เมื่อ lead ผ่านเกณฑ์ครบทุกข้อ ทีมขายของคุณก็แทบจะมั่นใจได้ว่า lead นั้นคือโอกาสที่มีคุณภาพ พร้อมสำหรับขั้นตอนถัดไป ซึ่ง Breeze ได้เตรียมการนัดหมายไว้ให้อย่างเรียบร้อยแล้วโดยไม่ปล่อยให้ความสนใจของลูกค้าต้องรอคอยนานเกินไป
การนำ Breeze Customer Agent มาใช้งาน เปรียบเสมือนการยกระดับคู่มือและกระบวนการขาย (Sales Playbook) ขององค์กรไปสู่อีกขั้นหนึ่ง ในรูปแบบเดิม ทีมขายต้องเสียเวลามากกับการติดตาม lead จำนวนมากที่ยังไม่ทราบคุณภาพ ซึ่งอาจมีทั้ง lead ที่มีแนวโน้มซื้อจริงและ lead ที่ยังไม่พร้อมซื้อผสมกัน การไม่มีระบบกรองที่ดีทำให้พนักงานขายใช้แรงและเวลามหาศาลไปกับ lead ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
แต่ด้วย AI Agent ที่เข้ามารับบทบาทเหมือนทีม SDR จะช่วยกรองและแจกแจง lead ให้โดยอัตโนมัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก ผลลัพธ์คือทีมขายของคุณจะได้รับเฉพาะ lead ที่ผ่านการประเมินคุณภาพแล้วเท่านั้น พนักงานขายจึงสามารถโฟกัสพลังงานไปกับการติดตามและปิดดีลกับลูกค้าที่ “พร้อมซื้อ” ได้ทันที แทนที่จะต้องมากรองหาเองท่ามกลางรายชื่อ lead จำนวนมหาศาล
แนวทาง Sales Playbook 2.0 นี้ช่วยให้การบริหารจัดการ lead เป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งยังสร้างมาตรฐานการคัดกรองที่เสมอต้นเสมอปลายไม่ว่า lead จะเข้ามาเมื่อใดหรือจำนวนเท่าใดก็ตาม เพราะ AI จะทำงานตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ทุกครั้งอย่างไม่มีตกหล่น
นี่คือวิธีการที่ทีมขายยุคใหม่ใช้ในการคัดกรองผู้มุ่งหวัง เร่งการเปลี่ยนเป็นลูกค้า และเติบโตได้โดยไม่ต้องเพิ่มพนักงานคนใหม่ ผลที่ตามมาคือประสิทธิภาพโดยรวมของทีมขายสูงขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเหล่าเซลส์ได้รับ lead ที่มีแนวโน้มซื้อสูงในปริมาณมากขึ้นโดยไม่เพิ่มงานเอกสารหรือภาระการติดตาม ดังที่ผู้บริหารบริษัทแห่งหนึ่งได้กล่าวถึงการใช้ Breeze ว่า
“ยิ่งเราสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกค้าได้เร็วเท่าไร ลูกค้าก็ยิ่งมีแนวโน้มจะกลายมาเป็นลูกค้ามากขึ้นเท่านั้น” สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อมี AI ช่วยตอบคำถามและปิดงานขั้นต้นอย่างรวดเร็ว ความเร็วในการเปลี่ยน lead เป็นดีลก็เพิ่มสูงขึ้นจริง นอกจากนี้ ยังมีกรณีศึกษาที่รายงานว่า
เพราะลูกค้ายังอยู่ในช่วงที่มีความสนใจสูงสุด การที่ลูกค้าได้ล็อกวันและเวลาพูดคุยกับเซลส์ทันทีจะสร้าง commitment เล็กๆ ที่ทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มเดินหน้าต่อมากขึ้น ลดโอกาสที่จะปล่อยให้ความสนใจเย็นลงหรือถูกคู่แข่งแย่งไป ข้อมูลวิจัยยังสนับสนุนแนวคิดนี้ เช่น การตอบสนอง lead ภายในเวลาเพียง 5 นาทีแรก สามารถเพิ่มโอกาสที่ lead จะยอมตกลงเข้าพบกับทีมขายได้มากขึ้นถึง 100 เท่า
เมื่อเทียบกับการตอบกลับที่ล่าช้ากว่านั้น Breeze ช่วยให้สถานการณ์อุดมคตินี้เกิดขึ้นจริง เพราะ AI จะเริ่มสนทนาและประเมิน lead ทันทีที่เข้ามา จากนั้นจึงเสนอการนัดหมายและจองเวลาในปฏิทินให้โดยไม่ปล่อยให้ lead ต้องรอข้ามวัน
จากรายงานพบว่าทีมขายที่ใช้การจัดตารางนัดหมายอัตโนมัติด้วย AI สามารถลดอัตราการนัดแล้วไม่มาได้ถึง 25% เลยทีเดียว ด้วยวิธีนี้ ทีมขายสามารถมั่นใจได้มากขึ้นว่า lead ที่ผ่านการนัดหมายไว้จะเดินทางมาพบตามเวลาที่กำหนด ซึ่งหมายถึงโอกาสในการปิดการขายที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย Meeting-First จึงไม่เพียงเพิ่มสัดส่วน lead ที่เปลี่ยนเป็นดีล
ยิ่งไปกว่านั้น ระบบอัตโนมัติยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจรองรับจำนวน lead ที่เข้ามามากๆ ได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน เพราะ AI Agent สามารถสนทนากับ lead หลายรายพร้อมกันได้ 24/7 โดยไม่มีวันหยุด ซึ่งหมายความว่าธุรกิจสามารถขยายงานขายให้รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไร้ข้อจำกัดเรื่องทรัพยากรบุคคล