Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Vate's Pharma Scope
•
ติดตาม
10 ก.ย. เวลา 13:30 • สิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อมกับการรักษามะเร็ง
ผู้รอดชีวิตจากมะเร็งในวัยเด็ก หรือที่ในทางการแพทย์เรียกว่า CCSs นั้น คือกลุ่มคนที่ร่างกายได้ผ่านสมรภูมิรบอันหนักหน่วงมาตั้งแต่เยาว์วัย แม้ว่ายาเคมีบำบัดและการฉายรังสีจะเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ได้ แต่มันก็ได้ทิ้งร่องรอยและผลกระทบระยะยาวไว้ในร่างกายที่กำลังเจริญเติบโตของพวกเขาด้วย
ความจริงที่น่าตกใจจากข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า เมื่อผู้รอดชีวิตเหล่านี้เติบโตขึ้นจนถึงวัย 50 ปี เกือบทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาสุขภาพเรื้อรังอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการรักษาในอดีต
ที่ผ่านมา การดูแลเด็กกลุ่มนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าระวังผลข้างเคียงเหล่านี้เป็นหลัก แต่เราอาจจะกำลังมองข้ามศัตรูเงียบอีกตัวหนึ่งไป ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ไม่ได้มาจากภายในร่างกาย แต่มาจากโลกภายนอกที่พวกเขาต้องกลับไปใช้ชีวิตอยู่ทุกวัน นั่นก็คือ "สิ่งแวดล้อม"
วันนี้ ผมอยากจะมาเล่าเรื่องราวที่สำคัญอย่างยิ่งยวดจากการทบทวนองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Cancers ซึ่งจะมาเปิดตาให้เราเห็นว่า มลภาวะที่เราหายใจเข้าไป ควันบุหรี่ที่เราสูดดม หรือแม้แต่ยาฆ่าแมลงที่เราใช้ในบ้านนั้น มีอิทธิพลต่อสุขภาพและอนาคตของผู้รอดชีวิตตัวน้อยเหล่านี้มากกว่าที่เราเคยคาดคิดไว้มากนัก
ร่างกายของผู้รอดชีวิตจากมะเร็งในวัยเด็กนั้นเปรียบได้กับต้นไม้ที่เคยผ่านพายุใหญ่มา แม้จะยังคงยืนต้นอยู่ได้ แต่กิ่งก้านและลำต้นก็ย่อมมีความเปราะบางกว่าต้นไม้ที่ไม่เคยเจอพายุมาก่อนฉันใด ร่างกายของเด็กกลุ่มนี้ก็ฉันนั้น
การต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ ในชีวิตประจำวันจึงส่งผลกระทบต่อพวกเขาอย่างรุนแรงกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว งานวิจัยหลายชิ้นได้วาดภาพให้เห็นถึงภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ในอากาศที่เราหายใจเข้าไปอย่างชัดเจน การอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่น PM2.5 สูง ไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงที่พวกเขาจะต้องกลับมาโรงพยาบาลด้วยปัญหาทางเดินหายใจ แต่ยังมีความเชื่อมโยงที่น่าเศร้ากับการลดโอกาสการรอดชีวิตโดยรวมของพวกเขาลงอีกด้วย
ภัยเงียบที่ใกล้ตัวยิ่งกว่านั้นคือควันบุหรี่ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่ร้ายกาจสำหรับทุกคน แต่สำหรับผู้รอดชีวิตที่ระบบทางเดินหายใจและหัวใจเคยบอบช้ำมาแล้วจากการรักษา ควันบุหรี่จึงเปรียบได้กับการซ้ำเติมบาดแผลเดิมให้เลวร้ายลงไปอีก
มีการศึกษาที่น่าตกใจชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้รอดชีวิตจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กินที่หันมาสูบบุหรี่ มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปอดในอนาคตสูงกว่าคนทั่วไปถึง 20 เท่า และที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือ แม้แต่ควันบุหรี่มือสองที่มาจากคนในครอบครัว ก็ยังสามารถลดโอกาสการรอดชีวิตของเด็กที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวลงได้
นอกจากนี้ ภัยคุกคามจากสิ่งแวดล้อมยังมาในรูปแบบที่เราอาจคาดไม่ถึง เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น ซึ่งอาจทำให้การเดินทางมารับยาหรือการรักษาที่จำเป็นต้องหยุดชะงักลง หรือการสัมผัสกับยาฆ่าแมลงที่ใช้กันทั่วไปในบ้านเรือน ซึ่งอาจเข้าไปซ้ำเติมปัญหาด้านพัฒนาการทางสมองที่เด็กกลุ่มนี้มักจะมีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เมื่อตระหนักถึงความเสี่ยงมากมายเหล่านี้ คำถามสำคัญที่ตามมาคือ แล้วเราในฐานะสังคมและบุคลากรทางการแพทย์จะช่วยปกป้องเด็กๆ เหล่านี้ได้อย่างไร?
ทีมวิจัยได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของทีมแพทย์และพยาบาลในศูนย์มะเร็งเด็กขนาดใหญ่ และได้พบกับช่องว่างที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
บุคลากรส่วนใหญ่ยอมรับว่าพวกเขาได้รับคำถามจากผู้ปกครองเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ แต่เกือบ 75% กลับรู้สึกไม่มั่นใจหรือไม่สะดวกใจที่จะให้คำแนะนำในเรื่องนี้ เพราะขาดความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นการเฉพาะ ในขณะที่ผู้ปกครองเองก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวลและต้องไปดิ้นรนค้นหาข้อมูลด้วยตัวเองบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งบ่อยครั้งก็นำไปสู่ข้อมูลที่ผิดพลาดและสร้างความเครียดมากยิ่งขึ้น
จากช่องว่างที่ค้นพบนี้เอง จึงได้เกิดข้อเสนอที่สำคัญในการสร้างบริการให้คำปรึงษาด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเด็กขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลแบบองค์รวม
บริการนี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเข็มทิศและที่พึ่งให้กับครอบครัว โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆ และให้คำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในการสร้างบ้านที่ปลอดภัยให้กับลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษ การปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้าน หรือการให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารการกินที่ปลอดภัยจากสารเคมีปนเปื้อน
เรื่องราวนี้กำลังสอนบทเรียนที่สำคัญให้กับเราว่า การรักษามะเร็งให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้จบลงที่การกำจัดเซลล์มะเร็งให้หมดไปจากร่างกาย แต่คือการดูแลชีวิตทั้งชีวิตของผู้รอดชีวิตให้สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างแข็งแรงและมีคุณภาพ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยคืออีกครึ่งหนึ่งของสมการแห่งการรอดชีวิตที่ยั่งยืน และมันคือความรับผิดชอบร่วมกันของพวกเราทุกคนในสังคมครับ
แหล่งอ้างอิง:
Shakeel, O., Wood, N. M., Thompson, H. M., Scheurer, M. E., & Miller, M. D. (2025). Environmental Exposures Increase Health Risks in Childhood Cancer Survivors. Cancers, 17(13), 2223.
https://doi.org/10.3390/cancers17132223
สุขภาพ
ข่าวรอบโลก
การแพทย์
1 บันทึก
7
1
1
1
7
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย