Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Witly. - เปิดโลกวิทย์แบบเบา ๆ
•
ติดตาม
21 ก.ย. เวลา 10:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
🏰 ประวัติศาสตร์เขียนใหม่! หลักฐานจากโคลนชี้ เศรษฐกิจอังกฤษ ‘รุ่งเรือง’ หลังจักรวรรดิโรมันถอนตัว
ถ้าผมถามว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจาก จักรวรรดิโรมันที่ยิ่งใหญ่ถอนกำลังออกจากบริเตน (อังกฤษในปัจจุบัน)? หลายคนคงนึกถึงภาพของความโกลาหล เศรษฐกิจล่มสลาย และการเข้าสู่ “ยุคมืด” (Dark Ages) ที่ไร้ซึ่งความเจริญ... แต่วันนี้ เราอาจจะต้องมาเขียนประวัติศาสตร์บทนี้กันใหม่ครับ
หลักฐานทางโบราณคดีล่าสุดจาก “มลพิษ” ที่ถูกเก็บไว้ในดินตะกอน กำลังบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง มันชี้ว่าอุตสาหกรรมโลหะทางตอนเหนือของอังกฤษไม่เพียงแต่ดำเนินต่อไป แต่ยังขยายตัวและรุ่งเรืองขึ้นในหลายศตวรรษต่อมา
“ข้อถกเถียงที่มีมาตลอดคือ เมื่อกลไกของรัฐและระบบขนส่งของรัฐหายไป เศรษฐกิจในระดับภูมิภาคก็จะล่มสลายโดยสิ้นเชิง” คริสโตเฟอร์ เลิฟลัค (Christopher Loveluck) จากมหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม สหราชอาณาจักร กล่าว แต่งานวิจัยของเขากำลังจะมาท้าทายความเชื่อนี้
🏭 ประวัติศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ในโคลน
ทีมของเลิฟลัคได้ทำการขุดค้นซากเมืองโรมันโบราณในอัลด์โบโรห์ (Aldborough) ซึ่งในยุคโรมันเคยถูกเรียกว่า อิซูเรียม บริกันทุม (Isurium Brigantum) ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการทำเหมืองและแปรรูปโลหะอย่างเหล็กและตะกั่ว
พวกเขาค้นพบว่ามลพิษในอากาศจากโรงถลุงโลหะเหล่านี้ได้ตกลงและถูกดักจับไว้ในชั้นดินตะกอนที่สะสมตัวในท้องแม่น้ำโบราณ การขุดลึกลงไปในชั้นตะกอนเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนการเปิดอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ทีละหน้า ทำให้ทีมวิจัยสามารถสร้างภาพการเปลี่ยนแปลงของระดับมลพิษตั้งแต่ปี ค.ศ. 345 ถึง 1779 ได้
ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 4 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 5 จักรวรรดิโรมันสูญเสียการควบคุมและถอนตัวออกจากบริเตน ศตวรรษต่อจากนั้นแทบไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และอุตสาหกรรมบางอย่าง เช่น การผลิตเครื่องปั้นดินเผาด้วยแป้นหมุน ก็เสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้เองที่สร้างภาพจำว่า “สังคมบริเตนในศตวรรษที่ 5 เพิ่งจะล่มสลายไป” เลิฟลัคกล่าว
แต่บันทึกจากท้องน้ำกลับเล่าเรื่องราวที่ต่างออกไป... ระดับมลพิษจากตะกั่วอยู่ในระดับต่ำในสมัยโรมัน และลดลงเพียงเล็กน้อยในช่วงปลายศตวรรษที่ 4 ถึงต้นศตวรรษที่ 5 แต่หลังจากนั้น มันกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงกลางศตวรรษที่ 6 เช่นเดียวกับมลพิษจากการถลุงเหล็กที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 6
เลิฟลัคให้เหตุผลว่า นี่คือหลักฐานที่ชี้ถึงความต่อเนื่องในการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ที่จำเป็นในปริมาณมาก
เจน เคอร์ชอว์ (Jane Kershaw) จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ให้ข้อสันนิษฐานที่น่าสนใจว่า การเพิ่มขึ้นของการผลิตโลหะอาจเป็นผลมาจากการต่อสู้กันเองภายใน “มันเป็นช่วงเวลาที่อาณาจักรแองโกล-แซกซอนต่างๆ กำลังก่อตัวขึ้น” เธอกล่าว “มีการต่อสู้กันมากมายระหว่างอาณาจักรที่แตกต่างกันเหล่านั้น” ซึ่งแน่นอนว่าสงครามย่อมต้องการอาวุธและโลหะจำนวนมหาศาล
✨ จุดเปลี่ยน และภาพลักษณ์ใหม่ของยุคมืด
การผลิตโลหะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงกลางศตวรรษที่ 6 และอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลาหลายทศวรรษ ทีมวิจัยสันนิษฐานว่านี่อาจเป็นผลมาจากโรคระบาดจัสติเนียน (Justinianic plague) ที่แพร่กระจายไปทั่วดินแดนรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงปี ค.ศ. 541-549 แม้จะมีหลักฐาน DNA โบราณที่ชี้ว่าโรคระบาดมาถึงบริเตนจริง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่ามันรุนแรงและแพร่หลายเพียงใด
นักประวัติศาสตร์กล่าวว่า คำว่า “ยุคมืด” ที่ใช้เรียกยุคนี้ เป็นการทำให้ประวัติศาสตร์ดูง่ายเกินไปมาก แม้ว่าธรรมเนียมปฏิบัติบางอย่างของโรมันจะหายไป แต่ยุคนี้กลับเป็นช่วงเวลาที่มีการสร้างสรรค์งานโลหะอันน่าทึ่ง ซึ่งมักใช้ทองแดงเป็นส่วนประกอบ
คอร์ชอว์ตั้งคำถามไว้อย่างน่าสนใจว่า “ถ้าทุกอย่างมันเลวร้ายและมืดมนไปหมด แล้วทำไมผู้คนถึงสวมเข็มกลัดที่น่าทึ่งเหล่านี้ และมีสร้อยคอลูกปัดสีสันสดใสกันล่ะ?”
🏡 บทเรียนจากประวัติศาสตร์ถึงปัจจุบัน
เรื่องราวจากอังกฤษอาจฟังดูไกลตัวนะครับ แต่แก่นของมันคือบทเรียนที่เป็นสากล มันแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น (Resilience) ของสังคมมนุษย์ เมื่ออำนาจศูนย์กลางขนาดใหญ่ล่มสลายหรือถอนตัวออกไป มันไม่ได้หมายถึงจุดจบเสมอไป แต่เป็นการเปิดโอกาสให้เกิดอำนาจท้องถิ่นใหม่ๆ เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ และวัฒนธรรมใหม่ๆ ขึ้นมาแทนที่
เหมือนกับประวัติศาสตร์ในบ้านเราหรือที่อื่นๆ ในโลกที่ผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญมาแล้ว ชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป และผู้คนก็ยังคงหาทางปรับตัว สร้างสรรค์ และแม้กระทั่งรุ่งเรืองได้ในโลกใบใหม่ของพวกเขา
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ลบล้างความเชื่อเดิม: ตรงข้ามกับความเชื่อว่าเศรษฐกิจอังกฤษล่มสลายหลังโรมันถอนตัว หลักฐานใหม่ชี้ว่าอุตสาหกรรมโลหะกลับเติบโตขึ้น
✅ หลักฐานจากมลพิษ: นักโบราณคดีวิเคราะห์ชั้นมลพิษในตะกอนแม่น้ำโบราณ พบว่ามลพิษจากตะกั่วและเหล็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงกลางศตวรรษที่ 6
✅ สงครามสร้างอุตสาหกรรม: การเติบโตของอุตสาหกรรมโลหะอาจถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการอาวุธและเครื่องใช้โลหะจากการสู้รบระหว่างอาณาจักรแองโกล-แซกซอน
✅ “ยุคมืด” ไม่ได้มืดมน: แม้บางอย่างจะเสื่อมถอย แต่ยุคนี้ก็มีการสร้างสรรค์งานศิลปะและงานโลหะที่งดงาม ซึ่งบ่งชี้ถึงสังคมที่มีความซับซ้อนและมีชีวิตชีวา
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การค้นพบนี้ทำให้คุณมองคำว่า ‘ล่มสลาย’ ในประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปไหมครับ? และคุณคิดว่ามีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อะไรอีกบ้างที่เราอาจเข้าใจผิดมาตลอด?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าสนใจ 🏛️ อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ร่วมไขปริศนาแห่งยุคมืดนี้ด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Loveluck, C. P., et al. (2025). Aldborough and the metals economy of northern England, c. AD 345–1700: a new post-Roman narrative. Antiquity.
https://doi.org/g93chw
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
ผมตั้งใจทำเนื้อหาเชิงสารคดีแบบนี้ขึ้นมา เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความรู้ที่เข้มข้นและเข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน เนื้อหาทุกชิ้นเกิดขึ้นจากการค้นคว้าและเรียบเรียงอย่างสุดความสามารถโดยไม่มีองค์กรใดสนับสนุน
หากคุณชื่นชอบและเห็นคุณค่าของงานชิ้นนี้ การสนับสนุนเล็กๆ น้อยๆ จากคุณจะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้ผมสามารถสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพแบบนี้ต่อไปได้ เพื่อให้เราทุกคนได้มีพื้นที่ในการเรียนรู้และเปิดโลกไปด้วยกัน
Link สนับสนุนค่ากาแฟ [
https://ezdn.app/witlyofficial
]
วิทยาศาสตร์
ประวัติศาสตร์
ความรู้รอบตัว
1 บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
NEWS BRIEF (กันยายน 2568)
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย