[Before you go] ท่าแร่ Tha Rae: The Exorcist (ผสานความเชื่อรวมเป็นหนึ่ง) เรื่องราวในชุมชนแคทอลิคที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย จากผลงานการกำกับของผู้กับกับ"ธี่หยด" ไอเดียของเรื่องคือการผสานของสองศาสนาความเชื่อ พุทธ(ผี)

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

31 ส.ค. เวลา 16:23 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ท่าแร่ Tha Rae: The Exorcist (ผสานความเชื่อรวมเป็นหนึ่ง)

เรื่องราวในชุมชนแคทอลิคที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย จากผลงานการกำกับของผู้กับกับ"ธี่หยด" ไอเดียของเรื่องคือการผสานของสองศาสนาความเชื่อ พุทธ(ผี) และคริสต์(พระเจ้า-ปีศาจ) เพื่อกำจัดปีศาจทรงพลังที่มาสิงผู้คน

จากจะมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ (Spoiler) ของภาพยนตร์ ซึ่งอาจลดความสนุกในการรับชม หากคุณยังไม่ได้ดูและต้องการคงความตื่นเต้นไว้ แนะนำให้หยุดอ่านและไปดูภาพยนตร์ก่อน แต่หากต้องการทราบเนื้อเรื่องทั้งหมด ต่อไปนี้คือการสรุปเนื้อหา

สปอยล์เลย แล้วค่อยถกกัน

ฉากแรกเริ่มมาที่โบสถ์คริสต์ โดยในโบสถ์นั้นมีคนอยู่ 3 คน คือบาทหลวงมิ่ง แสง(หญิงสาวที่กำลังร่ำไห้)กอดลูกสาวที่ถูกมัดอยู่กับเก้าอี้

แสงอ้อนวอนให้มิ่งช่วยลูกสาวของตนจากการถูกผีเข้า

บาทหลวงมิ่งพยายามท่องคำจากพระคัมภีร์พร้อมกับชูไม้กางเขนใส่หนูน้อยที่มีเส้นเลือดปูดโปนทั่วหน้าทั่วตัว จากพลังของผีร้าย แต่ไม่สำเร็จ

เค้าถามแสงว่านี่มันเกิน 3 วันแล้วใช่ไม๊ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกสาว ถ้าเกิน 3 วันคือ(หลวง)พ่อช่วยไม่ได้แล้ว แสงได้แต่ร่ำไห้

วิธีเดียวที่จะปลดปล่อยลูกสาวได้มีแต่ต้องฆ่าเท่านั้น แสงถือมีดน้ำตาอาบหน้า บาทหลวงมิ่งช่วยประคองมือคู่นั้น และแทงเข้าอกของเด็กน้อย ปีศาจกรีดร้องและจากไปพร้อมกับวิญญาณเด็กน้อยเช่นกัน

หลายปีต่อมา

ผู้คนในท่าแร่กำลังขวัญผวากับ ผีปอบตามิ่ง(เอก-ธเนศ วรากุลนุเคราะห์) ที่เที่ยวกินของดิบและสัตว์ต่างๆของชาวบ้าน ก่อนที่ตามิ่งจะเข้าถึงตัวเด็กสาว 2 คนที่พยายามหลบอยู่ในบ้าน

บ้านหลวงเฒ่าของหมู่บ้านก็เปิดประตูเข้ามา พร้อมกางเขน แต่ไม่มีอะไรจัดการตามิ่งได้ จนเค้าสงบลงไปเอง

ข่าวผีร้ายตามิ่งดังไปถึงเมืองหลวงต้องส่ง บาทหลวงหนุ่ม ลงมาปราบ...

ที่ กรุงเทพ มาลีได้รับข้อความจากน้าว่า "กลับมาบ้านหน่อย พ่อตายแล้ว"

มาลี (แพรวา-นิชาภัทร์ ชาติไชยพลด) จำเป็นต้องต้องกลับมาที่ ท่าแร่ อีกครั้งหลังจากไม่ได้กลับมาหลายปี เนื่องจากไม่ถูกกับพ่อ

เข้าบ้านมาก็ต้องตกใจที่พบว่ามีชาวบ้านอยู่เต็มบ้าน บวกกับบาทหลวงกำลังพยายามไล่ผีออกจากตัวพ่อของเธอ(ปอบตามิ่ง)

เปาโล (เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข) บาทหลวงหนุ่มเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ได้ทัน ด้วยบทสวดในพระคัมภีร์ ทำให้ตามิ่งสงบลง

มาลีเข้าไปดูพ่อของเธออย่างเสียไม่ได้ เธอจับมือพ่อ และพบกับภาพหลอนประหลาดก่อนที่พ่อจะสลบไป เธอรีบปล่อยมือ แต่ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้กับใครฟัง

หลังจากนั้น ตามิ่งจะถูกมัดอยู่ที่บ้านและพยายามไล่มาลีไป

มาลีเล่าให้เพื่อนสนิทสมัยเด็กว่าถูกหลอกกลับมา ตัวเองไม่ได้อยากกลับมาแต่แรก (ชาวบ้านพากันนินทากันว่าตามิ่งจะหลอกใครมาแต่งงานด้วยอีก ทำให้รู้ว่ามาลีไม่ชอบพ่อตัวเองจากเรื่องนี้)

ยายแสงอยู่บ้านเดียวกับตามิ่งและเป็นคนป้อนข้าวป้อนน้ำ แต่ตามิ่งกินอะไรไม่ได้และอ้วกออกมา (อ้วกข้างเตียงตามิ่งนั้นถูกเก็บได้โดนเปาโล นำไปตรวจสอบ)

มาลีตัดสินใจไปนอนบ้านเผือกและฝันเห็นผีผู้หญิงแปลกๆ ระหว่างทางกลับบ้าน

และคืนนั้นเองยังฝันว่าเดินไปทางสามแพร่ง และพบกับร่างจำแลงพ่อของเธอที่ถูกแมลงรุมตอม เธอเข้าไปจับและเหล่าแมลงที่ฟอร์มตัวเป็นร่างคนก็สลายไป

เผือกออกตามหามาลีที่ออกจากบ้านไปและพบว่าเธอไปแอบกินของไหว้ที่ทางสามแพร่งแล้ว

มาลีถูกจับไปมัดกับเตียงข้างพ่อ บาทหลวงสมชาย เรียกแม่เมืองโสภา (มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร) หมอเหยา คนดังประจำท่าแร่ให้มาช่วยทำพิธีอีกแรง เนื่องจากพลังของบาทหลวงไม่เป็นผล

โดยมีเปาโล บาทหลวงจากกรุงเทพที่พึ่งมาถึงเข้ามาสังเกตุการณ์

แม่เมืองโสภา ทำพิธีถามคำถามกับผีปู่ย่า โดนการวนไข่ (ไข่ไก่) รอบมือ

และวางลงบนมือ โดยคำถามจะเป็นลักษณะใช่หรือไม่

เมื่อถามเสร็จไข่จะตั้งขึ้น หลังจากนั้นมีการร้องเพลง และรำดาบ

แม่เมืองโสภา มาพร้อมกับวงมโหรี แม่หมอนำดาบมากระทบกัน

ตามจังหวะของวงดนตรี

ทั้งหมดที่ทำไม่ประสบความสำเร็จ

เปาโลตัดสินในเริ่มทำพิธีไล่ผีแบบคริสต์ ครั้งนี้โสภาขอมาดูด้วย

แต่ก็ต้องพลาดโดนมาลี จับแขนระหว่างทำพิธี

ทำให้เปาโลเห็นภาพหลอน ของตัวเองกับแม่...

สภาพห้องที่เปาโลกับแม่อยู่ เต็มไปด้วยเข็มฉีดยากองเต็มพื้น

ตัวเปาโลร้องไห้อยู่ริมห้องพยายามคลานเข้าไปหาแม่ที่อยู่กลางห้อง

แม่ที่อยากได้ติดยาเสพย์ติด อ้อนวอนขอให้เปาโลฉีดยาให้แม่

เปาโลเข้าไปห้ามแม่ใช้หลอดฉีดยา แม่จึงหันมาจะฉีดเข้าเปาโลแทน

เปาโลรอดจากเหตุการณ์หลอนนั้นได้ด้วยความช่วยเหลือของโสภา

เปาโลและโสภา ได้หารือกันเรื่องการจัดการผี-ปีศาจ

จากมุมมองของแต่ละคน ได้ความว่า บ้านโสภาเป็นหมอเหยากันทั้งตระกูล

พอยายโสภาเสีย โสภาก็เลยรับช่วงต่อ และโสภาสามารถแยกแยะได้

ว่าอันไหนพิธีกรรมแท้พิธีกรรมเทียม จากพวกของไหว้ที่เตรียม

ทั้งคู่มีความเชื่อไปในทำนองเดียวกับว่า ผีและปีศาจ เป็นความเชื่อที่ใกล้เคียงกัน

สามารถปราบและจัดการได้ด้วยแรงศรัทธา

ผีร้ายที่สิงอยู่ในร่างของมาลีนั้นทรงพลังอำนาจเป็นอย่างมาก

แม่เมืองโสภาได้ร่วมมือกับยายเฒ่าร่างทรงที่มีพลังกว่าตัวเอง

ทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรม จากการสำแดงฤทธิ์ของผีที่อยู่ในตัวมาลี

ผีของมาลีได้จัดการกับยายเฒ่าจนถึงแก่กรรม

แต่ด้วยการผสานพลังของ เปาโล และโสภาทำให้มาลีสงบลง

แต่ก็เพียงชั่วคราว

คืนถัดมามาลีเริ่มทำตัวแปลกๆ กินของดิบและไปทำร้ายคนนอกบ้าน

โชคดีที่เปาโลและเผือกไปตามจับกลับมาได้

ผลอ้วกของตามิ่งที่เปาโลนำไปตรวจสอบ

ถูกวิเคราะห์ว่ามียานอนหลับจำนวนมากผสมอยู่

ยายแสงพยายามจะป้อนข้าวให้กับมาลีอีกครั้ง แต่มาลีไม่ยอมกิน

ยายแสงใช้กำลังบังคับ แต่ก็ต้องมาสลบไปด้วยพลังของตามิ่ง

เปาโล โสภา และเผือก กลับมาที่บ้านและพบว่าทั้งหมดหายไป

ทั้งสามออกตามหาทุกที่คิดว่า อีกสามคนจะไปได้แต่ไม่เจอ...

ในขณะเดียวกัน ณ โบสถ์ร้าง แห่งเดียวกับเมื่อ 40 ปีก่อน

คนที่ถูกมัดกับเก้าอี้ตอนนี้คือมาลี

ยายแสงตื่นขึ้นมาแล้วตะโกนใส่หน้าตามิ่งว่า แกไม่มีทางที่จะช่วยลูกสาวได้

เดี๋ยวคืนนี้ก็จะครบ 3 วันแล้ว ไม่มีใครจะช่วยมาลีได้

ตามิ่งซัดหน้ายายแสงพร้อมกับเล่าความพยายามของตัวเองตลอดชีวิตที่ผ่านมา

ว่าเค้าต้องหลอกแต่งงานกับผู้หญิงไม่รู้กี่คนเพื่อมาทำพิธี ให้ผีกัดกินแทนลูกสาว

และครั้งนี้เค้าจะใช้ยายแสงนี่แหละ แลกกับชีวิตลูกสาวเค้า

ทีมของเปาโลที่กำลังออกตามหา ตามิ่งและมาลี ถึงทางตัน

เปาโลได้รับคำแนะนำจากคริสตจักรว่าเราต้องรู้จักชื่อปีศาจก่อน ถึงจะกำจัดมันได้

โสภาเลยเสนอว่าจะพึ่งพลังของปู่ย่าอีกครั้ง

โดยต้องไปเตรียมข้าวของมาให้ครบ และเริ่มทำพิธีวนไข่

ผีย่าปรากฎมาเป็นร่างให้เรา(คนดู)เห็น และมาช่วยโสภาตั้งไข่

จนพบกับคำตอบว่า ทั้งสามคนหายไปอยู่ที่ไหน

ปรากฎว่าเป็นโบสถ์ร้างที่ไม่มีอยู่ในแผนที่ แต่เผือกรู้ว่าตั้งอยู่ที่ไหน

ทั้งสามมุ่งหน้าไปที่โบสถ์ในทันที

ที่โบสถ์ตามิ่งกรีดเลือดที่มือของยายแสง

เพื่อวาดยันต์บนพื้นด้วยเลือดของเธอเป็นวงกลม

เพื่อท่องบทสวดให้ผีร้ายในตัวของมาลี ให้ย้ายมาอยู่ที่ยายแสง

พิธีกรรมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นและผีได้เข้าสิงมาลี 100%

มาลีในร่างผีปฏิเสธการย้ายไปอยู่ในร่างของยายแสง

ยายแสงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกทำร้ายโดยตามิ่ง

ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นร่างสำหรับวิญญาณร้ายได้

เปาโล โสภาและเผือก เข้ามาในโบสถ์จนได้

ทั้งหมดพยายามขับไล่ผีร้ายในร่างมาลี

สายเกินไปมาลีนำปืนมายิงเข้าที่หัวของตามิ่ง ดัง "ปัง" ตามิ่งแน่นิ่งไป

มาลีผ่านทั้ง 3 คนออกไปทางประตูโบสถ์

เผือกวิ่งตามออกไปในทันที โดยหารู้ไม่ว่านี่คือกับดัก

เปาโลและโสภาตะโกนเรียกเผือกในทันที และวิ่งตามออกไป

เผือกต้องพบกับภาพหลอนความผิดบาปในจิตใจตัวเอง

จากการแจ้งตำรวจไปจับเพื่อนชาวเกาหลีและหนีเอาตัวรอดคนเดียว

ในภาพหลอนนั้นเค้ากระโดดลงจากตึก เพื่อชดใช้ความผิด

ในความเป็นจริงนั้น เค้ากระโดดลงจากต้นไม้สูง

เปาโลและโสภาไม่สามารถหยุดเหตุการณ์ตรงหน้าได้

เปาโลที่วิ่งเข้าไปเจอกับมาลีก่อน ต้องพบกับภาพหลอนของตัวเองอีกครั้ง

แม่ของเปาโลที่ต้องการยาและเปาโลที่ต้องเป็นคนฉีดให้แม่

ก่อนที่เปาโลจะสติหลุดจากเหตุการณ์นี้

เสียงแคนก็ดังขึ้น ทำให้ทั้งหมดตื่นจากภวังค์

โสภาที่มาพร้อมกับผีย่า มาเป่าแคนและร้องบทสวดไล่ผี

ผีหลุดจากร่างของมาลีด้วยพลังของโสภาและผีย่า

เปาโลได้รู้ชื่อของผีในตัวมาลีว่าคือ "ผีฟ้าพญาแถน"

ผีมาลีได้หันไปจัดการกับผีย่าที่มากับโสภา

เปาโลได้จังหวะจึงเอ่ยคำในพระคัมภีร์อีกครั้ง และเอ่ยนามของปีศาจ

"ผีฟ้าพญาแถน"

ผีร้ายร่างสลายคามือที่ถือกางเขนของเปาโล

ที่งานประจำปีของท่าแร่

มาลีและเผือก(ที่กำลังเข้าเฝือกแขนขา)

เดินมาหาโสภาและเปาโลที่กำลังชมแสงไฟงานประจำปี

ทั้งหมดได้รับแจ้งว่า ตามิ่งหายไปจากที่โบสถ์

มาลีตัดสินใจอยู่ที่ท่าแร่ ส่วนเปาโลกำลังจะกลับกรุงเทพ

เปาโลชวนโสภาไปไล่ผีด้วยกันที่เมืองกรุง แต่โสภาปฏิเสธ

โสภาว่าน่าจะต้องมีภารกิจที่นี่อีกเยอะ

ณ ริมแม่น้ำ ไกลออกไปจากงานเทศกาล

ตามิ่งกำลังกินซากสัตว์และเนื้อดิบอยู่

เค้ามองดูไฟประดับสว่างทั่วเมืองอยู่ไกลๆ

จบ.,

บทสรุป

หนังพยายามหาจุดสมดุลระหว่าง 2 ความเชื่อ การที่เปาโลยอมรับความเชื่อพื้นถิ่นของโสภา และโสภาร่วมมือกับพิธีคริสต์ สะท้อนถึงการหาจุดกึ่งกลางระหว่างศาสนาคริสต์และความเชื่ออีสาน

ศาสนาคริสต์

ตัวละครหลักบาทหลวงเปาโลผู้เชื่อมั่นในพระเจ้า ไล่ผีด้วยกางเขนและบทสวดในพระคัมภีร์ มีน้ำมนต์ช่วยด้วย ทำให้ผีกลัวได้

ศาสนาพุทธ(ผี)

หมอเหยา แม่เมืองโสภา ร่างทรงผีบรรพบุรุษความเชื่อแบบไทย ใช้ของวิเศษผ้าคลุมล่องหน การอัญเชิญวิญญาณ บทสวดด้วยภาษาถิ่น

ตัวปีศาจทรงพลังมากเกินกว่าความเชื่อใดความเชื่อหนึ่งจะรับมือได้

หนังไม่ได้บอกว่าความเชื่อใดชนะ แต่แสดงให้เห็นว่า “การรวมพลังของสองศรัทธา” นำไปสู่การเปิดโปงความจริงในชุมชน

การนำเสนอพิธีเหยา แคน และยันต์ รวมถึงประเพณีแห่ดาวคริสต์มาสของท่าแร่ เป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นและเอกลักษณ์ของสกลนคร

ทั้ง cg และ production ต่างๆทำออกมาได้อย่างลงตัว

เหมือนได้ดู The Conjuring และ The Exorcist แบบไทยๆ

การตั้งไข่ของโสภานำเสนออกมาได้น่าสนใจ

ชอบการที่มีผีแม่ย่ามาปรากฎตัว ทำให้รู้ว่าที่ไข่ตั้งขึ้นเพราะมีผีย่ามาอยู่ข้างๆ

แต่ในส่วนของตัวบาทหลวงเปาโลเอง ยังไม่มีขบวนท่าที่เป็นที่จดจำนัก

การท่องบทสวดและชูไม้กางเขนค่อนข้างเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมา

ชื่อของปีศาจที่เราได้รับรู้ในตอนจบ เป็นชื่อของผีฟ้าบรรพบุรุษที่คอยปกป้อง

จากการสืบค้นวิกิพีเดีย ผีฟ้าพญาแถนนั้น ชาวไทยมีความเชื่อว่าเป็นเทวดามากกว่าเป็นผี ผีฟ้าจึงเป็นผีที่อยู่ระดับสูงกว่าผีชนิดอื่น ๆ ส่วนแถนนั้น มีความเชื่อว่าเป็นคำเรียกรวมถึงเทวดา

ทำให้รู้สึกว่าเป็นชื่อที่ไม่ได้มีเอกลักษณ์

การรู้ชื่อเพื่อใช้กำจัดปีศาจนั้นเป็นกิมมิคอย่างหนึ่งของการไล่ผีแบบคริสต์

แต่เข้าใจว่าเป็นเพราะพลังอำนาจของผีตนนี้ค่อนข้างยิ่งใหญ่ จึงใช้ชื่อนี้ขึ้นมา

ด้วยความที่ผีมีพลังอำนาจมากจนสามารถควบคุมความผิดบาปในใจได้

(คล้าย penny wise ในหนัง it)

แต่คนที่หลงอยู่ในภาพหลอนไม่สามารถหาทางออกมาเองได้

ทำให้รู้สึกว่าพลังอำนาจปีศาจตัวนี้มันมากเกินไปหน่อย

ความคิดเห็นเพิ่มเติม

หนังสนุกครบรถ การแสดงของทุกนักแสดงนั้น เรียกได้ว่าสะกดผู้ชมอยู่

ตัวของแพรวาและคุณเอก ทเธศนั้นไม่มีข้อกังขาสำหรับบทบาทผีในเรื่อง

การหลอกผีหลายๆฉากทำได้ดีมาก แต่ส่วนใหญ่จะเล่นกับการบิดเบี้ยว

ผิดรูปของร่างกาย และการกรีดนู่นกรีดนี่ให้เกิดเลือด รวมไปถึงฉากเข็มฉีดยา