🍨❄️ อดีตไม่ดีดนิ้ว – อาหารและเครื่องดื่ม : ไอศกรีม – ของหวานจากราชวงศ์จีน
ทุกครั้งที่เราลองตักไอศกรีมเข้าปาก
ความเย็นหวานละมุนก็ทำให้รู้สึกเหมือนได้หลบจากความร้อนของโลกภายนอก
แต่ใครจะคิดว่าของหวานแช่แข็งนี้
มีเรื่องราวยาวนานหลายพันปี
และเคยเป็นของหรูหราที่มีเพียงจักรพรรดิและชนชั้นสูงเท่านั้นที่ได้ลิ้มรส
ประวัติศาสตร์ของไอศกรีมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติ
แต่เป็นเส้นทางที่ผ่านจีนโบราณ เปอร์เซีย โรมัน
และเดินทางไปยุโรป ก่อนจะกลายเป็นของหวานที่เรารู้จักกันทั่วโลก
# จุดกำเนิดแห่งความเย็น ❄️
ในโลกยุคโบราณที่ยังไม่มีตู้เย็น
ความเย็นเป็นสิ่งล้ำค่า
และผู้คนก็พยายามหาวิธีเก็บหิมะและน้ำแข็งไว้เพื่อบริโภค
ในจีนยุคราชวงศ์โจว (ราว 1,000 ปีก่อนคริสตกาล)
มีบันทึกว่าราชสำนักเก็บน้ำแข็งในถ้ำและบ่อใต้ดิน
เพื่อนำออกมาใช้ในฤดูร้อน
ต่อมาในราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618–907)
จักรพรรดิเฉินจงโปรดเครื่องดื่มที่ทำจากน้ำนมควาย
ผสมกับแป้งและเครื่องเทศ
ก่อนจะนำไปแช่จนกลายเป็นของหวานเย็น
นี่คือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่คล้ายไอศกรีม
# หิมะในถ้วยจักรพรรดิ 🏯🍨
บันทึกเล่าว่าในราชวงศ์ถัง
มีตำรับที่นำหิมะหรือเกล็ดน้ำแข็ง
มาผสมกับน้ำผึ้งและผลไม้
ชาววังเรียกมันว่า “น้ำแข็งรสหวาน”
เฉพาะจักรพรรดิและชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะได้ลิ้มลอง
การได้กินของเย็นในฤดูร้อนจึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา
ความเย็นในถ้วยนั้นไม่ใช่สิ่งธรรมดา
แต่มันคืออำนาจของผู้ครอบครองหิมะในโลกที่ยังไร้ตู้เย็น
# โลกตะวันตกก็มีของหวานเย็น 🍧
ในเปอร์เซียโบราณ (ราว 500 ปีก่อนคริสตกาล)
ชาวเปอร์เซียนำหิมะจากภูเขามาผสมกับผลไม้และน้ำกุหลาบ
เกิดเป็นของหวานที่เรียกว่า *Sharbat*
ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคำว่า “sherbet”
ในจักรวรรดิโรมัน
จักรพรรดิเนโร (ค.ศ. 54–68)
เคยส่งทาสไปขนหิมะจากเทือกเขาแอลป์
เพื่อนำมาผสมกับน้ำผึ้งและไวน์
เป็นของหวานที่คนธรรมดาไม่มีโอกาสได้ลิ้มรส
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า
“ของเย็น” คือความฟุ่มเฟือยที่แสดงถึงอำนาจและฐานะ
# เส้นทางสู่ยุโรป 🍦
ศตวรรษที่ 13
มาร์โค โปโล นักเดินทางชาวเวนิส
ได้เดินทางไปจีน และบันทึกว่า
เขาได้พบของหวานเย็นที่ทำจากนมและน้ำแข็ง
เมื่อเขากลับไปอิตาลี
ก็ได้นำสูตรบางอย่างกลับไปด้วย
นี่เป็นสะพานที่ทำให้ยุโรปรู้จัก “ไอศกรีม” เป็นครั้งแรก
ในศตวรรษที่ 16
ไอศกรีมเริ่มแพร่สู่ฝรั่งเศสและอังกฤษ
และกลายเป็นของหวานประจำราชสำนักยุโรป
# ไอศกรีมของราชินีและกษัตริย์ 👑🍨
เมื่อเจ้าหญิงแคทเธอรีน เดอ เมดิชี จากอิตาลี
แต่งงานเข้าสู่ราชวงศ์ฝรั่งเศส
เธอได้นำตำรับไอศกรีมติดตัวไปด้วย
ในงานเลี้ยงของราชสำนักฝรั่งเศส
ไอศกรีมถูกเสิร์ฟในถ้วยแก้วหรูหรา
ทำให้แขกผู้มาร่วมงานตื่นตาตื่นใจ
ต่อมาในอังกฤษ
กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 ก็โปรดไอศกรีมมาก
จนสั่งให้ทำเสิร์ฟในพระราชวัง
ทำให้มันกลายเป็นของหวานแห่งชนชั้นสูง
# การแพร่หลายสู่ประชาชน 🌍
การปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 18–19
ทำให้การผลิตน้ำแข็งง่ายขึ้น
ราคาถูกลง และไอศกรีมจึงแพร่หลายสู่คนทั่วไป
ในอเมริกา
ศตวรรษที่ 19 มีการเปิดร้านขายไอศกรีม
และถือกำเนิด “ซันเดย์ (Sundae)”
รวมทั้งโคนไอศกรีมที่ทำให้การกินสะดวกขึ้น 🍦
จากนั้น ไอศกรีมก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน
ของงานเลี้ยง และของความสุขที่แบ่งปันได้
# ไอศกรีมในศตวรรษที่ 20–21 🍨✨
เมื่อเทคโนโลยีแช่แข็งพัฒนา
ไอศกรีมถูกผลิตในระดับอุตสาหกรรม
แบรนด์อย่าง Häagen-Dazs, Ben & Jerry’s, Baskin Robbins
และแบรนด์ท้องถิ่นทั่วโลก
ทำให้ผู้คนเข้าถึงรสชาติที่หลากหลาย
ไอศกรีมไม่ได้เป็นเพียงของหวาน
แต่มันกลายเป็นธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
และยังเป็นวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับความสุข ความรัก และครอบครัว
# มรดกแห่งความเย็น 🍧🌏
จากหิมะในราชวงศ์ถัง
จากน้ำแข็งในเปอร์เซีย
จากห้องโถงราชสำนักยุโรป
จนถึงร้านไอศกรีมหน้าปากซอย
ไอศกรีมคือเรื่องเล่าที่บอกว่า
ความหวานเย็นเล็ก ๆ นี้
เดินทางผ่านอารยธรรมมากมาย
และกลายเป็นของหวานที่ทำให้คนทั้งโลกยิ้มได้
📦 Fact Box: ไอศกรีม – ของหวานจากราชวงศ์จีน 🍨❄️
- 🏯 จีนยุคราชวงศ์ถัง: ของหวานจากนมควายและหิมะ
- 🌹 เปอร์เซีย: Sharbat ของหวานเย็นจากผลไม้และน้ำกุหลาบ
- 🏔️ โรมัน: จักรพรรดิเนโรสั่งทาสไปขนหิมะมาทำของหวาน
- 📜 มาร์โค โปโลนำสูตรจากจีนสู่ยุโรป
- 👑 ศตวรรษที่ 16: ไอศกรีมแพร่ในราชสำนักฝรั่งเศสและอังกฤษ
- 🍦 ศตวรรษที่ 19: เกิดซันเดย์และโคนไอศกรีม
- 🌍 ปัจจุบัน: ธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
📍 ที่มา
- Britannica – History of Ice Cream – www.britannica.com
- Smithsonian – Ancient Frozen Desserts – www.si.edu
- History.com – Ice Cream Origins – www.history.com
- National Geographic – The Global Journey of Ice Cream – www.nationalgeographic.com
#ไอศกรีม #IceCream #อาหารและเครื่องดื่ม #อดีตไม่ดีดนิ้ว
#ของหวาน #ประวัติศาสตร์อาหาร #FoodHistory
#ราชวงศ์ถัง #Sharbat #WorldHistory
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
