2 ชั่วโมงที่แล้ว • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🥚 โศกนาฏกรรมเมื่อ 150 ล้านปีก่อน: เมื่อฟอสซิลปีกหักไขปริศนา ‘เที่ยวบินแรก’ ของลูกเทอโรซอร์

คุณเคยสงสัยไหมครับ ว่าลูกไดโนเสาร์บินได้อย่าง เทอโรซอร์ (Pterosaur) นั้น เริ่มหัดบินกันตอนไหน? มันเป็นคำถามที่นักบรรพชีวินวิทยาถกเถียงกันมานานแสนนาน... และล่าสุด คำตอบก็ได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้วจากฟอสซิลของลูกเทอโรซอร์ 2 ตัว ที่ตายด้วยอุบัติเหตุที่น่าเศร้าเมื่อ 150 ล้านปีก่อน
🔦 แสง UV ที่เผยร่องรอยแห่งหายนะ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เดวิด อันวิน (David Unwin) และ โรเบิร์ต สมิธ (Robert Smyth) จากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ (University of Leicester) ในสหราชอาณาจักร กำลังตรวจสอบฟอสซิลเทอโรซอร์ในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในเยอรมนี
เมื่อพวกเขาส่องแสงอัลตราไวโอเลต (UV) ไปยังฟอสซิลของลูกเทอโรซอร์สายพันธุ์ Pterodactylus antiquus ที่มีขนาดปีกกว้างเพียง 20 เซนติเมตร พวกเขาก็ต้องอุทานออกมาว่า “บ้าจริง! ดูนี่สิ!” เพราะแสง UV ได้เผยให้เห็นร่องรอยของ ปีกที่หัก อย่างชัดเจน
🤯 รอยแตกที่เหมือนกัน...ห่างกัน 2 ล้านปี
ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ พวกเขาได้พบฟอสซิลลูกเทอโรซอร์อีกตัวหนึ่ง ที่มีรอยแตกที่กระดูกต้นแขน (humerus) ในลักษณะเดียวกันเป๊ะๆ แต่ฟอสซิลทั้งสองตัวนี้กลับมีอายุห่างกันถึง 2 ล้านปี!
รอยแตกที่พบเป็นรอยหักที่เฉียบคมและไม่มีร่องรอยการรักษา ซึ่งหมายความว่าพวกมันต้องตายทันทีหลังจากได้รับบาดเจ็บ
⛈️ เที่ยวบินสุดท้ายกลางพายุไซโคลน
รอยแตกที่พบนี้มีลักษณะเหมือนกับ อาการบาดเจ็บจากแรงลมที่มากเกินไป (wing overload injuries) ที่พบได้ในนกและค้างคาวในปัจจุบันที่บินฝ่าพายุรุนแรง
เมื่อนำมารวมกับข้อมูลที่ว่าพื้นที่นั้นในอดีตเคยเป็นหมู่เกาะที่มักเกิดพายุไซโคลนรุนแรง นักวิจัยจึงปะติดปะต่อเรื่องราวที่น่าเศร้าขึ้นมาได้: ลูกเทอโรซอร์ตัวน้อยทั้งสองตัวนี้บินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ไม่นานหลังจากฟักออกจากไข่ แต่โชคร้ายที่ต้องมาเจอกับพายุรุนแรงจนปีกหักและตกลงไปในทะเลสาบจนเสียชีวิต
"คำอธิบายที่ดีที่สุดสำหรับเทอโรซอร์ผู้น่าสงสารทั้งสองตัวนี้ก็คือ พวกมันกำลังบินอยู่กลางอากาศตอนที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น" อันวินกล่าว
🏡 เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
แหล่งฟอสซิล Solnhofen ในเยอรมนีที่ค้นพบเรื่องราวนี้ มีชื่อเสียงด้านการเก็บรักษาสภาพฟอสซิลที่สมบูรณ์อย่างน่าทึ่ง ไม่ต่างจากแหล่งฟอสซิลสำคัญในประเทศไทยอย่าง ภูกุ้มข้าว หรือ ภูเวียง
เรื่องราวของลูกเทอโรซอร์เป็นเครื่องย้ำเตือนว่า ฟอสซิลแต่ละชิ้นคือ “หนังสือประวัติศาสตร์” ที่รอคอยการถูกเปิดอ่านด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม และเป็นแรงบันดาลใจให้นักบรรพชีวินวิทยาของไทยในการใช้เครื่องมือใหม่ๆ เพื่อไขปริศนาที่ยังคงซ่อนอยู่ใต้ผืนแผ่นดินของเรา และบอกเล่าเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านของเรามาก่อน
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ บินได้ตั้งแต่เด็ก: นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบหลักฐานโดยตรงที่ยืนยันว่า ลูกเทอโรซอร์ สามารถบินได้ตั้งแต่เพิ่งฟักออกจากไข่ได้ไม่นาน
✅ ฟอสซิลปีกหัก: หลักฐานมาจากฟอสซิลลูกเทอโรซอร์ 2 ตัวที่อายุห่างกัน 2 ล้านปี แต่กลับมีรอยแตกที่กระดูกต้นแขน ในลักษณะเดียวกันอย่างน่าทึ่ง
✅ ตายกลางพายุ: รอยแตกนี้มีลักษณะเหมือนกับอาการบาดเจ็บจากการ บินฝ่าพายุ ที่พบได้ในนกและค้างคาวในปัจจุบัน
✅ ยุติการถกเถียง: เรื่องราวที่น่าเศร้านี้จึงเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ช่วยยุติการถกเถียงอันยาวนานในวงการบรรพชีวินวิทยา
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การค้นพบที่เผยให้เห็นชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตเมื่อ 150 ล้านปีก่อนแบบนี้ ทำให้คุณรู้สึกทึ่งในพลังของธรรมชาติและกาลเวลามากแค่ไหนครับ? แล้วคุณคิดว่าลูกสัตว์ชนิดไหนในปัจจุบันที่มีความสามารถน่าทึ่งที่สุด?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าสนใจ 🪁 อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ร่วมไขปริศนาเที่ยวบินแรกนี้ด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Smyth, R. S. H., et al. (2025). Fatal accidents in neonatal pterosaurs and selective sampling in the Solnhofen fossil assemblage. Current Biology. https://doi.org/10.1016/j.cub.2025.08.006
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
ฟอสซิลแต่ละชิ้นคือ "แคปซูลเวลา" ที่เก็บเรื่องราวของโศกนาฏกรรมและความมหัศจรรย์แห่งชีวิตไว้...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "นักบรรพชีวินวิทยา" ที่จะนำ "แคปซูลเวลา" จากงานวิจัยที่ซับซ้อน มาเปิดและเรียบเรียงเป็นเรื่องราวที่น่าติดตามสำหรับคุณ
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เราสามารถเดินทางย้อนเวลาเพื่อเปิดแคปซูลเหล่านี้ต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา