1 ต.ค. เวลา 02:06 • ความคิดเห็น

🧠 ความสามารถ-ทัศนคติ-โอกาส

“3 ตัวแปรที่กำหนดชะตาชีวิตการทำงาน”
====
💥 อะไรคือสูตรความสำเร็จในชีวิตการทำงาน?
หลายคนอาจเคยถามตัวเองว่า “ทำไมบางคนก้าวหน้าเร็ว ในขณะที่บางคนเก่งแต่กลับไม่ไปไหน?” คำตอบไม่ได้อยู่ที่ความเก่งเพียงอย่างเดียว และก็ไม่ใช่แค่โชคช่วย แต่คือการผสมผสานระหว่าง ความสามารถ (Ability), ทัศนคติ (Attitude) และ โอกาส (Opportunity) ที่เข้ามาในจังหวะที่ถูกต้อง
สมการนี้ฟังดูง่าย แต่เมื่อแตกออกมาแล้ว มันคือแผนที่ชีวิตการทำงานที่อธิบายได้เกือบทุกสถานการณ์ในองค์กร และยังเป็น “เครื่องมือ” ที่ผู้นำและคนทำงานสามารถนำไปใช้วิเคราะห์ตัวเองหรือทีมได้จริง
====
🧩 3 ตัวแปรสำคัญ
1. ความสามารถ (Ability): สิ่งที่คุณทำได้จริง ทักษะ ความรู้ และผลงาน เปรียบเสมือน “เครื่องยนต์” ของรถ ยิ่งแรงก็ยิ่งวิ่งได้ไกล แต่หากไม่ดูแลบำรุงรักษา เครื่องยนต์ที่เคยแรงก็พังได้ง่ายๆ
* ตัวอย่างเช่น พนักงานที่มีทักษะดิจิทัลสูงในยุคนี้ ย่อมเป็นที่ต้องการ แต่หากหยุดเรียนรู้ เครื่องมือใหม่ๆ จะทำให้เขาตามไม่ทันและสูญเสียความได้เปรียบ
2. ทัศนคติ (Attitude): วิธีคิด วิธีทำงาน และการปฏิบัติต่อคนรอบตัว เสมือน “พวงมาลัย” ที่กำหนดทิศทางของรถ แม้เครื่องยนต์แรง แต่ถ้าพวงมาลัยพัง รถก็วิ่งตกถนนได้ทุกเมื่อ
* ตัวอย่างเช่น พนักงานที่เปิดใจเรียนรู้ แม้เริ่มจากศูนย์ แต่เพราะพร้อมปรับตัวและช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้เขาเติบโตและเป็นที่รักของทีม
3. โอกาส (Opportunity): จังหวะ เวลา และสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้คุณแสดงศักยภาพ เหมือน “สภาพถนนและอากาศ” ที่ส่งเสริมหรือขัดขวางการเดินทาง คุณอาจเก่งและมีทัศนคติดี แต่ถ้าอยู่ผิดที่ผิดเวลา ก็เหมือนรถแข่งที่วิ่งอยู่บนถนนดินขรุขระ
* ตัวอย่างเช่น หลายคนเก่งมาก แต่ติดอยู่ในองค์กรที่ไม่เปิดโอกาสให้แสดงศักยภาพ การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเพียงครั้งเดียวอาจเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต
“ตัวแปรทั้งสามนี้ทำงานร่วมกันเสมอ เก่งอย่างเดียวแต่ทัศนคติแย่ก็ไปไม่ไกล หรือทัศนคติดีแต่ไม่พัฒนาตัวเอง ก็อาจพลาดโอกาสที่เข้ามาได้ง่ายๆ”
====
🗺️ “5 เส้นทางอาชีพ” คุณอยู่ตรงไหน?
เมื่อวางสามตัวแปรนี้เข้าด้วยกัน เราจะเห็นภาพเส้นทางชีวิตการทำงานที่แตกต่างออกไปได้อย่างน้อย 5 แบบ
1. The Chosen One (ครบสูตร)
“เก่ง + ทัศนคติดี + เจอโอกาส” = คนกลุ่มนี้เหมือนถูกฟ้าประทาน ทั้งเก่ง มีนิสัยที่คนอยากร่วมงาน และมีเวทีให้แสดงออก จึงกลายเป็นดาวเด่นในองค์กร ตัวอย่างเช่น ผู้บริหารระดับโลกที่มีทั้งความสามารถสูงและเจอโอกาสเหมาะในตลาดที่กำลังเติบโต พวกเขามักพุ่งทะยานสู่ตำแหน่งสูงสุดได้รวดเร็ว
2. The Hidden Gem (เพชรในตม)
“เก่ง + ทัศนคติดี แต่ไม่มีเวที” = คนกลุ่มนี้มีศักยภาพสูง แต่ติดอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น อยู่ในทีมที่ไม่เปิดโอกาส หรือองค์กรไม่มองเห็นค่า ภารกิจหลักคือการ “แสวงหาเวทีใหม่” เช่น การย้ายงานหรือสร้างโอกาสเองผ่านการต่อยอดเครือข่าย
3. The Toxic Genius (อัจฉริยะที่เป็นพิษ)
“เก่งมาก แต่ทัศนคติแย่” = เห็นได้บ่อยในออฟฟิศ คนกลุ่มนี้ผลงานโดดเด่น แต่ทำงานกับใครก็มีปัญหา ขัดแย้งง่าย และทำลายบรรยากาศในทีม สุดท้ายแม้จะเก่ง แต่ก็ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ระยะยาวได้ ยกตัวอย่างเช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เขียนโค้ดเก่งที่สุด แต่ไม่ยอมรับฟังใคร ทำงานร่วมกับทีมไม่ได้ ผลงานจึงไม่ถูกนำไปใช้จริง
4. The Lucky Novice (มือใหม่ที่โตเร็ว)
“ยังไม่เก่งมาก แต่มีทัศนคติที่ใช่” = คนแบบนี้มักเป็นเด็กใหม่ไฟแรง เปิดใจเรียนรู้ พร้อมปรับตัว หัวหน้าหรือทีมงานจึงอยากช่วยดันให้เติบโต และสุดท้ายก็เก่งขึ้นจริงๆ กรณีเช่นนี้พบได้บ่อยในสตาร์ทอัพ ที่ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้ลองผิดลองถูก และเมื่อเจอโค้ชหรือเมนเทอร์ที่ดี ก็พัฒนาได้ไกล
5. The Empty Suit (ได้โอกาสแต่ไม่พร้อม)
“ได้รับโอกาสใหญ่ ทั้งที่ยังไม่เก่งและทัศนคติยังไม่ดี” =  ผลคือพุ่งแรงช่วงแรก แต่เมื่อความจริงปรากฏ ก็ร่วงลงอย่างรวดเร็วและเจ็บปวดกว่าคนอื่น ตัวอย่างคือคนที่ถูกดันขึ้นตำแหน่งเร็วเกินไปโดยไม่มีความพร้อม จึงเสียทั้งความน่าเชื่อถือและอนาคตไปพร้อมกัน
====
🧠 ทำไม “ทัศนคติ” สำคัญที่สุด?
หลายงานวิจัยยืนยันว่า “ทัศนคติ” คือปัจจัยที่ชี้ชะตาในระยะยาว แนวคิดของ Carol Dweck (Growth Mindset) อธิบายไว้ว่า [Carol Dweck (Mindset: The New Psychology of Success, 2006)]
* Growth Mindset: เชื่อว่าความสามารถพัฒนาได้ คนกลุ่มนี้ล้มแล้วลุก เรียนรู้ต่อเนื่อง และพัฒนาได้เรื่อย ๆ
* Fixed Mindset: เชื่อว่าความเก่งเป็นพรสวรรค์ที่เปลี่ยนไม่ได้ มักหยุดเรียนรู้เมื่อเจออุปสรรค
ในออฟฟิศ เราจะเห็นภาพนี้ชัดเจน คนที่ทัศนคติดี แม้เริ่มจากศูนย์ แต่เรียนรู้ไวและก้าวหน้า ส่วนคนที่เก่งมากแต่ไม่ยอมฟังใคร สุดท้ายก็มักตกขบวนและกลายเป็น “ดาวดับ” โดยไม่รู้ตัว
====
✨ 30 ลิขิตฟ้า 70 ต้องฝ่าฟัน
คำกล่าวเหมือนในเพลงคุณเจินเจิน บุญสูงเนินที่เป็นประโยคอมตะในเพลงดังในอดีตว่า “30 ลิขิตฟ้า 70 ต้องฝ่าฟัน” ยังใช้ได้เสมอ ในบริบทการทำงาน โอกาส (30%) เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่ ความสามารถและทัศนคติ (70%) อยู่ในมือเราเต็มๆ
“แทนที่จะมัวรอโชค จงใช้เวลาไปกับการสร้างทักษะใหม่ ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง สร้างผลงานที่จับต้องได้ และรักษาทัศนคติที่ดี เมื่อโอกาสมาถึง คุณจะคว้าได้อย่างมั่นใจ”
====
🎯 บทสรุป
* ความสำเร็จไม่ได้เกิดจาก “เก่ง” หรือ “เฮง” อย่างเดียว แต่คือการผสมผสานของ ความสามารถ + ทัศนคติ + โอกาส
* ทัศนคติคือตัวคูณที่ทำให้ความสามารถมีคุณค่ามากขึ้น หรือทำลายมันได้ในพริบตา
* โอกาสไม่มีค่า ถ้าเราไม่พร้อมจะรับมัน
สุดท้ายแล้ว…ชะตาชีวิตการทำงานของคุณ ไม่ได้ถูกเขียนด้วยโชคชะตา แต่มาจากสิ่งที่คุณลงมือสร้างทุกวัน
#วันละเรื่องสองเรื่อง #Leadership #Mindset #CareerStrategy #GrowthMindset #Success
โฆษณา