เรื่องเล่าบ้านหินกอง หนองขาม ชลบุรี

ด้วยความเคารพต่อผู้บุกเบิกพื้นที่รุ่นแรก ๆ ข้าพเจ้าขอถ่ายทอดเรื่องเล่า "บ้านหินกอง" ชุมชนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเขตตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี แหล่งข้อมูลหลัก (Main Data) มาจากคำบอกเล่าของ "ยายเนียร" หรือ "นางจำเนียร ชื่นชม (เอมโอษฐ์)" หญิงชรารูปร่างผอมบาง หลังงองุ้ม หนึ่งในกลุ่มผู้บุกเบิกผืนดินบ้านหินกองก่อนปี พ.ศ. 2455 และตั้งถิ่นฐาน ณ เนินเขาซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า "เนินยายเนียร" โดยยายเนียรได้ถ่ายทอดผ่านวัฒนธรรมมุขปาฐะมา 3 รุ่นอายุขัยสู่ข้าพเจ้าในฐานะผู้จดจำและสะท้อนเรื่องราวความว่า
...บ้านหินกองในอดีตมีสภาพพื้นที่เต็มไปด้วยป่ารกและก้อนหินเล็กใหญ่กระจายทั่วไป ยายเนียรและสามีพร้อมกลุ่มคนเข้ามาจากทางพื้นที่ทำกินและเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งในสมัยนั้นมีไม่กี่ครัวเรือน แต่ละครัวเรือนตั้งอยู่ห่าง ๆ กัน ดำรงชีวิตด้วยการประกอบอาชีพทำไร่ ทำสวน เลี้ยงโค กระบือไว้เป็นแรงงานสำคัญ โดยระหว่างการถางถางพื้นที่นั้น พบ "ก้อนหิน" หลายขนาดเป็นจำนวนมาก จึงโยนกองรวมกันเป็นแนวเขตที่ดิน...
(จิดาภา, ผู้เขียน)
เรื่องเล่านี้สอดคล้องกับ
วิธีการแบ่งเขตที่ดินในอดีตโดยยึดหลักตามธรรมชาติ เช่น ลำน้ำ ต้นไม้ ภูเขา/เนินเขา หรือรอยต่อของพื้นที่เพาะปลูกของแต่ละบ้าน รวมถึงมีการใช้หลักฐานอื่น ๆ เพื่อแบ่งที่ดินตามที่ตกลงกันไว้ในชุมชนหรือตามประเพณีการแบ่งปันที่ดินซึ่งถือเป็นประเพณีท้องถิ่นในอดีต
กรมที่ดิน. ออนไลน์. 2568.
แต่เรื่องเล่า "บ้านหินกอง" ไม่ใช่ข้อมูลเดียวที่ถูกสะท้อนออกมา ยังมีความหลากหลายของรายละเอียดที่แตกต่างกัน สะท้อนถึงค่านิยม อุดมคติ และการมองโลกของชาวบ้านหินกองตามยุคสมัย โดยเรื่องราวอีกทางกล่าวถึง "กองหินจากช้างป่า" ความว่า
...ในอดีตบ้านหินกองเป็นป่าดงดิบ มีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้าง เสือ กระต่าย กระจง อาศัยอยู่และหมู่บ้านหินกองจะมีหินก้อนเล็กก้อนน้อยจำนวนมากในพื้นที่บริเวณหมู่บ้าน ถนนหนทางเป็นทางเกวียน ทุกคืนจะมีหินมากองอยู่กลางทางสัญจรไปมาของหมู่บ้าน
ธำรงค์ บริเวธานันท์. ออนไลน์. 2566
รุ่งเช้าผู้คนในหมู่บ้านก็ต้องช่วยกันขนก้อนหินที่มากองกีดขวางการจราจรออกไปเพื่อจะได้สัญจรไปมาได้สะดวก ผู้เฒ่าของหมู่บ้านบอกต่ออีกว่า เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้บ่อย ๆ จึงมีการมาแอบดูในช่วงกลางคืนว่า ก้อนหินต่างๆที่มากีดขวางการจราจรนั้นมาจากไหน ซึ่งพบว่าเป็นช้างป่าช่วยกันขนลงมากองไว้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านหินกอง"..
ธำรงค์ บริเวธานันท์. ออนไลน์. 2566
ความแตกต่างของเรื่องเล่านี้ สะท้อนว่าเรื่องเล่าไม่ได้ตายตัว หากแต่เป็นพลวัตทางวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงได้ตามรุ่นสมัย เป็น "คลังความรู้มีชีวิต" (Living Knowledge Reponsitory) ที่ยืดหยุ่นตามผู้สวมบทบาทการเป็น "ผู้สืบสาน-ตีความ-ต่อยอด" เพื่อใช้เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ (Learning Tool) ตอกย้ำว่าชุมชน "บ้านหินกอง" ยังคงมีชีวิต มีเสียง และมีคุณค่าเพื่อขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปในอนาคต
โฆษณา