นอกจากนี้ยังมีการคัฟเวอร์เพลง Johnny and Mary ของ Robert Palmer โดยได้ Bryan Ferry (แห่งวง Roxy Music) มาร่วมร้อง เพลงนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของอัลบั้ม เพราะต่างจากแทร็กอื่นที่เต็มไปด้วยจังหวะและพลัง Johnny and Mary กลับนำเสนอความเศร้าละเมียด เสียงร้องของ Ferry ที่แผ่วเบาประกอบกับการเรียบเรียงที่ minimalist ทำให้เพลงนี้เป็นเหมือนหัวใจลึก ๆ ของอัลบั้ม และเป็นช่วงพักหายใจที่ให้มิติใหม่แก่ผู้ฟัง
ต่อด้วย Delorean Dynamite แทร็กที่ทรงพลังที่สุดของ It’s Album Time มันเต็มไปด้วยพลังงานแบบ Synth-Driven Disco ยุค 80s ที่ชวนให้นึกถึงความเร็วและอนาคต เสียงซินธ์ที่หมุนวนซ้ำ ๆ ค่อย ๆ ทับซ้อนกันทีละชั้นเหมือนการเร่งเครื่องยนต์ DeLorean ในตำนานจาก Back to the Future เพลงนี้ไม่มีเสียงร้อง แต่เล่าเรื่องด้วยโครงสร้างที่ชัดเจนและเข้มข้น
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกคนที่จะประทับใจ Alexis Petridis จาก The Guardian วิจารณ์ในเชิงผสมว่า การที่ Terje พยายามออกนอกกรอบจากสไตล์ที่ทำให้เขาโด่งดังนั้นเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ทิศทางใหม่ ๆ ที่เขาสำรวจกลับมีความซ้ำซากจำเจไปบ้าง ขณะที่ AllMusic แนะนำว่า Terje ควรมุ่งไปที่การสร้าง Electro-Disco หรือ Space Disco ที่เฉียบคมมากกว่า เพราะบางการทดลองในอัลบั้มนี้อาจทำให้เสียโฟกัสของความสนุกไป
ถึงกระนั้น ในภาพรวม It’s Album Time ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง อัลบั้มได้คะแนนเฉลี่ย 79 บน Metacritic ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็น “Generally Favorable Reviews” และที่สำคัญ Pitchfork ยังยกให้เป็นหนึ่งใน The 100 Best Albums of the Decade So Far (2014) และภายหลังจัดอันดับที่ #98 ใน The 200 Best Albums of the 2010s พร้อมนิยามว่าเป็น “Cosmic Cocktail-lounge Fantasia” คำบรรยายนี้สะท้อนแก่นแท้ของงานได้เป็นอย่างดี
เมื่อมองจากมิติประวัติศาสตร์ดนตรี It’s Album Time คือหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของกระแส Nu-Disco และ Space Disco ยุค 2010s ที่ชุบชีวิตเสียงสังเคราะห์แบบเก่าให้ออกมาใหม่สด ฟังแล้วทั้งคุ้นเคยและทันสมัย Terje ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นดนตรีแดนซ์ที่ขับเคลื่อนผู้คนไปข้างหน้า แต่เลือกที่จะหยอดอารมณ์ขัน ความหรูหรา และบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครเข้าไป
ในด้านภาพลักษณ์ Todd Terje ยังเสริมประสบการณ์ด้วยการสร้างตัวละคร “Preben” ที่กลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำการแสดงสด นี่สะท้อนว่าเขามองอัลบั้มและโชว์ดนตรีในฐานะ “Performance Art” มากกว่าแค่การผลิตแทร็กลงคอมพิวเตอร์ นี่เองที่ทำให้ It’s Album Time มีเสน่ห์ทั้งในเชิงเสียงและภาพ