติตะวันตกและผู้ปกครองยุคหลังของพม่าเอง
ที่ได้ทำลายพม่าจนมีภาพเช่นทุกวันนี้
คุณเข้าใจใช่มั้ย ทำไมฉันถึงเขียนเรื่องท่องเที่ยวพม่าในวันนี้ วันที่เราโดนรุกรานโดยศัตรูที่ไม่คู่ควร
บท

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา