เริ่มจากการอยู่รวมกันเป็นหมู่บ้าน แล้วก็กลายเป็นเมือง เมื่อมีหลายเมือง ก็เกิดการตีกัน เมืองที่ยิ่งใหญ่ไปตีเมืองอื่นๆได้ ให้เมืองเหล่านั้นกลายเป็นเมืองขึ้น ดินแดนของตน การขยายเมืองไม่มีขอบเขต ทำให้เกิดการทับซ้อนกันของเมืองขึ้นต่างๆ บรรดาเจ้าของเมืองขึ้นเหล่านั้น จึงต้องการแบ่งเขตให้ชัดเจน ว่าเป็นเขตปกครองของใคร จึงกั้นเขตแดนเป็นประเทศ
การแบ่งเป็นประเทศเริ่มจากยุโรป หลังจากจักรวรรดิ์โรมันล่มสลาย กลายเป็นประเทศต่างๆ ที่แยกตัวประกาศเอกราช ทำให้แทนที่จะเป็นเมืองต่างๆของจักรวรรดิ์ ก็กลายเป็นประเทศต่างๆในยุโรป
และเมื่อยุโรปออกล่าอาณานิคมต่างๆมาเป็นเมืองขึ้น อังกฤษ ฝรั่งเศส ก็ขัดแย้งกันเรื่องผลประโยชน์ ว่าอาณานิคมนี้ กว้างใหญ่ขนาดไหน เขาจะหากินกับดินแดนนี้ได้เท่าไหร่ โดยที่ไม่ไปมีเรื่องกับอาณานิคมของประเทศคู่แข่ง หรือศัตรู จึงเกิดการแบ่งดินแดนกลายเป็นประเทศ
สมัย ร.1-4 ยังเป็นการไปตีเมืองต่างๆมาเป็นเมืองขึ้น ส่งเครื่องราชบรรณาการมาบางกอก ยังมีเจ้าเมืองดูแลอาณาจักร เช่น อาณาจักรล้านนา อาณาจักรน่าน จนมาถึง ร.5 ที่มีการแบ่งเขตแดน กลายเป็นจังหวัด เป็นประเทศ กำเนิดประเทศสยาม ลดอำนาจ ถอดถอนเจ้าเมืองให้กลายเป็นสามัญชน และแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด จากกรุงเทพไปปกครองเมืองต่างๆ เป็นช่วงเวลาที่บรรดาเจ้าเมืองต่างๆน่าสงสารที่สุด เสียดินแดนที่ตนเองปกครองให้กับกรุงเทพ
ปัญหาเขตแดน 1 ต่อ 2 แสน ที่ฝรั่งเศสกำหนดขึ้นใหักับเมืองขึ้นในดินโดนจีน อย่างกัมพูชา เวียดนาม ก็เกิดขึ้นก่อนที่ไทย จะจ้างชาวอังกฤษมาทำแผนอย่างเป็นทางการ แม้ว่าไทยจะมีการสำรวจก่อนคราวๆ กำหนดเขตแดน แต่ก็ยังไม่ได้มีแผนที่ชัดเจน แผนที่ชัดเจนของไทยเกิดขึ้นหลังจาก ฝรั่งเศสทำให้กัมพูชาอยู่หลายปี
ถ้าไม่มีการกำหนดเขตแดน ประเทศข้างเคียงก็อาจจะขยายอาณาเขต กินพื้นที่เพื่อนบ้านไปเรื่อยๆ เพราะไม่ได้กำหนดว่าตรงนั้นเป็นของใคร ข้อพิพาษก็จะเกิดขึ้น เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการขยายดินแดน
ในอดีตอาจมีที่ดินว่างเปล่าไร้เจ้าของ ที่ใครมาอยู่ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ทันที แต่สมัยนี้ ทุกที่บนโลก แม้แต่ในทะเล ล้วนมีเจ้าของทั้งสิ้น ไม่มีที่ดินฟรีอีกต่อไป แม้แต่ที่ส่วนกลางอย่างมหาสมุทร น่านน้ำสากล ก็ยังพยายามจะเป็นเจ้าของกันให้ได้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
