Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
23 ก.ย. เวลา 08:53 • ประวัติศาสตร์
ความฝันในหอแดง 29 เจ้าจอมองค์ใหม่
มาถึงวันเกิดของเจี่ยเจิ้ง 贾政 บรรดาคนในจวนหนิงหยงต่างมาอวยพรโดยพร้อมเพรียง คึกคักยิ่งนัก พลันมีเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูมาแจ้งว่า
“นายท่านเซี่ย 夏老爷 มหาขันทีแห่งวังทั้งหก 六官都太监 อัญเชิญพระราชโองการมา”
พวกเจี่ยเส้อ 贾赦 เจี่ยเจิ้ง 贾政 ไม่รู้มาก่อน รีบสั่งให้พักการแสดง เก็บโต๊ะอาหาร จัดวางโต๊ะบูชา เปิดประตูกลางบานใหญ่ คุกเข่ารอรับพระราชโองการ
มหาขันทีเซี่ยปิ่งจง 夏秉忠 ขี่ม้ามาถึง แวดล้อมด้วยเหล่าขันที ไม่เห็นมีม้วนพระราชโองการแต่อย่างใด ขี่ม้าตรงไปยังห้องโถงใหญ่ค่อยลงม้า ใบหน้ายิ้มพราว เดินเข้าห้องโถงหันหน้าหาทิศใต้ถ่ายทอดพระราชโองการด้วยวาจาว่า
“ทรงมีพระราชโองการเป็นกรณีพิเศษ ให้เจี่ยเจิ้งเข้าเฝ้าในทันทีที่พระตำหนักหลินจิ้ง 临敬殿”
กล่าวจบ ชาก็ไม่ดื่ม ขึ้นม้ากลับเลย
พวกเจี่ยเจิ้งจับต้นชนปลายไม่ถูก มีแต่รีบผัดชุดไปเข้าเฝ้า
แม่เฒ่าเจี่ยและพวกคนในบ้านต่างใจคอไม่ดี คอยส่งม้าเร็วไปฟังข่าว จนเวลาผ่านไปสองชั่วยาม ไล่ต้า 赖大 และพวกพ่อบ้านอีกสามสี่คนกระหืดกระหอบกลับมาแสดงความยินดีว่า
“มีคำสั่งจากนายท่านให้เชิญเหล่าไท่ไท่นำไท่ไท่ทั้งหลายเข้าวังเพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ”
แม่เฒ่าเจี่ยกระวนกระวายใจเฝ้ารออยู่ที่ห้องโถงใหญ่กับสิงฮูหยิน หวางฮูหยิน นางอิ๋วสื้อ หลี่หวน พี่เฟิ่ง หยิงชุน และพวกแม่น้าเซวีย แม่เฒ่าเจี่ยเรียกไล่ต้ามาซักรายละเอียด
ไล่ต้าว่า “พวกบ่าวได้แต่รออยู่ในห้องด้านนอก มิอาจล่วงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องใน จนกระทั่งท่านมหาขันทีเซี่ยออกมาแสดงความยินดีว่าคุณหนูใหญ่ของบ้านเราได้รับแต่งตั้งเป็นซ่างซู 尚书 วังเฟิ่งเจ่า 凤藻宫 ดำรงตำแหน่ง เสียนเต๋อเฟย 贤德妃 ถัดมา นายท่านก็ออกมากำชับดังที่ได้เรียนไป ตอนนี้นายท่านกลับเข้ายังวังบูรพา เชิญบรรดาไท่ไท่รีบเข้าวังเถิด”
พวกแม่เฒ่าเจี่ยได้ฟังค่อยคลายกังวล ยิ้มแย้มกันออก แล้วรีบพากันแต่งหน้าแต่งตัว แม่เฒ่าเจี่ยนำสิงฮูหยิน หวางฮูหยิน นางอิ๋วสื้อ ขึ้นเกี้ยวใหญ่สี่คันตามกันเป็นพรวนเข้าวังมา เจี่ยเส้อ เจี่ยเจินผัดเป็นชุดเข้าเฝ้าแล้ว นำเจี่ยเฉียง เจี่ยหยงมารอรับแม่เฒ่าพาเข้าวัง
ชนทุกชั้นทั้งจวนหนิงและจวนหยงต่างยินดีปรีดา จะมีก็เพียงเป่าวี่ที่ทำหูทวนลม ทั้งนี้ก็เพราะเรื่องของฉินจง ไม่นานมานี้ จื้อเหนิงหนีออกจากอารามสุ่ยเยว่เข้าเมืองมาหาฉินจง ทว่าฉินปังเย่ 秦邦业 รู้เรื่องเข้าจึงขับไล่จื้อเหนิงไป แล้วตีฉินจงสั่งสอนเสียยกใหญ่ ฉินปังเย่โกรธจนโรคเก่ากำเริบได้สี่ห้าวันก็ม้วยมรณัง ฉินจงร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว ถูกไม้พลองเข้าหลายทีไม่ทันหาย ต้องมาเสียบิดาไป ยิ่งเพิ่มความเจ็บช้ำจนล้มหมอนนอนเสื่อ
ข่าวมงคลของหยวนชุน 元春 จึงไม่ช่วยให้เป่าวี่คลายทุกข์ ญาติสนิทมิตรสหาย ใครจะไปใครจะมาร่วมแสดงความยินดีจนคึกคักทั้งสองจวน เป่าวี่ก็ไม่ยินดียินร้ายใดใดทั้งสิ้น
ยังดีที่ว่าเจี่ยเหลียนกับไต้วี่กำลังเดินทางกลับ ให้คนล่วงหน้ามาแจ้งว่า “จะถึงบ้านวันพรุ่งนี้”
เป่าวี่พอจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง ตามคนมาซักถามความละเอียดจึงรู้ว่า เจี่ยหวี่ชุน 贾雨村 ก็เข้ากรุงมาด้วยกัน
เพื่อเข้าเฝ้ารับตำแหน่งใหม่โดยได้รับความช่วยเหลือแนะนำหลายครั้งจากหวางจื่อเถิง 王子腾 ที่เดินทางมาด้วยกันก็เพราะว่าเป็นเครือญาติกับเจี่ยเหลียน อีกทั้งยังเป็นอาจารย์ของไต้วี่ การเดินทางตามปกติจะใช้เวลาเดือนเศษ แต่พอรู้ข่าวดีของหยวนชุน ก็เร่งเดินทางทั้งเช้าเย็น เป่าวี่เพียงซักถามว่าไต้วี่เดินทางราบรื่นก็พอใจแล้ว เรื่องอื่นไม่สนใจ
บ่ายวันรุ่งขึ้น บ่าวมาแจ้งว่า
“ท่านนายรองเหลียนและคุณหนูหลินมาถึงจวนแล้ว”
พอพบหน้ากันก็อดร้องไห้ไม่ได้ด้วยความยินดี เป่าวี่สังเกตไต้วี่โดยละเอียดแล้วเห็นว่าสวยขึ้น
ไต้วี่นำหนังสือจำนวนมากมาด้วย รีบปัดกวาดจัดแจงห้องหับ แล้วนำกระดาษและเครื่องเขียนแจกจ่ายให้แก่พวกเป่าไช หยิงชุน และเป่าวี่ เป่าวี่นำสร้อยประคำไม้หลิงหลิงเซียงอันทรงค่าที่เป่ยจิ้งอ๋องประทานให้มามอบให้ไต้วี่
ไต้วี่ว่า “ของที่ผ่านมือชายที่น่ารังเกียจ ข้าไม่ต้องการ”
แล้วโยนสร้อยคืนให้เป่าวี่ เป่าวี่จำต้องเก็บกลับไป
เจี่ยเหลียนเยี่ยมคารวะผู้ใหญ่เสร็จแล้วกลับเข้าเรือนมาก็เห็นว่าพี่เฟิ่งภารกิจรัดตัวจนแทบไม่มีเวลาว่าง แต่พอเห็นว่าเจี่ยเหลียนกลับมาจากเดินทางไกล ก็สู้อุตส่าห์เจียดเวลามาต้อนรับ
พอในห้องปลอดคน นางก็ยิ้มกระเซ้าว่า “ขอแสดงความยินดีกับพระมาตุลา 国舅 พระมาตุลาเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย ข้าน้อยทราบข่าวจากม้าเร็วเมื่อวันวาน วันนี้ก็เสด็จถึงจวน จึงได้เตรียมสุราไว้จิบผ่อนคลาย มิทราบจะทรงให้เกียรติถวายหรือไม่”
เจี่ยเหลียนว่า “มิกล้า มิกล้า น้อมรับ น้อมรับ”
ผิงเอ๋อ 平儿 กับพวกสาวใช้เข้ามาคารวะ แล้วยกน้ำชามาให้
เจี่ยเหลียนถามถึงเรื่องราวทางบ้านหลังจากที่ตนออกเดินทางไป แล้วกล่าวขอบคุณที่พี่เฟิ่งต้องเหน็ดเหนื่อย
พี่เฟิ่งว่า “ข้าจะไปดูแลเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร ความรู้ตื้นเขิน ปากคอไม่คมคาย เซ่อซ่าเถรตรง เขายื่นไม้พลอง ข้าก็นึกว่าเข็ม หูเบาเชื่อง่าย ใครพูดดีไม่กี่คำก็ผ่อนตาม ไร้ประสบการณ์ ขวัญอ่อน ไท่ไท่หงุดหงิดไม่พอใจเล็กน้อย ข้าก็พลอยนอนไม่หลับ ข้าจะลาออก ไท่ไท่ก็ไม่ยอม กลับบอกให้ข้าปรับปรุงตัว เพราะข้าไม่ยอมเรียนรู้ หารู้ไม่ว่าต้องคอยปาดเหงื่อ ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง ทำอะไรก็กลัวผิด
ท่านก็รู้จักพวกแม่บ้านในจวนดี แต่ละคนตอแยได้เสียที่ไหน ทำอะไรผิดสักหน่อยก็นำไปหัวเราะกันลับหลัง ลำเอียงสักนิดก็ตีวัวกระทบคราด 指桑骂槐 ว่า ‘นั่งบนภูดูเสือกัดกัน 坐山看虎斗’ บ้าง ‘ยืมดาบฆ่าคน 借刀杀人’ บ้าง ‘กระพือไฟให้โหม 引风吹火’ บ้าง ทำทองไม่รู้ร้อนบ้าง สุดแต่จะสรรหามาว่า คงเห็นข้าอ่อนอาวุโส จึงไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา
ที่ตลกคือตอนที่ภรรยาหยงเอ๋อตาย พี่ใหญ่เจินคุกเข่าขอร้องไท่ไท่ครั้งแล้วครั้งเล่า ขอให้ข้าไปช่วยงานสักระยะหนึ่ง ข้าก็ปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก แต่ไท่ไท่ท่านรับปากไปแล้ว จึงจำต้องปฏิบัติตาม ข้าก็ทำงานพังล้มคว่ำคะมำหงาย 马仰人翻 ไปหมด ป่านนี้พี่ใหญ่เจินคงนึกเสียใจอยู่ ท่านเจอกันพรุ่งนี้ก็ช่วยขอโทษแทนข้าที บอกว่าข้ายังอ่อนต่อโลก ใครให้ท่านพี่มาเชื่อมือข้าเองเล่า”
ระหว่างสนทนา ก็มีเสียงคนคุยกันอยู่ด้านนอก พี่เฟิ่งถามไปว่า “ใครกัน”
ผิงเอ๋อเข้ามาบอกว่า “ท่านน้าให้น้องเซียงหลิง 香菱 มาถามอะไรข้า ข้าตอบนางไป นางจึงกลับไปแล้ว”
เจี่ยเหลียนยิ้มว่า “ใช่แล้ว ข้าเพิ่งไปพบท่านน้าหญิง(เซวียฮูหยิน)มา เห็นสาวน้อยคนหนึ่งหน้าตาหมดจด ข้าก็คิดอยู่ว่าไม่น่าใช่คนที่บ้านเรา เลยถามท่านน้าหญิงดู ถึงรู้ว่าคือเด็กที่มีคดีความกันชื่อ เซียงหลิง ยกให้เป็นอนุเจ้าทึ่มเซวีย(เซวียผาน) พอใช้ด้ายกันหน้า 开脸 แล้ว สวยขึ้นมาก เจ้าทึ่มเซวียนั่นไม่คู่ควรกับนางเลย”
พี่เฟิ่งเบะปากว่า “เอ๊ะ! ไปซูหังกลับมาเที่ยวนี้ คงเห็นสาวมาเยอะสิท่า ถึงได้ตะกละตะกลามไม่เลือก หากชอบนาง จะเป็นไรไป แค่เอาผิงเอ๋อไปแลกนางมาให้ดีไหม
เจ้าทึ่มเซวียนั่น กินข้าวในชามยังตะกลามข้าวในหม้อ ช่วงปีที่ผ่านมา ตอนที่ยังไม่ได้ตัวเซียงหลิง ก็รบเร้าขอท่านน้า(เซวียฮูหยิน) อย่างคนตายอดตายอยาก ท่านน้าเห็นเซียงหลิงกิริยามารยาทอ่อนโยนเรียบร้อย ออกจะรักและเอ็นดูยิ่งกว่าพวกคุณหนู ถึงกับจัดงานเลี้ยงเชิญแขกมาเป็นสักขีพยานส่งตัวนางเป็นอนุภรรยา ไม่ทันพ้นครึ่งเดือน ก็ทิ้งขว้างนางเหมือนที่ทำกับคนอื่นๆ ”
พูดไม่ทันจบดี บ่าวเข้ามาแจ้งว่า
“นายใหญ่รอนายรองอยู่ที่ห้องหนังสือ”
เจี่ยเหลียนจึงรีบจัดเสื้อผ้าแล้วออกไปพบ
ทางด้านพี่เฟิ่งหันมาถามผิงเอ๋อว่า “เมื่อกี้ท่านน้าหญิงมีธุระอะไรถึงได้ส่งเซียงหลิงมา”
ผิงเอ๋อว่า “เซียงหลิงมาเสียที่ไหนกัน ข้าเพียงใช้เป็นข้ออ้าง คุณนายดูนะ เมียว่างเอ๋อ 旺儿 ยิ่งมายิ่งไม่รู้กาละเทศะ”
แล้วขยับเข้ามาใกล้พี่เฟิ่ง กระซิบว่า
“ค่าดอกเบี้ยสิ เช้าไม่มา เย็นไม่มา มาส่งดอกตอนนายรองอยู่บ้านพอดี ดีที่ข้าเจอที่หน้าห้องโถงเสียก่อน ถ้านายรองรู้เข้า ถึงเป็นกะทะน้ำมันก็ต้องล้วงเอาไปถลุง ยิ่งรู้ว่าคุณนายมีเงินได้ส่วนตัว มิยิ่งมือเติบหรอกหรือ ข้าถึงรีบรับเงินตัดหน้ามาก่อน แล้วต่อว่านางไปสองคำ ก็พอดีคุณนายได้ยินเข้า ข้าจึงหลอกนายรองว่าเซียงหลิงมาหา”
พี่เฟิ่งหัวเราะว่า “ข้าก็คิดว่า ท่านน้าพอรู้ว่านายรองของเจ้ามาถึงจึงรีบส่งสาวในบ้านมาหา ที่แท้เป็นลูกไม้ของเจ้า”
เจี่ยเหลียนกลับเข้าเรือนมา พี่เฟิ่งสั่งให้ตั้งโต๊ะสุราอาหาร สองสามีภรรยานั่งลงตรงข้ามกัน พี่เฟิ่งถึงจะดื่มเก่ง แต่ก็ไม่ดื่มมากเพียงแค่ร่วมดื่มเป็นเพื่อน ระหว่างนั้นเจ้าหม่อมอ 赵嬷嬷 แม่นมของเจี่ยเหลียนแวะมาหา เจี่ยเหลียนและพี่เฟิ่งจึงเชิญนั่งบนเตียงผิงร่วมดื่ม ผิงเอ๋อนำที่วางเท้า 脚踏 มาตั้งข้างเตียง เจ้าหม่อมอไม่ยอมนั่งบนเตียงผิงหรือม้านั่ง กลับนั่งลงบนที่วางเท้า เจี่ยเหลียนหยิบอาหารจากบนโต๊ะสองจานวางบนม้านั่งให้เจ้าหม่อมอกิน
พี่เฟิ่งว่า “แม่คงเคี้ยวไม่ไหวหรอก เดี๋ยวฟันจะร่วงเอา”
แล้วหันมาถามผิงเอ๋อว่า “เมื่อเช้าข้าพูดอยู่เลยว่าขาหมูตุ๋นชามนี้เปื่อยดี เหมาะให้แม่กิน ทำไมเจ้าไม่รีบไปอุ่นมา”
แล้วกลับมาคุยกับเจ้าหม่อมอว่า “แม่ ลองชิมเหล้าหุ้ยเฉวียน 惠泉酒 ที่ลูกชายแม่นำกลับมาดูสิ”
เหล่าหม่อมอว่า “ข้าดื่มแล้ว คุณนายก็ดื่มบ้างสิกลัวอะไร แค่อย่าดื่มมากไปเท่านั้น ข้ามาเที่ยวนี้ไม่ได้มากินดื่มหรอกนะ มีเรื่องสำคัญจะขอร้อง คุณนายก็ช่วยจำให้ข้าที นายท่านนี่น่ะ รับปากแล้วพอถึงเวลาก็ลืม ยังดีที่ข้าเคยให้นมท่านแต่เล็กจนโตมา
ข้าเองก็แก่แล้ว มีลูกชายอยู่สองคน ท่านก็ช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลพวกเขาสักหน่อย เป็นคนอื่นข้าก็ไม่กล้าขอ ข้าขอร้องนายท่านมาหลายครั้งแล้ว ท่านก็รับปากว่าได้ แต่จนป่านนี้ยังว่างเปล่า มาตอนนี้มีเรื่องมงคลใหญ่หล่นลงมาจากฟ้า คงต้องใช้คนบ้างละ จึงต้องมาคุยกับคุณนายให้เป็นเรื่องเป็นราว ถ้ามัวแต่รอนายท่านของพวกเรา กลัวว่าข้าคงอดตายก่อน”
พี่เฟิ่งยิ้มว่า “แม่ เรื่องพี่ชายทั้งสองไว้เป็นธุระข้าเถอะ ท่านน่าจะรู้จักลูกชายที่ท่านให้นมมาแต่เล็ก เนื้อหนังที่มีก็เอาไปแปะให้คนนอกหมด กับพี่ร่วมน้ำนมทั้งสองคน มีใครสู้คนอื่นไม่ได้บ้าง ท่านช่วยดูแลพวกเขา ใครกล้าว่าอะไร ดีกว่าไปช่วยเหลือคนนอก จริงสิ ข้าก็พูดผิดไปหน่อย พวกเราอาจจะเห็นเป็นคนนอก แต่ท่านคงเห็นว่าเป็นคนใน 内人”
(内人 คนใน หรือใช้ในอีกความหมายว่า เมีย)
พี่เฟิ่งเล่นคำทำเอาคนทั้งห้องต่างพากันหัวเราะ แม้กระทั่งเจ้าหม่อมอก็ยังอดขำไม่ได้ สวดภาวนาแล้วกล่าวว่า
“ในบ้านมีท่านเปาคนตรงแล้ว พูดอะไรคนนอกคนใน นายท่านไม่มีหรอก ท่านเพียงเป็นคนใจอ่อนมีเมตตา ใครขอก็ช่วย”
พี่เฟิ่งหัวเราะว่า “ใช่สิ เจอ “คนใน” ก็ใจอ่อน กับพวกเราแม่ลูกกลับแข็งกระด้าง”
เจ้าหม่อมอว่า “คุณนายกล่าวได้ถูกใจยิ่งนัก ข้าก็สบายใจ มาขอดื่มอีกจอก ต่อแต่นี้มีคุณนายคอยสนับสนุน ข้าก็หมดห่วง”
เจี่ยเหลียนรู้สึกกระอักกระอ่วนฝืนยิ้มว่า
“พวกเจ้าอย่าพูดเหลวไหล รีบตักข้าวมา ยังต้องข้ามไปหารือนายใหญ่เจิน 珍大爷 ที่ฟากโน้นอีก”
พี่เฟิ่งว่า “ใช่แล้ว อย่าให้เสียการใหญ่ แล้วเมื่อครู่ นายท่านตามท่านไปคุยเรื่องอะไร”
เจี่ยเหลียนว่า “เรื่องวันเสด็จเยี่ยมญาติ 省亲(สิ่งชิน) น่ะ”
พี่เฟิ่งรีบถามว่า “เรื่องวันเสด็จเยี่ยมญาติกำหนดแน่แล้วหรือ”
เจี่ยเหลียนยิ้มว่า “ถึงยังไม่แน่เต็มสิบ ก็แปดเก้าส่วนแล้ว”
พี่เฟิ่งว่า “เป็นพระมหากรุณาธิคุณโดยแท้ แต่อ่านหนังสือดูละครมา ไม่เคยเห็นว่ามีมาแต่โบราณ”
เจ้าหม่อมอจึงถามแทรกว่า “จริงสิ ข้าก็แก่จนเลอะเลือน พักนี้ได้ยินใครต่อใครพูดกันถึงแต่เยี่ยมญาติไม่เยี่ยมญาติ นี่ก็ยังมาพูดถึงเรื่องเยี่ยมญาติอีก ที่แท้คือเรื่องอันใดกัน”
เจี่ยเหลียนว่า “ในหลวงองค์ปัจจุบัน 当今 ทรงห่วงใยราษฎร เรื่องสำคัญในใต้หล้าคือ “ความกตัญญู 孝” ทรงดำริว่าความผูกพันระหว่างบิดามารดาและบุตรล้วนเป็นเฉกเช่นเดียวกันไม่แบ่งแยกไพร่ผู้ดี ในหลวงพระองค์เองทรงปรนนิบัติ ไท่ซ่างหวง 太上皇 (ฮ่องเต้หลวง) หวงไท่โฮ่ว 皇太后 (พระพันปีหลวง)ยังมิอาจทดแทนพระคุณได้หมดสิ้น
ทรงดำริว่าเหล่าพระสนมนางในล้วนต้องห่างไกลบิดามารดาเข้าวังมานานปี ย่อมต้องคิดถึงกัน บิดามารดาอยู่ทางบ้าน คิดถึงบุตรสาวมิอาจเข้าพบจนเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยย่อมผิดต่อเจตนาฟ้า จึงทรงกราบทูลไท่ซ่างหวงและหวงไท่โฮ่วให้ทรงอนุญาตให้ญาติของพระสนมนางในเข้าเยี่ยมในพระตำหนักต่างๆ ได้ ทุกวันที่สองและหกของเดือน
ไท่ซ่างหวง และหวงไท่โฮ่วทรงยินดียิ่งนัก ทรงตรัสชมในหลวงที่ทรงมีพระทัยกตัญญู เข้าพระทัยเจตนาฟ้าและสรรพสิ่ง ทั้งสองพระองค์จึงทรงมีพระราชานุญาตให้เหล่าญาติเข้าวังเยี่ยมได้โดยไม่ต้องมากพิธีรีตอง ให้แม่ลูกได้พบกัน
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากเข้าวังในวันที่สองและหกของเดือนแล้ว หากบ้านใดมีเรือนรับรองต่างหากมีลานพอรองรับกองทหารราชองครักษ์ ก็อาจเชิญเสด็จพระสนมไปประทับ เพื่อให้เครือญาติได้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
เมื่อมีพระราชานุญาตมาดังนี้ ใครบ้างไม่ยินดีเป็นล้นพ้น บิดาของโจวกุ้ยเฟย 周贵妃 ลงมือต่อเติมบ้านสร้างที่ประทับเยี่ยมญาติมีลานแยกต่างหากจากเรือน อู๋เทียนอิ้ว 吴天佑 บิดาของอู๋กุ้ยเฟยก็ออกไปหาที่ก่อสร้างนอกเมืองแล้วด้วย นี่อย่างไรที่ว่าแน่นอนแล้วแปดเก้าส่วน”
เจ้าหม่อมอว่า “อามิตาภพุทธ ที่แท้เป็นเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้น ทางบ้านเราก็ควรเตรียมการต้อนรับคุณหนูใหญ่”
เจี่ยเหลียนว่า “ยังจะต้องให้บอกหรือ ไม่เช่นนั้นจะวุ่นวายอะไรกันในช่วงนี้”
พี่เฟิ่งยิ้มว่า “เช่นนี้นี่เอง ข้าจะได้เปิดหูเปิดตาสำคัญบ้าง เสียที่ว่าข้าอายุน้อยไปไม่กี่ปี หากเกิดก่อนสักยี่สิบสามสิบปี พวกผู้อาวุโสทุกวันนี้คงไม่อาจดูถูกว่าข้าอ่อนประสบการณ์ มักยกเรื่องที่องค์ไท่จู่ฮ่องเต้ 太祖皇帝 เสด็จประพาสตามแบบพระจ้าซุ่น 舜 มาพูดถึงอยู่เสมอ ดังหัวข้อยอดนิยมในหนังสือ ข้าตามไม่ทัน”
เจ้าหม่อมอว่า “ไอ้หยา นั่นเป็นเรื่องยากพบในรอบพันปี ข้ายังจำตอนนั้นได้ จวนเจี่ยของพวกเรายังอยู่ที่กูซู หยางโจว 姑苏扬州 ต่อเรือเดินทะเล สร้างเขี่อนรอรับเสด็จครั้งนั้น หมดเงินทองโขเหมือนเอาไปถมทะเล พูดขึ้นมา……”
พี่เฟิ่งรีบพูดเสริมว่า “จวนหวางของพวกเราก็เคยเตรียมการครั้งหนึ่ง ตอนนั้นท่านปู่ของข้ากำกับการเข้าถวายบรรณาการ ทูตของประเทศโพ้นทะลล้วนรับรองโดยบ้านของเรา บรรดาเรือเดินทะเลและสินค้าใน เยว่ 粤 หมิ่น 闽 เตียน 滇 เจ้อ 浙 ล้วนเป็นของบ้านเรา”
เจ้าหม่อมอว่า “เรื่องนั้นใครๆ ก็รู้ ทุกวันนี้ยังกล่าวกันว่า
东海少了白玉床,龙王来请金陵王。
เตียงหยกขาวขาดแคลนในทะเลบูรพา
พญามังกรมาขอสกุลหวางจากจินหลิง
ก็หมายถึงจวนหวางของคุณนายนี่แหละ แต่มาทุกวันนี้ยังมีบ้านเจิน 甄家 แห่งเจียงหนาน 江南 ไอ้หยา ยิ่งใหญ่เพียงไหน ลำพังบ้านเจินเขาได้รับเสด็จถึงสี่ครั้ง ถ้าข้าไม่ได้เห็นกับตา พูดไปคงไม่มีใครเชื่อ เงินทองมากองเหมือนกองมูล โลกนี้มีอะไรก็มากองทิ้งกันอยู่ที่นี่เป็นภูเขาเลากา บาปกรรมน่าเสียดาย”
พี่เฟิ่งว่า “ข้าเคยฟังมาจากท่านทวดเช่นกัน ทำไมจะไม่เชื่อ ที่น่าแปลกใจคือ บ้านเขาทำอะไรถึงได้ร่ำรวยขนาดนั้น”
เจ้าหม่อมอว่า “ข้าสรุปให้คุณนายได้ในคำเดียว ใช้เงินฮ่องเต้รับรองฮ่องเต้ มิเช่นนั้นใครจะมีเงินไปถลุงทิ้งได้ปานนั้น”
ตอนก่อนหน้า : ซีเฟิ่งลุแก่อำนาจ
https://www.blockdit.com/posts/68cbd12777a49a62448ec751
ตอนถัดไป : ยมบาลสั่งให้เจ้าตายยามสาม
https://www.blockdit.com/posts/68d508f44287e665082a0b6b
1 บันทึก
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ความฝันในหอแดง
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย