สรุปวิธีดูอินไซต์ หลังบ้าน YouTube พร้อมอธิบายตัวชี้วัดแต่ละตัว แบบเข้าใจง่าย ๆ
เจ้าของแบรนด์ นักการตลาด ครีเอเตอร์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ นอกจากจะทำคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์มต่าง ๆ แล้ว ก็ควรติดตามดูข้อมูลเชิงลึกของเพจและคอนเทนต์ด้วยว่า ผลตอบรับเป็นอย่างไร
แต่คำถามก็คือ แล้วแต่ละแพลตฟอร์ม ต้องดูข้อมูลอะไรบ้าง ?
บทความนี้ MarketThink จะมาแชร์วิธีการดูหลังบ้านของ YouTube ให้ดูกันว่า สามารถดูอินไซต์อะไรได้บ้าง ? และจะต้องปรับปรุงคอนเทนต์ของเราอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ?
วิธีเข้าไปดูข้อมูลเชิงลึกใน YouTube เราสามารถเข้าไปดูผ่านเว็บไซต์ก็ได้ หรือผ่านสมาร์ตโฟน โดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า YouTube Studio ได้ทาง App Store และ Play Store
หลังจากดาวน์โหลดแล้วก็เชื่อมต่อกับบัญชี YouTube ได้เลย ด้วยการล็อกอินผ่าน Google Account
และหากเรามีบัญชี YouTube หลายบัญชี ก็สามารถเชื่อมต่อกับทุกบัญชีเอาไว้ก่อน แล้วมาสลับ Account เพื่อดูอินไซต์แต่ละบัญชีในภายหลังได้เช่นกัน
โดยภายในแอปพลิเคชัน YouTube Studio เราสามารถดูอินไซต์แบบภาพรวมทั้งบัญชี เพื่อวิเคราะห์การเติบโตของช่อง หรือจะดูอินไซต์แบบแยกรายคอนเทนต์ เพื่อดูประสิทธิภาพของแต่ละโพสต์เลยก็ได้
เมื่อเข้ามาที่หน้าแรกแล้ว จะมีเมนูให้ดูทั้งหมด 5 หน้าคือ
- หน้า Dashboard เป็นหน้าที่บอกภาพรวมของช่องภายใน 28 วันที่ผ่านมา
- หน้า Content เป็นหน้าที่แยกให้เห็นว่า ช่องของเราลงคอนเทนต์อะไรไปบ้าง และถ้ากดเข้าไปดูในแต่ละคอนเทนต์ ก็จะแสดงอินไซต์ของแต่ละคอนเทนต์แบบละเอียด
- หน้า Analytics เป็นหน้าที่แสดงอินไซต์ของช่องเราแบบภาพรวม
- หน้า Community เป็นหน้าที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับโพสต์และคอมเมนต์ต่าง ๆ
- หน้า Earn เป็นหน้าที่แสดงการสร้างรายได้ผ่านคอนเทนต์
ตัวชี้วัดสำคัญ ๆ เมื่อกดเข้าไปดูอินไซต์แบบแยกรายคอนเทนต์
1. หน้า Overview
- Views
คือ จำนวนครั้งของการดูคลิปวิดีโอ โดย YouTube Shorts จะนับยอดวิวทันทีเมื่อเริ่มดู แต่คลิปยาวจะเริ่มนับยอดวิวเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 30 วินาที
โดยถ้ากดดูรายละเอียด จะปรากฏจำนวนยอดวิวของคลิปอื่นในช่อง (Typical) และแหล่งที่มาของการดูด้วย
- Subscribers
คือ จำนวนผู้ชมที่กดติดตามจากคลิปนี้
- Audience Retention
คือ กราฟแสดงสัดส่วนผู้ชมที่ดูคอนเทนต์ในแต่ละจุดเวลา เป็นตัวชี้วัดสำคัญว่า วิดีโอดึงดูดให้ผู้ชมสนใจและดูได้นานแค่ไหน ซึ่งทำให้ครีเอเตอร์และแบรนด์รู้ว่า ช่วงเวลาไหนของวิดีโอที่ทำให้ผู้ชมหยุดหรือเลิกดู
นอกจากนี้ ถ้ากดดูรายละเอียดจะมีตัวชี้วัดที่น่าสนใจอย่าง เปอร์เซ็นต์ผู้ชมที่หยุดดูวิดีโอ (Stayed to Watch) และระยะเวลาดูวิดีโอโดยเฉลี่ย (Average View Duration) ด้วย
ถ้า Audience Retention ลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงแรกของวิดีโอ ครีเอเตอร์และแบรนด์ อาจต้องปรับปรุงคอนเทนต์ให้น่าสนใจ และกระชับมากขึ้น เพื่อดึงให้ผู้ชมดูวิดีโอต่อให้ได้นานมากขึ้น
2. หน้า Reach
- Views (รายละเอียดเหมือนในหน้า Overview)
- How Viewers Find this Video
คือ อินไซต์ที่บอกว่า ผู้ชมเจอวิดีโอนี้ได้อย่างไร
เช่น เจอผ่านหน้าฟีดของ YouTube Shorts, หน้า YouTube Search, Channel Pages, Suggested Videos, Playlists, Browse Features
- External Sites or Apps
คือ อินไซต์ที่บอกว่า ผู้ชมที่ดูวิดีโอนี้มาจากนอก YouTube หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ หรือไม่ ซึ่งอินไซต์นี้จะปรากฏขึ้นเมื่อเราแชร์วิดีโอหรือนำ Link ของวิดีโอ ไปแปะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Facebook, Instagram
- YouTube Search Terms
คือ อินไซต์ที่บอกว่า ผู้ชมที่เห็นคลิปวิดีโอของเราผ่านหน้า YouTube Search ใช้คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาว่าอะไรบ้าง
- Content Suggesting this Shorts/Video
คือ อินไซต์ที่บอกว่า คอนเทนต์ไหนที่ผู้ชมดูจบ แล้วมีการแนะนำคลิปวิดีโอหรือ YouTube Shorts ของเรา ให้เห็นบ้าง
3. หน้า Engagement
- Engaged View
คือ จำนวนครั้งของการดูคลิปวิดีโอจริง ๆ ซึ่งจะนับเมื่อดูวิดีโอผ่านไปสักระยะเวลาหนึ่ง และแตกต่างจาก Views ที่เริ่มนับทันทีเมื่อวิดีโอเริ่มเล่นเลย
- Unique Viewers
คือ อินไซต์ที่บอกว่า วิดีโอนี้มีบัญชีที่กดเข้ามาดูจริง ๆ กี่บัญชี โดยถ้าบัญชีเดิม กดเข้ามาดูซ้ำ ตัวชี้วัดนี้จะนับแค่ 1 ครั้งเท่านั้น
- Watch Time (Hours)
คือ อินไซต์ที่บอกว่า ผู้ชมรับชมวิดีโอนี้ไปเป็นระยะเวลารวมเท่าไร โดยมีหน่วยวัดเป็น “ชั่วโมง”
- Average View Duration
คือ อินไซต์ที่บอกว่า ผู้ชมใช้เวลารับชมคลิปวิดีโอนี้เป็นระยะเวลาเท่าไร
- How Viewers Engaged
คือ อินไซต์ที่บอกว่า ผู้ชมตัดสินใจหยุดดูวิดีโอนี้ (Stayed to Watch) หรือปัดทิ้ง (Swiped Away) คิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์
- Audience Retention (รายละเอียดเหมือนในหน้า Overview)
- Likes vs. Dislikes
คือ อินไซต์ที่บอกว่า มีคนกด Likes และ Dislikes คลิปวิดีโอนี้เป็นสัดส่วนเท่าไร
และมีอินไซต์เปรียบเทียบจำนวนคนกด Likes และ Dislikes ของคลิปนี้กับภาพรวมของช่อง (Channel Average) ด้วย
4. หน้า Audience
- Unique Viewers (รายละเอียดเหมือนในหน้า Engagement)
- Subscribers (รายละเอียดเหมือนในหน้า Overview)
- Audience by Watch Behavior
คือ อินไซต์ที่บอกประเภทของผู้ชม ได้แก่
New Viewers ผู้ชมที่ดูช่องเราครั้งแรก หรือกลับมาดูหลังจากไม่ได้ดูนานกว่า 1 ปี
Casual Viewers ผู้ชมที่ดูช่องเราอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ในช่วง 1-5 เดือนที่ผ่านมา
Regular Viewers ผู้ชมที่ดูช่องเราอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เป็นเวลานานกว่า 6 เดือน
- Viewers Also Watch
คือ อินไซต์ที่บอกว่า ผู้ชมที่ดูคลิปวิดีโอแล้ว ได้ดูคลิปวิดีโอไหนในช่องของเราอีกบ้าง
- Device Type
คือ อุปกรณ์ที่ผู้ชมใช้รับชมวิดีโอ เช่น โทรศัพท์มือถือ, โทรทัศน์, คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต
- Age
คือ ผู้ชมในแต่ละช่วงอายุมีความถี่ในการรับชมวิดีโอนี้เท่าไร
- Gender
คือ สัดส่วนเพศของผู้ชมที่รับชมคลิปวิดีโอนี้
- Top Geographies
คือ สัดส่วนประเทศของผู้ชมที่ดูคลิปวิดีโอนี้
- Top Subtitle/CC Languages
คือ สัดส่วนผู้ชมที่ไม่เปิดซับไตเติล (No Subtitles/CC) และที่เปิดซับไตเติล (Thai/English หรือ Auto-translated)
- Watch Time from Subscribers
คือ สัดส่วนเวลารับชมวิดีโอจากผู้ชมที่เป็น Subscriber และไม่ใช่ Subscriber
- 1.แอปพลิเคชัน YouTube Studio บนสมาร์ตโฟน
- 2.
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
