ตอนที่ 2: วงจรแทนเส้นตรง (Circular Supply Chain)
แนวคิดหลัก:
ซัพพลายเชนแบบเดิมคือ เส้นตรง (Linear Supply Chain)
โรงงาน → คลังสินค้า → ร้านค้า → ลูกค้า → ขยะ
โมเดลนี้สร้างปัญหาใหญ่คือ ของเสียและต้นทุนที่ทิ้งไปกับขยะ
แต่ Reverse Logistics แบบใหม่ มองหาทาง ทำให้ Supply Chain เป็นวงจร (Circular)
สินค้าที่ถูกคืนหรือเลิกใช้ → หมุนกลับเข้าสู่ระบบ เพื่อ รีไซเคิล, ซ่อม, แยกชิ้นส่วน,
นำกลับไปใช้ใหม่
🔄 ประโยชน์ของ Circular Supply Chain
1. สิ่งแวดล้อม: ลดการใช้ทรัพยากรใหม่, ลดขยะ, ลดคาร์บอน
2. ธุรกิจ: ลดต้นทุนวัตถุดิบ, เพิ่มรายได้ใหม่จากการขายของคืน
3. สังคม: แบรนด์ได้ภาพลักษณ์ที่ยั่งยืน, ลูกค้าเชื่อมั่นและภักดี
---
🌍 กรณีศึกษา
ต่างประเทศ
Dell Technologies (USA):
มีโครงการ Closed-Loop Recycling เก็บพีซีและ
อุปกรณ์เก่าที่ลูกค้าส่งคืน → รีไซเคิลพลาสติกและโลหะ → ใช้ผลิตคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่
👉 ลดการนำเข้าวัตถุดิบใหม่ และช่วยลด E-waste
H&M (Sweden):
มีโครงการรับเสื้อผ้าเก่าทุกแบรนด์ → คัดแยกเป็น 3 ทาง:
1. Rewear (ขายต่อมือสอง),
2. Reuse (แปรรูปเป็นสินค้าอื่น เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด),
3. Recycle (นำเส้นใยไปผลิตเสื้อใหม่)
👉 สร้างโมเดล Circular Fashion
---
ในประเทศไทย
SCG Green Circular Economy:
พัฒนา “แพลตฟอร์มรีไซเคิล”
เพื่อเชื่อมผู้บริโภค–ธุรกิจ–ผู้ผลิต → ให้ขยะกลับเข้าสู่ระบบ เช่น
ขวดพลาสติก PET → รีไซเคิลเป็นเส้นใยสำหรับทำเสื้อผ้า/ผลิตภัณฑ์ใหม่
👉 สร้าง Value Chain ครบวงจร
HomePro (HomePro Outlet):
นำสินค้าที่ตกรุ่น, สินค้าตัวโชว์,
หรือสินค้าที่ลูกค้าส่งคืน → เข้าสู่โซน Outlet ในราคาพิเศษ → ลดการทิ้งสินค้าที่ใช้งานได้
และหมุนกลับมาเป็นรายได้ใหม่
👉 Circular ไม่ใช่แค่การรีไซเคิล แต่คือการ “ต่ออายุ” ของสินค้า
---
✨ สรุปตอนนี้:
การเปลี่ยนจาก เส้นตรง → วงจร ทำให้ Reverse Logistics ไม่ใช่แค่การ “รับคืน”
แต่คือ การสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
