Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เที่ยวทีละตอน กับป้าเจี๊ยบ
•
ติดตาม
2 ก.ย. เวลา 13:43 • ท่องเที่ยว
รถเมล์จากอินเลไปพุกาม
เช้าอีกวันที่อินเล พวกเราตื่นเช้ากันมาก ลงมาด้านหน้าโรงแรมก่อนหกโมง ด้วยความอยากออกมาเดินชมบรรยากาศรอบๆ อากาศยามเช้าหนาวเย็น มีหมอกบางเบาขึ้นในลำน้ำ ทุกสิ่งดูสวยงามจนฉันและเพื่อนวิ่งไปถ่ายรูป อยากจะเก็บทุกสิ่งทั้งหมดไว้เป็นภาพถ่ายในเมมโมรี่การ์ด แทนบันทึกแค่ความทรงจำ รอบๆ นั้น มีทั้งเรือ มีทั้งเจดีย์ใหญ่ และผู้คนที่แต่งตัวด้วยโสร่ง เด็กนักเรียนบางคนยังนุ่งโสร่งไปโรงเรียน
ถ้าเราเห็นภาพนี้ในประเทศไทย เราอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่เราอยู่ในพม่าเป็นพม่าแท้ๆ ดั้งเดิม และด้วยเป็นวิถีชีวิตแบบที่เขาใช้ชีวิตอยู่กันจริงทุกเมื่อเชื่อวัน ฉันจึงสนุกกับการถ่ายรูปมาก
แต่เราอยู่ตรงนั้นได้ไม่นาน ต้องรีบกลับไปโรงแรม เพราะในช่วงเช้าโรงแรมจะมีอาหารเช้าเลี้ยงเรา ฉันอยากจะรู้ว่าที่โรงแรมจะเลี้ยงอาหารเราแบบไหน
โรงแรมที่เราพักริมฝั่งน้ำนั้น ราคาไม่แพง แล้วยังมีอาหารเช้าเลี้ยงอีก ช่างน่ารักซะจริง อาหารที่วางให้ตัดแบบบุฟเฟ่ต์ มีทั้งขนมปังแบบฝรั่ง และอาหารพวกเส้นที่เหมือนก๋วยเตี๋ยว น้ำซุปที่ปรุงรสนั้นมันดันอร่อยมากจนฉันติดใจ ฉันเดาเอาเองว่าอาหารพม่าหลายอย่างได้อิทธิพลมาจากจีนเหมือนเช่นที่เมืองไทย แต่การปรุงและส่วนผสมอาจจะแตกต่างกันไปเล็กน้อย รสชาติจึงแตกต่างกันไปด้วย
เราเดินออกจากโรงแรมมาไม่ไกล เพื่อจะนั่งรถจากอินเลไปพุกามน้องที่โรงแรมบอกว่า จะมีรถมาช่วงแปดโมงถึงเก้าโมงเช้า เราเลยต้องเดินออกมารอริมถนนใหญ่ด้านนอก
รถคันที่มาถึง เป็นรถแบบรถเมล์ประจำทางที่วิ่งระหว่างจังหวัดในไทยสมัยก่อน เราไม่มีสิทธิ์เลือกมากนัก เพราะไม่มีรถทัวร์อื่นๆ ที่วิ่งจากที่นี่ไปพุกาม หรือว่าเพราะฉันสื่อสารไม่ดีก็ไม่รู้ เราจึงหารถได้แค่แบบนี้
แต่การนั่งรถคันนี้มันก็สร้างความบันเทิงให้เราไปได้ตลอดทาง
เราออกจากอินเลประมาณสาย ๆ พอรถสิ่งมาสักพัก แดดเริ่มส่องลอดม่านเมฆลงมาบนทิวเขา และวิวสองข้างทางก็เริ่มเผยความงามออกมา เส้นทางคดเคี้ยวเหมือนภาคเหนือบ้านเรา มีทุ่งดอกบัวตองบานสะพรั่งเต็มไหล่เขา สีเหลืองสดของมันสวยงามน่ารักมากในวันที่ท้องฟ้าสดใสเช่นวันนี้
มีอยู่ช่วงหนึ่ง ฉันต้องวิ่งไปหน้ารถเพื่อถ่ายภาพ วิวถนนหน้ารถ เพื่อจะได้ภาพที่มองเห็นดอกบัวตองสองข้างทาง คนขับรถและเพื่อนร่วมทางก็อารมณ์ดี น่ารัก ไม่เคร่งเครียดน่ากลัวเหมือนคนพม่าที่มาทำงานในบ้านเรา
รถเมล์หวานเย็นคันนี้ จอดรับผู้โดยสารตลอดทาง เดี๋ยวมีคนขึ้น เดี๋ยวมีคนลง ครั้งหนึ่งมันจอดรับพระสงฆ์รูปหนึ่งขึ้นมา ท่านดูชราและเงียบขรึม ผ่านไปประมาณ 2 ชม. เพื่อนฉันสะกิดเบา ๆ แล้วกระซิบว่า “พระยืนฉี่” ฉันหันไปมองด้วยหางตา ท่านไม่ได้ทำอะไรโจ่งแจ้ง แค่ท่านเดินออกมาจากเบาะที่นั่ง ยืนถ่างขาตรงทางเดิน แล้วปล่อยให้ร่างกายทำหน้าที่ของมันบนรถที่ยังวิ่งอยู่
ช่วงบ่าย รถเริ่มแน่นไปด้วยนักเรียน ฉันที่ซื้อตั๋วและจ่ายเงินค่าที่นั่งแล้ว ก็ต้องลุกให้เด็ก ๆ นั่ง แต่ความสดใสร่าเริงของเด็กๆ ทำให้ฉันควานหาขนมพวกช๊อคโกแลตทั้งหลายที่พกติดตัว กันน้ำตาลตกของฉัน แจกเด็กๆ พวกนั้นไปจนหมด เสียงหัวเราะที่ครื้นเครงด้วยความดีใจ ทำให้ฉันยิ้มไม่หุบเลย ไม่นานนัก พวกเขาก็ทยอยลงไป ทิ้งรถเมล์เงียบลงอีกครั้ง
เรามาถึงพุกามในช่วงเย็นแล้ว พระอาทิตย์ยามผีตากผ้าอ้อม คือช่วงเวลาของวันที่ฉันชอบมากที่สุด แสงเวลานี้ยิ่งเข้ากับบรรยากาศเมืองโบราณของพุกามมาก
เมื่อเราลงรถที่สถานีรถบัส มีผู้ชายมอมแมมคนหนึ่งวิ่งมาถามพวกเราว่า ต้องการแท็กซี่ไหม ลักษณะของเขาเรียกว่าทรงโจรได้เลย ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงคุณพี่สายเชียที่เป็นนักแสดงโฆษณา ที่เราเห็นอยู่บ่อยๆนั่นแหละ แต่ถ้าดูดีๆ พี่สายเชียร์แกดูหล่อและดูดีกว่าเยอะมาก แต่ฉันเป็นคนที่ไม่เคยตัดโอกาสคนแค่รูปลักษณ์ภายนอก ฉันถามราคาและเนื่องจากยังมีเวลา ฉันจึงบอกคนขับแท็กซี่ที่วิ่งเข้ามาหาเราว่า อยากไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่เจดีย์ ก่อนถึงที่พัก
เขารับปากทันที แต่ไม่นานฉันก็รู้ว่า โดนหลอกซะแล้ว เขาไม่ใช่คนขับรถ เขาเป็นแค่เอเย่นต์ที่ต้องวิ่งไปตามคนขับตัวจริงมาอีกที แต่เพราะราคาที่เขาเรียกไม่แพงมาก ถึงจะคิดเป็นดอลลาร์ก็ตาม ฉันไม่ได้ติดใจอะไรนัก จึงตกลงไปกับเขา เขาทำตามสัญญา พาเราไปยังเจดีย์เงียบ ๆ แห่งหนึ่งที่ดูเปลี่ยวและวังเวง ในแสงโพล้เพล้ตอนนั้น
ถึงหน้าตาเขาจะเหมือนโจรมากๆ สภาพดูไม่ค่อยดีนัก แต่มีบางอย่างในแววตาซื่อ ๆ ของเขาที่ทำให้ฉันเชื่อใจ
เมื่อเราปีนขึ้นไปถึงด้านบนเจดีย์ ไม่ได้มีแต่ฉัน ที่อยากเห็นอาทิตย์ตกที่พุกามวันนี้ มีฝรั่งนั่งอยู่ตามซอกมุมต่างๆ บนเจดีย์เท่าที่จะนั่งได้ อยู่เกือบเต็มพื้นที่เจดีย์ ทุกคนหันมายิ้มให้ผู้มาใหม่คือพวกฉัน ก่อนหันหน้ากลับไปตั้งตารอดูภาพเดียวกันกันต่อ นั่นคือภาพพระอาทิตย์ตกกลางทะเลเจดีย์ของพุกาม
มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด ที่ฉันยังบรรยายไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรแม้หลังจากวันนั้น ฉันได้ออกเดินทางไปเจอบรรยากาศแบบนั้นอีกหลายครั้งฉันก็ยังให้คำจำกัดความในความรู้สึกนั้นไม่ได้
แสงสุดท้ายของวันทอดผ่านเจดีย์เก่าแก่เป็นเงายาวลงบนพื้นดิน พระอาทิตย์กำลังร่วงหล่นลงจากฟ้า สู่ผืนแผ่นดินโบราณที่ความรุ่งเรืองของโลกภายนอกยังเอื้อมมือเข้ามาไม่ถึง ทุกคนต่างเงียบสงบ มีเพียงเสียงซุบซิบกันเบาๆ กับเสียงชัตเตอร์จากกล้องถ่ายภาพเท่านั้น ที่ได้ยินผ่านสายลมเข้ามา ฉันเองก็นั่งเงียบ ๆ มองดูผู้คนจากทั่วโลกที่มารวมกัน ณ จุดเล็ก ๆ แห่งนี้ เพื่อรอช่วงเวลาสั้น ๆ ที่งดงามที่สุดของวัน ที่กำลังเริ่มต้นและจบในไม่ช้า
ก่อนลงจากเจดีย์ ฉันหันไปตกลงราคากับโซะโซ ชื่อของหนุ่มเอเยนต์คนเดิมคนนั้น เพื่อดิวราคาสำหรับพรุ่งนี้เช้า เพื่อให้มารับเราที่โรงแรมอีกครั้ง พาเราเที่ยวรอบๆ พุกาม โดยไฮไลท์คือทะเลเจดีย์ ในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น เพราะฉันอยากเก็บรูปทะเลเจดีย์และบอลลูนให้เหมือนในภาพการท่องเที่ยว ที่ทำให้ฉันอยากมาพม่า
เขายิ้มรับคำขอ เสนอราคาที่น่าพอใจ แล้วในที่สุด เขากลายเป็นคนนำเที่ยวตลอดอีกสองวันที่เราอยู่ในพุกาม❤️
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
พม่าดินแดนหลงเวลา
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย