11 พ.ย. เวลา 03:00 • หนังสือ

ศิลปะแห่งการลงทุน - The Behavioral Investor

ในโลกการลงทุนที่เต็มไปด้วยข้อมูลมหาศาลและความผันผวนของตลาด สิ่งที่ดูจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลต่อการลงทุนของเราน่าจะเป็นรายงานสภาพเศรษฐกิจหรือบทวิเคราะห์หุ้นจากสถาบันการเงินต่างๆ หากแต่หนังสือ The Behavioral Investor ของ Daniel Crosby ได้เปิดเผยความจริงที่นักลงทุนมักมองข้ามว่า ศัตรูที่แท้จริงของนักลงทุนคืออารมณ์และพฤติกรรมของเราต่างหาก
โดยคุณ Crosby ได้สรุปบทเรียนสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจตนเอง และจัดการพฤติกรรมเพื่อให้การลงทุนมั่นคงและยั่งยืน ได้แก่
1. ยอมรับว่ามนุษย์ไม่ใช่นักลงทุนที่มีเหตุผลสมบูรณ์
มนุษย์เต็มไปด้วยอคติที่ฝังลึก เช่น ความมั่นใจเกินจริง (overconfidence) การตามฝูงชน (herding) หรือความกลัวการขาดทุน (loss aversion) ยิ่งเราคิดว่าตนเองมีเหตุผลสมบูรณ์มากเท่าใด เราจะยิ่งพลาดหนักขึ้น เพราะเราจะไม่ระวังอารมณ์ของตนเอง
ดังนั้นการเริ่มต้นด้วยการยอมรับความไม่สมบูรณ์นี้ จะทำให้เราระมัดระวังและสร้างระบบป้องกันตัวเองจากข้อผิดพลาดได้มากขึ้น
2. สร้างระบบการลงทุน (Rules-based Investing)
ความผันผวนของตลาดดึงดูดให้นักลงทุนทำการตัดสินใจบ่อยครั้งตามอารมณ์ เช่น ซื้อเพราะกลัวพลาดโอกาส (FOMO) หรือขายเพราะตื่นตกใจ แต่ระบบการลงทุนที่วางกฎชัดเจนล่วงหน้า เช่น กำหนดเกณฑ์ซื้อ–ขาย, การกระจายพอร์ต, หรือการรีบาลานซ์ จะช่วยลดโอกาสที่เราจะเปลี่ยนใจเพราะความรู้สึกชั่วครู่
ให้ระบบที่เราสร้างเป็นรั้วที่กั้นอารมณ์ชั่ววูบไม่ให้เข้ามาแทรกแซงในกระบวนการตัดสินใจลงทุนระยะยาว
3. จัดการความกลัวการขาดทุน (Loss Aversion)
มนุษย์มีความเจ็บปวดจากการขาดทุนมากกว่าความสุขจากการได้กำไรแม้จะได้เงินจำนวนเท่ากัน นี่คือเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนมักขายหุ้นที่กำไรเร็วเกินไป แต่กลับทนถือหุ้นที่ขาดทุนไว้นานเกินควร การรับมือคือการปรับมุมมองให้ยาวขึ้น เช่น มองผลตอบแทนระยะยาวเป็น “สิบปี” แทนที่จะเป็น “สิบวัน” รวมถึงกำหนดแผนล่วงหน้าว่า หากเกิดการขาดทุนในระดับหนึ่งจะรับมืออย่างไร เพื่อไม่ให้ความเจ็บปวดทำลายวินัยการลงทุน
4. ใช้ “Checklist” ทุกครั้งก่อนลงทุน
เหมือนนักบินที่ต้องคอยตรวจสอบเครื่องบินก่อนขึ้นบิน นักลงทุนก็ควรมี “รายการคำถาม” เพื่อลดความผิดพลาด เช่น:
  • ​เข้าใจธุรกิจและโมเดลรายได้จริงหรือไม่?
  • ​แหล่งความเสี่ยงที่สำคัญคืออะไร?
  • ​การตัดสินใจครั้งนี้มาจากการวิเคราะห์อย่างดีแล้ว หรือเพราะข่าวที่เพิ่งเห็นเมื่อเช้า?
Checklist คือเครื่องมือที่ช่วยให้เราหยุดคิด ก่อนลงมือทำ และช่วยให้การลงทุนสอดคล้องกับเหตุผลมากกว่าอารมณ์
5. ปรับสภาพแวดล้อมรอบตัว
มนุษย์ถูกชักจูงได้ง่ายจากสิ่งที่อยู่รอบตัว เช่น ข่าวการเงินที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือความเห็นของเพื่อนร่วมงานที่พูดถึงหุ้นร้อนแรงบางตัว ดังนั้นการจัดการสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น เช่น จำกัดการเสพข่าว, เลือกอ่านบทวิเคราะห์ที่มีคุณภาพ, หรืออยู่ในวงสนทนากับคนที่มีวินัย จะช่วยลดโอกาสที่เราจะถูกดึงเข้าสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด
6. สร้างความยืดหยุ่นทางจิตใจ (Emotional Resilience)
ความผันผวนคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในตลาด นักลงทุนที่แข็งแรงทางจิตใจจะรับมือได้ดีกว่าคนที่หวั่นไหวง่าย การฝึกสมาธิ ออกกำลังกาย หรือมีกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย จะทำให้เราสามารถทนต่อความกดดันได้โดยไม่ตัดสินใจผิดพลาด เพราะตลาดจะคอยทดสอบความอดทนของเราอยู่เสมอ ผู้ที่ควบคุมใจได้ดีจึงจะเป็นผู้ที่อยู่รอดในระยะยาว
7. ลงทุนในตัวเองก่อนเสมอ
สุดท้าย ทักษะและความรู้คือสินทรัพย์ ที่ไม่มีใครพรากไปได้ การเรียนรู้เรื่องการเงิน การพัฒนาทักษะการทำงาน และการสร้างวินัยส่วนตัว เป็นสิ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในระยะยาว เมื่อเราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เราก็จะมีศักยภาพในการสร้างรายได้และตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น
The Behavioral Investor สอนเราว่า การลงทุนไม่ใช่การต่อสู้กับตลาด แต่คือการต่อสู้กับตัวเอง หากเราควบคุมอารมณ์ จัดการสภาพแวดล้อม และสร้างระบบที่มั่นคง เราก็จะไม่เพียงแค่ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังสามารถสร้างความสงบใจและความมั่งคั่งไปพร้อมกัน
โฆษณา