17 ก.ย. เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🕳️ AI จาก Google: DeepMind กำลัง ‘ฟังเสียง’ กระซิบจากจักรวาล เพื่อตามล่าหลุมดำที่หายไป

คุณรู้ไหมครับว่า เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ล้ำที่สุดชิ้นหนึ่งของโลกอย่าง LIGO นั้นมีความไวสูงมาก... สูงซะจนแม้แต่เสียงคลื่นทะเลที่อยู่ไกลออกไปก็ยังสามารถรบกวนการทำงานของมันได้! การต่อสู้กับ ‘สัญญาณรบกวน’ นี้คือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด... และตอนนี้ มนุษย์กำลังจะส่ง AI จาก Google DeepMind เข้าไปแก้ปัญหานี้ครับ
🔭 การฟังเสียงของจักรวาล
LIGO (Laser Interferometer Gravitational-Wave Observatory) คือหอสังเกตการณ์ที่ไม่ได้ใช้การ "มอง" แต่ใช้การ "ฟัง" เสียงกระซิบของจักรวาล มันคือเครื่องตรวจจับ คลื่นความโน้มถ่วง (gravitational waves) ซึ่งเป็นริ้วคลื่นแห่งกาลอวกาศที่เกิดจากการชนกันของหลุมดำ
LIGO สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงที่เล็กกว่านิวเคลียสของอะตอมถึง 10,000 เท่าได้ แต่ความไวที่น่าทึ่งนี้ก็เป็นดาบสองคม เพราะมันทำให้ถูกรบกวนจากสัญญาณอื่นๆ ได้ง่ายมาก
🤖 AI ผู้ควบคุมกระจก
เพื่อแก้ปัญหานี้ Google DeepMind ได้พัฒนา AI ที่ชื่อว่า Deep Loop Shaping ขึ้นมา แต่ที่น่าทึ่งคือ AI นี้ไม่ได้แค่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล แต่หน้าที่ของมันคือการเข้าไป ควบคุมการปรับแต่งกระจกเลเซอร์ของ LIGO โดยตรง แบบเรียลไทม์
AI ได้เรียนรู้จากการทดลองนับแสนนับล้านครั้งในโลกจำลอง เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการขจัดสัญญาณรบกวนโดยทำการปรับแต่งให้น้อยที่สุด
💯 ผลลัพธ์ที่เหนือกว่ามนุษย์
ผลการทดสอบในระบบจริงพบว่า AI สามารถลดระดับสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการปรับแต่งกระจกได้ดีขึ้นถึง 100 เท่า ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่อาจเปิดประตูสู่การค้นพบครั้งใหม่
⚫️ เป้าหมายสูงสุด: การตามล่า "หลุมดำที่หายไป"
เป้าหมายสูงสุดของการปรับปรุงครั้งนี้คือการตามล่า “หลุมดำมวลปานกลาง” (intermediate-size black holes) ซึ่งมีมวลประมาณ 1,000 เท่าของดวงอาทิตย์
อัลเบอร์โต เวคคิโอ (Alberto Vecchio) นักวิจัยของ LIGO อธิบายว่า “เรารู้จักหลุมดำที่มีมวลไม่เกิน 100 เท่าของดวงอาทิตย์ และเรารู้จักหลุมดำมวลยิ่งยวดที่มีมวลหลายล้านเท่าของดวงอาทิตย์... แล้วอะไรอยู่ตรงกลางล่ะ?” หลุมดำมวลปานกลางนี้คือ “มิซซิงลิงก์” ที่นักดาราศาสตร์ตามหามานาน และ AI ตัวนี้ก็อาจเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เราเจอมันเป็นครั้งแรก
🏡 เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
คุณอาจจะแปลกใจถ้ารู้ว่าเรื่องราวระดับโลกนี้มีความเชื่อมโยงกับประเทศไทยโดยตรง เพราะ นักวิจัยไทย จากหลายมหาวิทยาลัยและ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT ก็เป็นสมาชิกของกลุ่มความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ LIGO Scientific Collaboration (LSC) เช่นกัน
นั่นหมายความว่านักวิทยาศาสตร์ของไทยก็ได้มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ข้อมูลและไขปริศนาของจักรวาลนี้ด้วย การพัฒนาที่ช่วยให้ข้อมูลจาก LIGO มีคุณภาพดีขึ้น จึงส่งผลดีต่องานวิจัยของไทย และเป็นเครื่องยืนยันว่าคนไทยก็มีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในเวทีวิทยาศาสตร์โลก
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ AI อัปเกรด LIGO: AI จาก Google DeepMind ถูกนำมาใช้เพื่อลด "สัญญาณรบกวน" ในเครื่องตรวจจับ คลื่นความโน้มถ่วง LIGO ได้สำเร็จ
✅ ควบคุม ไม่ใช่แค่วิเคราะห์: AI นี้ไม่ได้แค่ประมวลผลข้อมูล แต่ยังเข้าไป ควบคุมการปรับแต่งกระจก ของเครื่องตรวจจับโดยตรง และสามารถลดสัญญาณรบกวนได้ดีขึ้นถึง 100 เท่า
✅ ตามล่าหลุมดำที่หายไป: ความสามารถที่เพิ่มขึ้นนี้ อาจช่วยให้ LIGO สามารถตรวจจับ "หลุมดำมวลปานกลาง" ซึ่งเป็น "มิซซิงลิงก์" ที่นักดาราศาสตร์ตามหามานานได้เป็นครั้งแรก
✅ ไทยมีส่วนร่วม: นักวิจัยไทยเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือ LIGO และการพัฒนานี้ก็ส่งผลดีต่องานวิจัยของไทยโดยตรง
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
คุณคิดว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในด้านไหนอีกบ้างในอนาคตครับ? แล้วคุณตื่นเต้นแค่ไหนกับโอกาสที่เราจะได้ "ได้ยิน" การกำเนิดของหลุมดำที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าสนใจ 🔭 อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ร่วมทึ่งไปกับเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Buchli, J., et al. (2025). Improving cosmological reach of a gravitational wave observatory using Deep Loop Shaping. Science. https://doi.org/p4vj
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
จักรวาลเต็มไปด้วย "เสียงกระซิบ" จากอดีตกาลที่เดินทางมาไกลแสนไกล...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "นักดาราศาสตร์วิทยุ" ที่จะคอยรับฟัง "สัญญาณ" ทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน แล้วนำมา "ถอดรหัส" ให้เป็นเรื่องราวที่ทุกคนเข้าใจได้
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้ "จานรับสัญญาณ" ของเรายังคงคมชัดและทำงานต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา