เมื่อวาน เวลา 04:31 • สุขภาพ

Longevity และ Hallmarks of Aging คืออะไร?

Longevity หมายถึง “อายุยืนอย่างมีคุณภาพ” ไม่ใช่แค่การมีชีวิตที่ยาวนาน แต่ต้องมีสุขภาพดี แข็งแรง สมองแจ่มใส และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างอิสระโดยไม่พึ่งพาผู้อื่น
เป้าหมายของศาสตร์ด้าน longevity medicine คือ การเพิ่ม “healthspan” (ช่วงเวลาที่สุขภาพดี) ควบคู่ไปกับ “lifespan” (อายุขัยรวมทั้งหมด)
หนึ่งในแนวคิดสำคัญในการทำความเข้าใจ การแก่ชรา (aging) ก็คือ Hallmarks of Aging หรือ “กลไกหลักของความชรา” ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายว่ามีปัจจัยชีววิทยาหลักที่ทำให้ร่างกายเสื่อมลงและเกิดโรคเรื้อรังตามวัย
🌟Hallmarks of Aging มีอะไรบ้าง?
ตามงานวิจัยต้นแบบโดย López-Otín และคณะ (2013) และงานอัปเดตล่าสุด (2023) มีการสรุปไว้ดังนี้
🗒️Genomic instability – ความไม่มั่นคงของสารพันธุกรรม
DNA ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ มลพิษ หรือแสง UV เมื่อซ่อมแซมไม่ทัน ทำให้เซลล์เสื่อมและเสี่ยงต่อมะเร็ง
🗒️Telomere attrition – การสั้นลงของปลายโครโมโซม (Telomere)
Telomere ทำหน้าที่ปกป้อง DNA ทุกครั้งที่เซลล์แบ่งตัว Telomere จะสั้นลงเรื่อย ๆ จนเซลล์หยุดแบ่งตัวและเข้าสู่ความชรา
🗒️Epigenetic alterations – การเปลี่ยนแปลงด้านอีพีเจเนติกส์
คือการเปิด–ปิดยีนโดยไม่เปลี่ยนรหัสพันธุกรรม ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์และกระบวนการชรา
🗒️Loss of proteostasis – การสูญเสียสมดุลของโปรตีน
โปรตีนในร่างกายจับตัวผิดรูปหรือสะสมจนเกิดโรค เช่น อัลไซเมอร์
🗒️Deregulated nutrient sensing – ความผิดปกติในการรับรู้สารอาหาร
เช่น อินซูลินและ IGF-1 pathway ทำงานผิดปกติ นำไปสู่เบาหวานและโรคอ้วน
🗒️Mitochondrial dysfunction – ความผิดปกติของไมโทคอนเดรีย
“โรงไฟฟ้าของเซลล์” ผลิตพลังงานได้น้อยลง เกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น ทำให้เซลล์เสื่อมเร็ว
🗒️Cellular senescence – ภาวะเซลล์แก่ (Senescent cell)
เซลล์ที่หยุดแบ่งตัวแต่ไม่ตาย สะสมในร่างกายและปล่อยสารกระตุ้นการอักเสบ
🗒️Stem cell exhaustion – การเสื่อมของสเต็มเซลล์
ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้น้อยลง เช่น การสร้างเม็ดเลือด กระดูก หรือผิวหนังช้าลง
🗒️Altered intercellular communication – การสื่อสารระหว่างเซลล์ผิดปกติ
การอักเสบเรื้อรัง (inflammaging) ทำให้เนื้อเยื่อเสื่อมและเกิดโรคเรื้อรัง เช่น หัวใจ เบาหวาน มะเร็ง
🔆แม้ Hallmarks of Aging จะเป็นกลไกเชิงวิทยาศาสตร์ แต่เราสามารถปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น
Genomic stability → หลีกเลี่ยงสารพิษ สูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ และทานอาหารต้านอนุมูลอิสระ (ผักผลไม้หลากสี)
Telomere → ฝึกสมาธิ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีงานวิจัยว่าช่วยชะลอการสั้นของ Telomere
Epigenetic → เลือกกินอาหารที่ดี ลดน้ำตาลและไขมันทรานส์ นอนเพียงพอ
Proteostasis → ทานโปรตีนที่เพียงพอ และฝึก fasting/intermittent fasting ที่มีการศึกษาเรื่อง autophagy
Nutrient sensing → เลือกอาหารสมดุล ควบคุมน้ำหนัก ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
Mitochondria → ออกกำลังกายแบบแอโรบิก และรับสารอาหาร เช่น โคเอนไซม์ Q10
Senescent cells → การควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยลดการสะสม
Stem cells → นอนหลับเพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียดเรื้อรัง
Inflammaging → ลดอาหารแปรรูป น้ำตาลสูง และเพิ่มอาหารต้านการอักเสบ เช่น น้ำมันมะกอก ปลา ถั่ว
🌟สรุป
Longevity ไม่ได้หมายถึงการอยู่ให้ได้นานที่สุดเท่านั้น แต่คือการมีชีวิตที่ยืนยาวแบบ “คุณภาพ” และเข้าใจ Hallmarks of Aging จะช่วยให้เรารู้ว่า “ร่างกายแก่ชราเพราะอะไร” และ “เราจะปรับพฤติกรรมเพื่อชะลอกลไกเหล่านี้ได้อย่างไร”
ดังนั้น หลักการง่าย ๆ ที่ทุกคนเริ่มได้ทันทีคือ กินอาหารที่ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนให้พอ จัดการความเครียด และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้สอดคล้องกับ 6 Pillars of Lifestyle Medicine
📚References
López-Otín C, Blasco MA, Partridge L, Serrano M, Kroemer G. The hallmarks of aging. Cell. 2013;153(6):1194–1217.
López-Otín C, et al. Hallmarks of aging: An expanding universe. Cell. 2023;186(2):243–278.
โฆษณา