Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Blockdit
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
22 ก.ย. เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
ทำไมคนยุโรปกินขนมปัง แต่คนเอเชียกินข้าว?
เคยสงสัยกันมั้ยว่า ‘ทำไมฝรั่งชาวยุโรปถึงกินขนมปังเป็นอาหารหลัก ส่วนคนเอเชียกลับกินข้าวเป็นชีวิตจิตใจ’
บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องความชอบส่วนบุคคล แต่เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนและน่าสนใจกว่าที่คิดเยอะ
วันนี้เลยจะมาชวนทุกคนไปเจาะลึกเบื้องหลังของคำถามโลกแตกนี้ 💡
บอกเลยว่าเซอร์ไพรส์มากเพราะมาครบทั้งเรื่องภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเลยทีเดียว
เริ่มต้นที่ด้านภูมิศาสตร์ก่อนเลย
ทำไมฝั่งยุโรปถึงเหมาะกับ “ขนมปัง” และฝั่งเอเชียถึงต้องเป็น “ข้าว”
⭐️ทวีปยุโรป
แถบนี้มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าและที่ราบกว้างใหญ่ มีสภาพอากาศแบบอบอุ่นไปจนถึงหนาวเย็น ซึ่งสภาพอากาศแบบนี้เหมาะมากกับการปลูก ข้าวสาลี (Wheat) ข้าวบาร์เลย์ (Barley) และข้าวไรย์ (Rye) เป็นที่สุด โดยที่พืชเหล่านี้มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นและแห้งแล้งได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2
‘ข้าวสาลี’ นั้นจัดว่าเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย สามารถเก็บเกี่ยวได้ครั้งละมากๆ และที่สำคัญที่สุดคือมักมีกลูเตนสูง (โปรตีนชนิดหนึ่งที่พบมากในธัญพืช ลักษณะเหนียว ยืดหยุ่น ทำหน้าที่เป็นเสมือน "กาว")
3
ซึ่งทำให้เวลาเอามาทำขนมปังแล้วเนื้อที่ได้จะเหนียวนุ่มฟู
ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ข้าวชนิดอื่นๆ ให้ไม่ได้
1
ขนมปังเลยกลายเป็นอาหารหลักที่หาได้ง่ายและสามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลายอีกด้วย
1
⭐️ทวีปเอเชีย
เอาหละกลับมาที่ฝั่งทวีปเอเชียเราบ้าง ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเอเชียบ้านเราโดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและมีที่ราบลุ่มแม่น้ำ
มีอากาศแบบ ร้อนชื้นและมรสุม ซึ่งสภาพแบบนี้จะมีความเหมาะสมกับการปลูกข้าว(Rice) หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ข้าวเจ้า’ เป็นที่สุด
1
‘ข้าวเจ้า’ นั้นมีความต้องการน้ำในปริมาณมากเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต ยิ่งน้ำท่วมถึงข้าวก็ยิ่งเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งนี่คือสิ่งที่ภูมิประเทศและสภาพอากาศของชาวเอเชียมีให้อย่างเหลือเฟือ การเพาะปลูกข้าวในทุ่งนาที่เต็มไปด้วยน้ำนองจึงกลายเป็นวิถีชีวิตหลักของผู้คนในแถบนี้มาอย่างยาวนานนับพันปีเลย
1
จะเห็นได้ว่าธรรมชาตินั้นเป็นตัวกำหนด ‘วัตถุดิบหลัก’
ของแต่ละทวีปให้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน🥳
1
ต่อกันที่ด้านประวัติศาสตร์
นอกจากเรื่องภูมิศาสตร์แล้ว เรื่องประวัติศาสตร์ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน
📍ประวัติศาสตร์การทำขนมปังของฝั่งยุโรปนั้น
พบว่าการทำขนมปังไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันในทุกพื้นที่ทั่วยุโรป แต่มีหลักฐานว่ามนุษย์เริ่มทำขนมปังแบบง่ายๆ มาตั้งแต่ยุคหินแล้ว (ประมาณ 12,000 ปีก่อนนู่นเลย)
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ขนมปังเกิดการพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดนั้นก็คือเมื่อชาวอียิปต์โบราณมีการค้นพบ ‘ยีสต์’ โดยบังเอิญ ซึ่งมีปฎิกิริยาทำให้ขนมปังที่ทำออกมาฟู นุ่ม และน่ากินมากขึ้นกว่าเดิม
วัฒนธรรมนี้เลยเริ่มมีการแพร่กระจายไปยังกรีกและโรมัน จนกลายเป็นอาหารหลักของผู้คนในอาณาจักรโรมัน และเมื่ออาณาจักรโรมันขยายตัวไปทั่วภูมิภาคทวีปยุโรป วัฒนธรรมการกินขนมปังก็เลยมีการแพร่หลายตามไปด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับขนมปังคือ ‘ศาสนาคริสต์’ ซึ่งมีส่วนสำคัญมากในการทำให้ ‘ขนมปังกลายเป็นอาหารหลัก’ เพราะในพิธีกรรมทางศาสนาสำคัญๆ เช่น พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์
2
เป็นพิธีที่คริสตชนรับประทานขนมปังและดื่มไวน์เพื่อระลึกถึงพระกายและพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ทำให้ขนมปังมีสถานะมากกว่าแค่อาหาร แต่เป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณที่ฝังรากลึกในวิถีชีวิตของผู้คน
📍ประวัติศาสตร์เรื่องข้าวของฝั่งเอเชีย
ส่วนข้าวของฝั่งเอเชียก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานไม่แพ้กัน มีหลักฐานการเพาะปลูกข้าวในจีนและอินเดียมาตั้งแต่หลายพันปีก่อนนู่นนานมากไม่แพ้กัน เมื่อผู้คนต่างเริ่มตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนเกษตรกรรมในพื้นที่ราบลุ่ม
การปลูกข้าวก็ได้กลายเป็นหัวใจหลักของการเพาะปลูก เพราะข้าว 1 เมล็ดสามารถให้ผลผลิตได้อย่างมากมายและสามารถเลี้ยงดูประชากรจำนวนมหาศาลได้เลย
‘ข้าว’ นั้นไม่ได้เป็นแค่อาหารธรรมดา แต่เป็นถึงศูนย์กลางของวัฒนธรรมและสังคมของคนชาวเอเชีย เพราะสังคมส่วนใหญ่ในเอเชียเป็น สังคมเกษตรกรรม ที่มีวงจรชีวิตผูกติดอยู่กับการเพาะปลูกข้าว
2
เริ่มตั้งแต่การลงแขกดำนา ปลูกข้าว ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ข้าวเลยถูกมองว่าเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของคน และถูกยกย่องเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่งมาจนถึงทุกวันนี้
2
หากจะสรุปง่ายๆ ว่าทำไมคนฝั่งยุโรปถึงกินขนมปังเป็นหลักและคนเอเชียถึงกินข้าว
✅คำตอบที่ชัดเจนที่สุดก็คือ
‘เพราะมันคือสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดมาให้และเป็นสิ่งที่ประวัติศาสตร์หล่อหลอมขึ้นมา’
ขนมปังและข้าวเป็นผลผลิตของสภาพแวดล้อมที่มีความเหมาะสมและแตกต่างในแต่ละภูมิภาค และเมื่อกาลเวลาผ่านไป
1
อาหารทั้งสองชนิดนั้นก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งพลังงานให้กับร่างกายเท่านั้น แต่ถูกเชื่อมโยงเข้ากับประเพณี ศาสนา และวิถีชีวิตของผู้คน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้คนจนแยกจากกันไม่ได้
1
ครั้งหน้าถ้าได้เห็นคนยุโรปกินขนมปังหรือได้นั่งกินข้าวพร้อมกับครอบครัว
อย่าลืมว่าอาหารเหล่านี้ไม่ได้อยู่บนจานเราเฉยๆ แต่มันคือเรื่องราวของโลกใบนี้ที่เดินทางข้ามกาลเวลามาอย่างยาวนาน จนมาอยู่บนจานอาหารตรงหน้าเราแล้วนั่นเอง
💬คอมเมนต์บอกกันหน่อยว่า “อะไรคือเมนูโปรดที่ทุกคนชอบกินคู่กับข้าวหรือขนมปังกันบ้าง”
2
Ref.
https://www.mkunigroup.com/en/blog-mkunigroup/21
https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_rice_cultivation
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%87
https://www.worldatlas.com/articles/largest-wheat-producing-countries.html
📊ชวนตอบแบบสำรวจประสบการณ์การใช้งานแอปฯ Blockdit
ใช้เวลาไม่นาน 1 - 2 นาทีเท่านั้นเอง
📌 ทำแบบสำรวจ 👉
https://bit.ly/4iTuZtx
⭐️โปรโมตแบรนด์ให้ตรงเป้า เข้าถึงคนจริง แบบมีคุณภาพ บนแพลตฟอร์ม Blockdit
สนใจกรอกฟอร์ม 📲
https://bit.ly/497KSYM
blockdit
ประวัติศาสตร์
ความรู้
106 บันทึก
220
18
90
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Blockdit Series : DID YOU KNOW?
106
220
18
90
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย