Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สันติ ผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ
•
ติดตาม
3 ก.ย. เวลา 00:00 • ครอบครัว & เด็ก
ผู้หญิงจะรอดได้ด้วยการมีบุตร(1)
1 ซามูเอล 1:4-17 TH1971
[4] ในวันที่เอลคานาห์ถวายสัตวบูชา ท่านก็ได้แบ่งส่วนให้แก่เปนินนาห์ภรรยาของท่าน และแก่บุตรชายบุตรหญิงทุกคนของนาง [5] ท่านแบ่งให้ฮันนาห์สองส่วน เพราะท่านรักนางมาก แต่พระเจ้าทรงปิดครรภ์ของนางเสีย
[6] เมียคู่กับนางก็ยั่วเย้านางอย่างรุนแรงเพื่อกระทำ ให้นางระคายเคือง ที่พระเจ้าทรงปิดครรภ์ของนางเสีย [7] เหตุการณ์ก็เป็นอยู่ดังนี้ปีแล้วปีเล่า เมื่อนางขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเจ้าคราวใด เมียคู่ของนางก็เคยยั่วเย้านาง เพราะฉะนั้นนางฮันนาห์จึงร้องไห้ไม่รับประทานอาหาร
[8] และเอลคานาห์สามีของนางจึงถามนางว่า <<ฮันนาห์ เธอร้องไห้ทำไม และเหตุใดเธอจึงไม่รับประทานอาหาร และทำไมจิตใจของเธอจึงโศกเศร้า สำหรับเธอฉันไม่ดีกว่าบุตรชายสิบคนหรือ>>
[9] หลังจากที่ได้รับประทานอาหารและดื่มที่เมืองชิโลห์แล้ว ฮันนาห์ก็ลุกขึ้น ฝ่ายเอลีปุโรหิตนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างเสาประตูพระวิหาร ของพระเจ้า
[10] นางเป็นทุกข์ร้อนใจมากอธิษฐานต่อพระเจ้า และร้องไห้คร่ำครวญ [11] นางก็บนไว้ว่า <<ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา ถ้าพระองค์จะทอดพระเนตรความทุกข์ใจของผู้รับใช้ ของพระองค์จริงๆ และยังระลึกถึงข้าพระองค์ และยังไม่ลืมผู้รับใช้ของพระองค์ แต่จะทรงประทานบุตรชายแก่ผู้รับใช้ของพระองค์สักคนหนึ่ง แล้วข้าพระองค์จะถวายเขาไว้แด่พระเจ้าตลอดชีวิตของเขา และมีดโกนจะไม่แตะต้องศีรษะของเขาเลย>>
[12] อยู่มาเมื่อนางยังอธิษฐานต่อพระเจ้าอยู่นั้น เอลีก็สังเกตดูปากของนาง [13] ฝ่ายฮันนาห์นั้นนางพูดแต่ในใจริมฝีปากของ นางมุบมิบเท่านั้น ไม่ได้ยินเสียงของนาง เพราะเหตุนี้เอลีจึงสำคัญว่านางมึนเมา
[14] เอลีจึงพูดกับนางว่า <<เธอจะเมาไปนานสักเท่าใด ทิ้งเหล้าองุ่นเสียเถิด>> [15] แต่ฮันนาห์ตอบว่า <<มิใช่เช่นนั้นเจ้าค่ะ ดิฉันเป็นหญิงที่มีทุกข์หนักดิฉันมิได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือเมรัย แต่ดิฉันระบายความในใจของดิฉันออกต่อพระเจ้า [16] ขออย่าถือว่าหญิงผู้รับใช้ของท่านเป็นหญิงเลว ที่ดิฉันพูดตลอดมานั้น ก็พูดด้วยความกระวนกระวายและความทุรนทุรายมาก>>
[17] แล้วเอลีก็ตอบว่า <<จงกลับไปเป็นสุขเถิด ขอพระเจ้าแห่งอิสราเอลโปรดประทานตามที่เจ้า ได้อธิษฐานทูลขอต่อพระองค์นั้น>>
https://bible.com/bible/275/1sa.1.4-17.TH1971
พระเยซูคือจุดจบของความบาปหรือทุกปัญหาของมนุษย์ ถ้ายังมีความหวังกับสิ่งอื่นอยู่ความทุกข์ยากลำบากก็จะยังไม่ยุติครับ ลูกของฮันนาห์ในที่นี้จึงกำลังเล็งถึงพระเยูคริสต์นะครับ
ถ้าไม่มีเปนินนาห์นางฮันนาห์ก็จะไม่สนใจที่จะมีลูก เป็นหมันก็ไม่เป็นไร สามีรักก็พอ? แต่พระคำบอกไว้ว่าหญิงที่ไม่มีลูกคือหญิงที่กำลังอยู่ในการแช่งสาป ก็กำลังเหมือนกับคนที่ยังมีความหวังอยู่แต่กับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเยซูครับ
ดังนั้นกับสิ่งที่มนุษย์ควรจะทุกข์ทรมานจริงๆ ก็คือการที่ไม่สามารถจะมาถึงพระเยซูได้ต่างหาก เพราะพระเยซูเป็นเหมือนบัตรผ่านหรือเป็นกุญแจไขเปิดประตูเข้าพบพระเจ้าซึ่งเป็นแหล่งชีวิตแท้จริงของมนุษย์ได้ประมาณนั้นครับ ถ้าความสุขความหวังของชีวิตยังคงอยู่กับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเยซู ความทุกข์ยากก็จะไม่มีวันจบลงได้ครับ
กิจการ 16:31 TH1971
[31] เปาโลกับสิลาสจึงกล่าวว่า <<จงเชื่อและวางใจในพระเยซูเจ้า และท่านจะรอดได้ทั้งครอบครัวของท่านด้วย>>
https://bible.com/bible/275/act.16.31.TH1971
ถ้ารักห่วงใยครอบครัวหรือผู้คนในสังคมประเทศชาติอยากให้อยู่กันแบบสงบสุข กุญแจจึงขึ้นอยู่ที่ตัวเรากำลังวางใจกับอะไร พระเยซูไหม ถ้าเป็นพระเยซูพวกเขาก็จะรอดด้วยแน่นอน พระเจ้าก็ได้ให้คำสัญญาไว้แบบนี้ด้วยครับ
1 ยอห์น 5:12 TH1971
[12] ผู้ที่มีพระบุตรก็มีชีวิต ผู้ที่ไม่มีพระบุตรก็ไม่มีชีวิต
https://bible.com/bible/275/1jn.5.12.TH1971
อย่างหลายคนที่มักเป็นทุกข์กับมนุษย์คนอื่นที่ไม่ให้เกียรติหรือยอมรับกับตน และยังพยายามเรียกร้องเอาจากมนุษย์เรื่อยๆ ความจริงสิ่งนี้ก็เป็นความชั่วร้ายสกปรกในสายตาพระเจ้า ที่ไม่ยอมวางใจเพียงกับพระเยซู มันเหมือนภาพของฮันนาห์ที่ไม่สนใจกับการมีลูกแต่พอใจแต่กับความรักความใส่ใจจากสามีให้ตัวเองมากกว่าคนอื่น?
เยเรมีย์ 17:5-6 TH1971
[5] พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<คนที่วางใจในมนุษย์ และให้เนื้อหนังเป็นมือของเขา และใจของเขาหันออกจากพระเจ้า คนนั้นก็เป็นที่แช่งสาป [6] เขาเป็นเหมือนพุ่มไม้ที่อยู่ในทะเลทราย และไม่เห็นความดีอันใดมาถึงเลย เขาจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่แตกระแหงที่ในถิ่นทุรกันดาร ในแผ่นดินเค็มที่ไม่มีคนอาศัย
https://bible.com/bible/275/jer.17.5-6.TH1971
พระเจ้าจึงทำงานผ่านเปนินนาห์เพื่อมาทำให้ฮันนาห์ได้รู้สึกตัวว่าเธอจำเป็นจะต้องมีลูกเพื่อจะรอดได้ ไม่ใช่แค่มีสามี แต่พระเจ้าให้สามีมาก็เพื่อจะให้มีลูก ไม่ใช่ให้มาแค่ตัวเองได้สุขสนุกเนื้อหนังครับ
การที่พระเจ้าให้เราเชื่อพระองค์ก็เพื่อจะให้พระเยซูกับมนุษย์เรา ไม่ใช่แค่เชื่อว่ามีพระองค์แต่ให้เชื่อวางใจในพระเยซูผู้ซึ่งพระองค์ได้ส่งลงมาให้ด้วย การแค่เชื่อว่ามีพระองค์ดำรงอยู่ เชื่อแบบนั้นมารซาตานก็เชื่อ แต่มันไม่ใช่จิตใจของพระเจ้า พระองค์อยากให้เราสามารถเชื่อวางใจเพียงพระองค์ ซึ่งมารซาตานมันไม่เอา มันเลือกจะเชื่อตัวเอง เชื่อกับสิ่งที่พระเจ้าสร้างแทนตัวผู้สร้างครับ
ยอห์น 6:29 TH1971
[29] พระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<งานของพระเจ้านั้น คือการที่ท่านวางใจในท่านที่พระองค์ทรงใช้มา>>
https://bible.com/bible/275/jhn.6.29.TH1971
แต่ทำไมเราถึงต้องมาผิดหวังเศร้าเสียใจอยู่แต่กับการกระทำของมนุษย์คนอื่นอยู่เรื่อยๆ แทนที่จะไปให้ถึงพระเยซู เพราะยังไม่หมดสิ้นหวังกับมนุษย์กับตัวเอง ยังไม่เชื่อว่ามนุษย์นั้นชั่วร้ายเสมอไป เชื่อวางใจพระเจ้าไม่ได้ เรื่องนี้ต่างหากที่ควรจะเศร้ากับการที่ตลอดมาใช้ชีวิตกินอยู่แต่กับคำโกหกของมารซาตานที่ให้กับตัวเองและคนรอบข้างที่ตนชอบฟัง วางใจอยู่แต่กับวัตถุเนื้อหนังของโลกนี้ซึ่งเป็นโลกที่ถูกแช่งสาปหรือตายแล้ว
เหมือนฮันนาห์ถ้าเธอจบแค่มนุษย์คือเปนินนาห์กับสามีเธอก็จะไม่สามารถหลุดพ้นออกจากความทุกข์ทรมานได้ครับ แต่จะจบลงได้ก็ตอนที่เธอมองไปที่พระเจ้าแล้วได้ลูกเพื่อจะมอบถวายคืนให้กับพระเจ้านี้ครับ เพราะสิ่งที่พระเจ้าต้องการจากมนุษย์เราเพื่อแสดงการเชื่อวางใจพระองค์คือการเชื่อวางใจพระองค์ผ่านทางการเชื่อพระเยซูคือพระคำกับคริสตจักร พระเจ้าจึงต้องมอบพระเยซูให้กับเราก่อนเพื่อเราจะได้มีมอบคืนให้กับพระเจ้าได้ เพราะมนุษย์เราไม่มีอะไรที่เป็นของตัวเองเลยครับ
มนุษย์เราควรไปให้ถึงพระเยซูเพราะนั่นเท่ากับได้ไปถึงพระเจ้าแล้ว และคริสตจักรคนของพระเจ้าหรือเสียงจากทุกคนก็เหมือนกับเสียงของเปนินนาห์ที่กำลังช่วยผลักเธอไปให้ถึงกับการที่ต้องมีลูกคือมีใจของพระเยซูหรือพระคำนี้ครับ
มนุษย์หรือคนรอบข้างว่าอย่างไร มันจะกลายเป็นคุณก็เมื่อได้นำกลับมาจบลงที่พระเจ้าหรือพระคำว่าอย่างไร แต่ถ้าแค่ฟังเป็นคำพูดของมนุษย์ไม่คิดต่อไม่นำกลับมาถามพระเจ้า ใช้จิตสำนึกคิดมาตัดสินใจเองเลยง่ายๆ คำพูดเหล่านั้นก็ได้แต่เป็นยาพิษไปเท่านั้นครับคือตัวเองก็ได้แต่ขมขื่นหรือเสพติดจมอยู่แต่กับคำชมคำหวานคำโกหกของโลกนี้อยู่ต่อไปเหมือนเดิมเท่านั้นครับ
1 ทิโมธี 2:15 TH1971
[15] แต่ถึงกระนั้นผู้หญิงก็จะรอดได้ด้วยการมีบุตร ถ้ายังดำรงอยู่ในความเชื่อ ในความรักและในความบริสุทธิ์ ด้วยความสงบเสงี่ยม
https://bible.com/bible/275/1ti.2.15.TH1971
การที่ใจเราจะต้องมีหรือรับพระคำเข้ามาได้จึงมีความสำคัญจำเป็นแบบนี้ เหมือนจะต้องได้รับเมล็ดของผู้ชายคือพระคำพระเจ้าเข้ามาแล้วเกิดเป็นลูกคือพระเยซูหรือความเชื่อที่สามารถนำไปสู่ความรอดได้นี้ครับ
การมาโบสถ์หลายปี ทำอะไรให้โบสถ์เยอะแยะหรือรู้พระคำเยอะจึงไม่สำคัญเท่ากับการเกิดความเชื่อจากพระคำที่ได้รับเข้ามาจากพระเจ้าหรือคริสตจักรนี้ครับ
ข่าวรอบโลก
พัฒนาตัวเอง
ความรู้รอบตัว
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย