Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
30 ส.ค. เวลา 09:44 • ประวัติศาสตร์
ความฝันในหอแดง 22 เจี่ยยุ่ยเกี้ยวซีเฟิ่ง
พี่เฟิ่งเดินนำพวกแม่บ้านจวนหนิงลัดเลาะผ่านประตูข้างมา แลเห็นสวนบุปผาชุมนุม 会芳园 (หุ้ยฟางหยวน)
黄花满地,白柳横坡。
小桥通若耶之溪,曲径接天台之路。
石中清流滴滴,篱落飘香;
树头红叶翩翩,疏林如画。
西风乍紧,犹听莺啼;
暖日常暄,又添蛩语。
遥望东南,建几处依山之榭;
近观西北,结三间临水之轩。
笙簧盈座,别有幽情;
罗绮穿林,倍添韵致。
เบญจมาศสะพรั่งเหลืองสกาว
ไม้หลิ่วขาวยืนต้นรายรอบเนิน
คลองยว่อเหยข้ามสะพานน้อยทอดเดิน
ทางคดเคี้ยวเพลิดเพลินสู่ลานฟ้า
หว่างหมู่หินไหลรินสายธารน้อย
กลิ่นหอมลอยมาจากรั้วพฤกษา
บนยอดไม้ใบแดงพลิ้วปลิวมา
ทิวป่าโพ้นประหนึ่งภาพเขียนปาน
ลมประจิมนั้นพลันกรรโชกพัด
แซ่ขนัดขมิ้นแข่งขับขาน
แดดอุ่นไอเช่นเคยเชยชื่นบาน
จิ้งหรีดประสานเสียงระงมดัง
ไกลออกไปเบื้องอาคเนย์ทิศ
ศาลาลอยประชิดภูอยู่หลายหลัง
ใกล้เข้ามาทางเบื้องพายัพยัง
สามหลังริมน้ำศาลากลางระเบียง
แว่วแคนเซิงไพเราะทุกลำแคน
เสนาะแสนหามีเศร้าสร้อยเสียง
ชุดไหมบางประดับไพรน่ามองเมียง
พร้อมเพรียงเพิ่มเสน่หาน่าภิรมย์
(คลองยว่อเหย 若耶溪 ชื่อคลองในเจ้อเจียง ตำนานว่านางซีซือ 西施 (ไซซี) ซักผ้าที่คลองแห่งนี้)
(เซี่ย 榭 ศาลาลอย ; เซวียน 轩 ศาลากลางระเบียง)
(เซิง 笙 เครื่องเป่าคล้ายแคน ลูกแคนเรียงเป็นวงบนเต้าแคน)
พี่เฟิ่งค่อยสาวเท้าก้าวชมความงามของทิวทัศน์ในสวน คนผู้หนึ่งพลันถลันจากหลังเขามาประจันหน้าพี่เฟิ่งกล่าวว่า
“พี่สะใภ้สบายดี”
พี่เฟิ่งตกใจก้าวเท้าถอยหลังว่า “นี่นายท่านยุ่ยหรอกหรือ”
เจี่ยยุ่ย 贾瑞 ว่า “พี่สะใภ้จำข้าไม่ได้แล้วหรือ”
พี่เฟิ่งว่า “ไม่ใช่จำไม่ได้ แต่กระทันหัน ไม่คิดว่าจะพบนายท่านที่นี่”
เจี่ยยุ่ยว่า “คงเป็นเพราะพี่กับข้ามีวาสนาต่อกัน ข้าลอบลุกจากที่นั่งมาเมื่อครู่ มาเดินเล่นเงียบๆ แถวนี้ ไม่คิดว่าจะพบพี่ นี่แหละวาสนา”
พูดพลางจ้องมองนางไม่วางตา
พี่เฟิ่งเป็นคนฉลาด เห็นท่าทางเจี่ยยุ่ย ย่อมคาดเดาได้แล้วแปดเก้าส่วน จึงแสร้งยิ้มให้ว่า
“มิน่าเล่า พี่ชายของท่านมักเอ่ยชมท่านเสมอ มาพบกันวันนี้ ฟังท่านพูดไม่กี่คำก็รู้แล้วว่าฉลาดและเป็นกันเอง ตอนนี้ข้าต้องไปหาพวกไท่ไท่ ไม่สะดวกจะคุยด้วย ไว้มีเวลาค่อยพบกันใหม่”
เจี่ยยุ่ยว่า “ข้าจะไปเยี่ยมพี่ที่บ้าน ก็เกรงว่าพี่ท่านยังสาว คงไม่ยอมออกมาพบได้ง่าย”
พี่เฟิ่งแสร้งยิ้มว่า “เครือญาติบ้านเดียวกัน เกี่ยงอันใดเรื่องอายุ”
เจี่ยยุ่ยได้ฟัง แอบดีใจตรองว่า “คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะโชคดี”
ก่อนสถานการณ์จะเลยเถิด พี่เฟิ่งว่า “ท่านรีบกลับไปนั่งที่เถิด เดี๋ยวพวกเขาจับได้ว่าท่านหายไป จะถูกปรับให้ดื่มอีก”
เจี่ยหยงได้ฟัง ชาไปครึ่งตัว ค่อยๆ เดินกลับ แล้วเหลียวหลังมามอง
พี่เฟิ่งจงใจเดินช้าลง รอให้เจี่ยยุ่ยเดินพ้นไปไกล ตรองในใจว่า
“นี่แหละที่เขาว่า รู้จักคน รู้จักหน้า ไม่รู้จักใจ เดรัจฉานอยู่ในฝูง ต้องเล่นงานให้ตายในมือข้า ให้รู้ฤทธิ์กันบ้าง”
พี่เฟิ่งเดินเลี้ยวอ้อมเนิน เห็นแม่บ้านสามคนกำลังรีบร้อนเดินมา พอเห็นพี่เฟิ่งก็ยิ้มว่า
“คุณนายของพวกเราเห็นคุณนายรองยังไม่มาสักที จึงให้พวกบ่าวรีบมาเชิญ”
พี่เฟิ่งว่า “คุณนายของพวกเจ้า ใจร้อนอย่างกับโดนของไปได้”
พี่เฟิ่งยังคงเดินช้าๆ ถามว่า “การแสดงผ่านไปกี่ชุดแล้ว”
แม่บ้านว่า “ได้แปดเก้าชุดแล้ว”
ถามกันอยู่นั้น ก็มาถึงประตูหลังของหอเทียนเซียง 天香楼 (หอสุคนธ์สวรรค์) เห็นเป่าวี่กำลังเล่นอยู่กับพวกสาวใช้และบ่าวชาย พี่เฟิ่งทักว่า
“น้องเป่าวี่ อย่าเล่นซนนัก”
สาวใช้นางหนึ่งหันมาบอกว่า
“พวกไท่ไท่อยู่บนหอ เชิญคุณนายขึ้นทางนี้”
พี่เฟิ่งถกกระโปรงขึ้นเล็กน้อย ค่อยๆ เดินขึ้นบันได นางอิ๋วสื้อมายืนรออยู่ที่หัวบันได ยิ้มให้ว่า
“พวกเจ้าสองคนพอพบหน้ากันก็แยกกันไม่ออก พรุ่งนี้เจ้าก็ย้ายมาอยู่กับนางดีไหม เอาละนั่งลง เชิญดื่มสักจอก”
พี่เฟิ่งเดินไปหาสิงฮูหยิน หวางฮูหยินแล้วขออนุญาตนั่ง นางอิ๋วสื้อนำรายการการแสดงมาให้พี่เฟิ่งเลือก พี่เฟิ่งว่า
“พวกไท่ไท่อยู่ที่นี่ ข้าไม่บังอาจเลือก”
สิงฮูหยิน หวางฮูหยินว่า “พวกเราเลือกกันไปหลายชุดแล้ว เจ้าก็เลือกบ้าง”
พี่เฟิ่งลุกขึ้น รับรายการแสดงมาดูแล้วเลือกชุด 《วิญญานคืนชีพ 还魂》และ 《บรรเลงพิณ 弹词》 ส่งรายการแสดงกลับไปแล้วว่า
“ตอนนี้กำลังแสดงเรื่อง 《สองขุนนาง 双官诰》 อยู่ พอจบแล้วแสดงสองชุดนี้ต่อ แล้วก็คงได้เวลาพอดี”
(วิญญานคืนชีพ 还魂 จากเรื่องศาลาโบตั๋น 牡丹亭 ตอนที่นางตู้ลี่เหนียง 杜丽娘 ตายแล้วฟื้นคืนชีพ)
(บรรเลงพิณ 弹词 บรรยายรักรันทดของพระเจ้าถังเสวียนจง 唐玄宗 กับหยางกุ้ยเฟย 杨贵妃)
(สองขุนนาง 双官诰) สมัยชิง สามีภรรยาพลัดพราก ภรรยาเลี้ยงบุตรโดยลำพังอย่างยากเข็ญจนเติบใหญ่ ได้พบกับสามี และได้เป็นขุนนางทั้งสามีและบุตร)
หวางฮูหยินว่า “นั่นสินะ เลิกเช้าหน่อย พี่ชายเจ้ากับพี่สะใภ้จะได้พักผ่อน ยิ่งกำลังมีเรื่องกังวลใจอยู่”
นางอิ๋วสื้อว่า “พวกไท่ไท่ท่านใช่ว่าจะมาได้บ่อย พวกสาวๆ ก็คุยกันถูกคอ เวลาก็ยังเช้าอยู่”
พี่เฟิ่งลุกขึ้นยืนมองลงไปชั้นล่างถามว่า “พวกนายท่านไปไหนกันหมด”
แม่บ้านนางหนึ่งตอบว่า “พวกนายท่านเพิ่งไปกันยังศาลาหนิงซี 凝曦轩 นำวงเครื่องตีสิบชิ้น 十番 กับสุราไปด้วย”
(十番 วงดนตรีมีเครื่องเคาะตีเป็นหลัก และเครื่องเป่า)
พี่เฟิ่งว่า “อยู่ที่นี่คงไม่สะดวก ไม่รู้แอบไปทำอะไรกันลับลับล่อล่อ”
นางอิ๋วสื้อยิ้มว่า “ใครจะไปจริงจังอย่างเจ้าเล่า”
พอการแสดงที่เลือกไว้จบลง ก็เก็บโต๊ะสุราตั้งโต๊ะอาหาร หลังอาหารพากันมาชมสวน แล้วเข้ามานั่งดื่มน้ำชาต่อในห้องรับแขก เสร็จจากน้ำชา ก็ให้เตรียมรถ แล้วได้เวลากล่าวอำลามารดานางอิ๋วสื้อ นางอิ๋วสื้อนำเหล่าสตรีทั้งอนุและสะใภ้มาส่ง เจี่ยเจินนำเหล่าลูกหลานชายยืนรออยู่ข้างรถ กล่าวกับสิงฮูหยิน หวางฮูหยินตอนออกมาว่า
“ท่านอาหญิงทั้งสองพรุ่งนี้โปรดแวะมาเยี่ยมเยียนใหม่”
หวางฮูหยินว่า “พอแล้ว วันนี้นั่งทั้งวันจนเหนื่อย พรุ่งนี้คงต้องพัก” แล้วก็พากันขึ้นรถ
เจี่ยยุ่ยลอบส่งสายตาให้พี่เฟิ่ง
เจี่ยเจินกลับเข้าบ้าน หลี่กุ้ยจูงม้ามาให้เป่าวี่ขี่ตามพวกหวางฮูหยินกลับไป
หลังจากวันนั้น พี่เฟิ่งก็แวะเวียนมาเยี่ยมนางฉินสื้อเป็นระยะ อาการของนางก็ทรงทรงทรุดทรุด ทำเอาเจี่ยเจิน อิ๋วสื้อ เจี่ยหยงกังวลยิ่งนัก
ทางด้านเจี่ยยุ่ยมาจวนหยงไม่ว่าครั้งใด พี่เฟิ่งก็ให้เผอิญไปจวนหนิงเสียทุกครั้ง
วันตงจื้อ 冬至 (วันเหมายัน) ปีนี้ตรงกับวันที่สามสิบเดือนสิบเอ็ด ก่อนวันเทศกาลไม่กี่วัน แม่เฒ่าเจี่ย หวางฮูหยิน พี่เฟิ่งใช้ให้คนไปเยี่ยมดูอาการนางฉินสื้อทุกวัน แต่ละวันกลับมารายงานว่า
“อาการช่วงนี้ไม่ทรุดลง แต่ก็ไม่ดีขึ้น”
หวางฮูหยินกล่าวกับแม่เฒ่าเจี่ยว่า “อาการของนางมาถึงวันเทศกาลนี้ยังไม่ทรุดก็นับว่ามีความหวังแล้ว”
แม่เฒ่าเจี่ยว่า “ก็จริงอยู่ เด็กดี หากเป็นอะไรไป คงทำให้คนเจ็บช้ำใจนัก”
แล้วหันมาหาพี่เฟิ่งว่า
“พวกเจ้าสองคนสนิทกันมาก พรุ่งนี้วันที่หนึ่งเป็นวันมงคล รอพ้นวันพรุ่งนี้ เจ้าไปเยี่ยมนางอีกหน สังเกตให้ละเอียด หากอาการนางดีขึ้นก็กลับมาบอกข้า ปกตินางชอบกินอะไร เจ้าก็จัดให้คนเอาไปให้สม่ำเสมอ”
พี่เฟิ่งรับปาก พอถึงวันที่สอง หลังอาหารเช้าก็มาเยี่ยมฉินสื้อที่จวนหนิง แม้อาการจะไม่ทรุดลง แต่ใบหน้าเนื้อตัวก็ผอมลีบจนติดกระดูกแล้ว จึงนั่งคุยกับนางอีกครึ่งค่อนวัน แล้วพูดปลอบอีกว่าโรคนี้คงไม่เป็นไรแล้ว
ฉินสื้อว่า “จะเป็นไรหรือไม่ วสันต์นี้ก็รู้แล้ว นี่เพิ่งผ่านตงจื้อมาคงยังไม่เป็นไร หรือจะหายแล้วไม่รู้ได้ พี่ช่วยเรียนเหล่าไท่ไท่ กับไท่ไท่ให้สบายใจ เมื่อวานเหล่าไท่ไท่ส่งขนมไส้พุทรากวนมาให้ ข้ากินไปสองชิ้นดูเหมือนช่วยขับถ่ายดีขึ้น”
พี่เฟิ่งว่า “พรุ่งนี้ข้าจะส่งมาให้อีก เดี๋ยวข้าจะไปเยี่ยมท่านแม่เจ้า แล้วจะกลับไปรายงานเหล่าไท่ไท่”
ฉินสื้อว่า “ข้าฝากพี่ช่วยคารวะเหล่าไท่ไท่และไท่ไท่ด้วย”
พี่เฟิ่งรับคำ แล้วกลับออกมาหานางอิ๋วสื้อ นางอิ๋วสื้อว่า
“เจ้าเห็นว่าสะใภ้เป็นเช่นไรบ้าง ในสายตาเจ้า”
พี่เฟิ่งก้มหน้าอยู่ครึ่งวันจึงว่า “ดูท่าจะไม่มีทางแล้ว ท่านควรจัดเตรียมตามความจำเป็นได้แล้ว”
อิ๋วสื้อว่า “ข้าก็แอบสั่งคนให้เตรียมการไว้บ้างแล้ว แต่เจ้าสิ่งนั้น(โลงศพ) ยังหาไม้ดีไม่ได้ จึงไว้ค่อยจัดการ”
พี่เฟิ่งดื่มน้ำชา คุยต่อสักพักแล้วว่า “ข้าต้องรีบกลับไปรายงานเหล่าไท่ไท่แล้ว”
อิ๋วสื้อว่า “เจ้าค่อยค่อยพูด อย่าทำให้ท่านผู้เฒ่าตกใจ”
พี่เฟิ่งว่า “ข้ารู้”
พี่เฟิ่งลุกขึ้นลากลับมาหาแม่เฒ่าเจี่ย แล้วว่า
“ภรรยาพี่หยงฝากคำนับเหล่าไท่ไท่ และไท่ไท่ บอกว่านางดีขึ้นบ้างแล้ว ขอให้บรรพชนวางใจ”
แม่เฒ่าเจี่ยว่า “เจ้าเห็นแล้วเป็นเช่นไร”
พี่เฟิ่งว่า “เฉพาะหน้านี้ยังไม่เป็นไร สตินางยังดีอยู่”
แม่เฒ่าเจี่ยฟังแล้วนั่งงึมงำอยู่ครึ่งวัน จึงหันมาบอกพี่เฟิ่งว่า “เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพักผ่อนเถิดไป”
พี่เฟิ่งรับคำกลับออกมา ไปหาหวางฮูหยินก่อน แล้วค่อยกลับบ้าน ผิงเอ๋อ 平儿 อบชุดอยู่กับบ้านนำมาให้ผัด พี่เฟิ่งนั่งลงถามว่า “ที่บ้านไม่มีเรื่องอะไรละมัง”
ผิงเอ๋อยกน้ำชามาให้ ตอบว่า “ไม่มีเรื่องอันใด มีดอกเบี้ยสำหรับเงินสามร้อยตำลึง อาซ้อของว่างเอ๋อชำระมา ข้ารับไว้แล้ว ยังมีนายท่านยุ่ย 瑞 ให้คนมาถามว่าคุณนายอยู่บ้านหรือไม่ เขาจะแวะมาเยี่ยม”
พี่เฟิ่งฟังแล้วครางฮือว่า “เดรัจฉานสมควรตาย ดูว่าจะมาไม้ไหน”
ผิงเอ๋อว่า “นายท่านยุ่ยเพราะอะไรถึงมาอยู่เรื่อย”
พี่เฟิ่งจึงนำเรื่องที่พบกันในสวนที่จวนหนิงเมื่อเดือนเก้าเล่าให้นางฟัง
ผิงเอ๋อว่า “คางคกคิดกินเนื้อห่านฟ้า น่าสมเพชเวทนาไม่เจียมตน อุตริเช่นนี้ ต้องไม่ให้ตายดี”
พี่เฟิ่งว่า “รอเขามา ข้ามีวิธี”
(จบบทที่สิบเอ็ด)
ตอนก่อนหน้า : งานวันเกิดเจี่ยจิ้ง
https://www.blockdit.com/posts/68b01b93f2dd679c9df0903b
ตอนถัดไป : เล่นงานเจี่ยยุ่ย
1 บันทึก
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ความฝันในหอแดง
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย