3 ชั่วโมงที่แล้ว • สิ่งแวดล้อม
Wuhai

ฝุ่นทะเลทรายและลมมรณะ ผลกระทบข้ามพรมแดนจากภูมิอากาศ Wuhai

พายุฝุ่นจากเมืองเหมืองถ่านหิน Wuhai ไม่ได้หยุดแค่ในจีน แต่พัดข้ามทะเลไปถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่นพร้อมพิษร้ายแรง 🌪️☠️
1
เมื่อเดือนมีนาคม 2021 พายุฝุ่นทะเลทรายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษได้ซัดถือจีนเหนือ และเมือง Wuhai ในมณฑลมองโกเลียในตอนใน (Inner Mongolia) กลายเป็นจุดศูนย์กลางของภัยพิบัติครั้งนี้ที่ไม่ธรรมดา งานวิจัยพบว่าไม่ใช่แค่ฝุ่นจากทะเลทรายธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังมีฝุ่นจากอุตสาหกรรมถ่านหินผสมปนอยู่ สร้างปรากฏการณ์ "คู่มรณะ" ที่ส่งผลกระทบข้ามพรมแดนไปจนถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ทำให้เด็กและผู้สูงอายุในประเทศเหล่านั้นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ 🏥💔
พายุฝุ่นซุปเปอร์สตอร์ม มีนาคม 2021 ที่สั่นสะเทือนเอเชีย
พายุทะเลทรายที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 15-20 มีนาคม 2021 และ 27-29 มีนาคม 2021 ถูกจัดอันดับว่าเป็นพายุฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี โดยมีต้นกำเนิดจากทะเลทรายโกบีในมองโกเลีย พายุนี้เดินทางข้ามพรมแดนจีน ปกคลุมพื้นที่กว่า 3.8 ล้านตารางกิโลเมตร และส่งผลกระทบต่อประชากรมากกว่า 400 ล้านคน 😱 ค่าฝุ่น PM10 ในบางพื้นที่พุ่งสูงถึง 8,000 µg/m³ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของ WHO ถึง 160 เท่า
ในเมือง Wuhai ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทะเลทราย Ulan Buh การศึกษาพบว่าในช่วงพายุฝุ่น ความเข้มข้นของ PM1, PM2.5, PM10 และ TSP สูงกว่าวันปกติ 2.2, 2.6, 4.8 และ 6.0 เท่าตามลำดับ 📊 แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือองค์ประกอบของฝุ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่ทรายจากธรรมชาติ แต่ยังมีโลหะหนักจากโรงงานถ่านหิน เคมีถ่านหิน และโรงหลอมโลหะผสมอยู่ด้วย
ปรากฏการณ์คู่มรณะ ฝุ่นทะเลทราย + มลพิษอุตสาหกรรม
การวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร MDPI Atmosphere ปี 2022 เปิดเผยปรากฏการณ์ใหม่ที่เรียกว่า "Coupling Effects" หรือผลกระทบแบบคู่ควบกัน ระหว่างฝุ่นทะเลทรายธรรมชาติและฝุ่นจากฐานถ่านหิน 🏭💨 ผลการวิเคราะห์ด้วยเทคนิค Positive Matrix Factorization (PMF) พบว่าแหล่งที่มาหลักของอนุภาคฝุ่นในช่วงพายุมาจากการปล่อยมลพิษอุตสาหกรรม การจราจร การเผาไหม้ และฝุ่นทะเลทราย
สิ่งที่น่าสนใจคือในช่วงพายุฝุ่น สัดส่วนของมลพิษอุตสาหกรรมและแหล่งการเผาไหม้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันปกติ ขณะที่มลพิษจากการจราจรและฝุ่นทะเลทรายกลับลดลง แสดงให้เห็นว่าพายุฝุ่นทะเลทรายกลายเป็น "ตัวพาสาร" ที่ขนมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมไปกระจายในบริเวณกว้าง 🌍 ความเข้มข้นของโลหะหนักต่างๆ เช่น สารหนู โครเมียม นิกเกิล และตะกั่วในอนุภาคฝุ่นเพิ่มสูงขึ้นในช่วงพายุ ทำให้อันตรายมากกว่าพายุฝุ่นธรรมชาติหลายเท่า
การเดินทางของพายุฝุ่นข้ามพรมแดน
การวิเคราะห์เส้นทางการเคลื่อนที่ของมวลอากาศแบบย้อนหลัง (Backward Trajectory Analysis) แสดงให้เห็นว่าในวันปกติ กระแสอากาศเดินทางระยะทางสั้นและพื้นที่ที่มีความเข้มข้นสูงมาจากทางใต้ของมณฑลหนิงเซี่ย ตะวันออกเฉียงใต้ของกานซู่ และตะวันตกของส่านซี 🗺️ แต่ในช่วงพายุฝุ่น กระแสอากาศเดินทางระยะทางไกลจากทะเลทรายโกบีในมองโกเลียและทะเลทราย Badain Jaran โดยพัดผ่าน Wuhai ซึ่งเป็นฐานถ่านหินขนาดใหญ่ แล้วพัดต่อไปทางตะวันออกเฉียงใต้
งานวิจัยจาก Remote Sensing ปี 2022 ติดตามพายุฝุ่นในเดือนมีนาคม 2021 พบว่าแหล่งกำเนิดหลักอยู่ในพื้นที่แห้งแล้งภายในแผ่นดิน ได้แก่ ทะเลทราย Taklimakan ทะเลทราย Badain Jaran (87 เหตุการณ์) ในภาคตะวันตก และทะเลทรายโกบีของมองโกเลีย (69 เหตุการณ์) ในภาคกลาง 📍 ฝุ่นจากพื้นที่เหล่านี้เกิดขึ้นในท้องถิ่นก่อน จากนั้นจึงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางตอนล่างในจีน โดยประมาณ 55% ของเหตุการณ์พายุฝุ่นเกิดในทุ่งหญ้าทะเลทรายมองโกเลียใน และที่ราบทรายหูนชันต๊ะเค
ผลกระทบต่อเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
ฝุ่นละอองจากเอเชีย (Asian Dust) หรือที่เรียกกันว่า "Yellow Dust" ได้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองและการทูตระหว่างจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นตั้งแต่กลางทศวรรษ 2010 😷 การศึกษาในปี 2024 พบว่าฝุ่นละอองละเอียดข้ามพรมแดนนี้ไม่ใช่แค่ประเด็นสิ่งแวดล้อมล้วนๆ แต่ยังปะปนกับความท้าทายทางการเมืองและการทูต
งานวิจัยแบบพาเนลที่ทำในเกาหลีใต้พบว่า มลพิษทางอากาศรวมถึงฝุ่นทะเลทรายจากเอเชียมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพของชาวเกาหลี โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจและโรคหัวใจและหลอดเลือด 💔 การเพิ่มขึ้นของความเข้มข้น PM2.5 จากฝุ่นข้ามพรมแดนทำให้อัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ
ในญี่ปุ่น แม้ว่าพายุฝุ่นจากเอเชียจะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมานาน แต่ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพเพิ่งจะเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา 🇯🇵 การศึกษาพบว่าฝุ่นทะเลทรายจากเอเชียมีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของอาการแพ้ โรคหอบหืด และโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิที่มีพายุฝุ่นบ่อยครั้ง
สาเหตุของการกลับมาของพายุฝุ่นมหาประลัย
การวิจัยเผยว่าพื้นที่ต้นกำเนิดฝุ่นในมองโกเลียประสบกับอากาศหนาวเย็นทำลายล้างและอากาศอบอุ่นในช่วงต้นและปลายฤดูหนาว ทำให้ดินเกิดการแตกร่วน 🌡️ การขาดฝน หิมะละลายมากเกินไป และการระเหยที่รุนแรง ส่งผลให้ดินแห้งและพืชพรรณในฤดูใบไม้ผลิมีจำนวนน้อยมาก พายุหมุนมองโกเลีย (Mongolian Cyclone) ที่แรงเป็นพิเศษพัฒนาขึ้นและสร้างลมแรงที่พื้นผิวดิน กวาดฝุ่นและทรายขึ้นสู่บรรยากาศ
อุณหภูมิที่ผิวดินใกล้พื้นผิวมีความผิดปกติเหนือพื้นที่แหล่งกำเนิดฝุ่น ประกอบกับความชื้นในดินที่เป็นลบจากฝนที่ลดลง ทำให้พื้นผิวดินแห้งและเปลือยมากขึ้น อนุญาตให้มีการปล่อยฝุ่นเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้มากขึ้นจากลมพื้นผิวที่แรงมากซึ่งสร้างโดยพายุหมุนมองโกเลีย 💨 การศึกษาพบว่าลมกระโชกแรง (Gusty Wind) มีส่วนสำคัญในการยกฝุ่นขึ้นสู่บรรยากาศ โดยสร้างการปล่อยฝุ่นมากกว่าลมปกติ 5-40%
ทะเลทรายที่ขยายตัวและการใช้ที่ดินผิดประเภท
พื้นที่ทะเลทรายทางตะวันตกของมองโกเลียใน (Inner Mongolia Western Sandy Area - IMWSA) ซึ่งรวมถึงทะเลทราย Badain Jaran, Tengger, Ulan Buh, Kubuqi และที่ราบทราย Mu Us มีพื้นที่ดินที่กลายเป็นทะเลทรายประมาณ 275,000 ตารางกิโลเมตร 🏜️ พื้นที่นี้มีลักษณะอากาศแห้งแล้ง โดยมากกว่า 80% ของพื้นที่มีฝนตกต่อปีต่ำกว่า 150 มิลลิเมตร
ทะเลทราย Ulan Buh ซึ่งเมือง Wuhai ตั้งอยู่ติดกับมัน มีพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางกิโลเมตร และเป็นทะเลทรายที่เล็กที่สุดในมณฑล แต่กลับเป็นแหล่งกำเนิดพายุฝุ่นที่สำคัญเพราะอยู่ใกล้กับฐานอุตสาหกรรมถ่านหินขนาดใหญ่ 🏭 การทำเหมืองถ่านหิน การสร้างโรงไฟฟ้า และโรงงานเคมีถ่านหินทำลายสภาพพื้นผิวดิน ลดพืชคลุมดิน และเพิ่มพื้นที่เปลือยที่พร้อมปล่อยฝุ่น
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับภัยแล้ง
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีบทบาทสำคัญต่อการเพิ่มความรุนแรงและความถี่ของพายุฝุ่นทะเลทราย 🌡️ มองโกเลียเป็นประเทศที่มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสามเท่าของอัตราเฉลี่ยโลก แม้ว่าจะปล่อย CO2 เพียง 0.1% ของการปล่อยทั่วโลกในปี 2022 ก็ตาม การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิและการลดลงของปริมาณฝนเร่งการกลายเป็นทะเลทราย นำไปสู่การสูญเสียพื้นที่การเกษตรและพื้นที่เลี้ยงสัตว์
เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ภัยแล้งเรื้อรัง คลื่นความร้อน น้ำแข็งแรงกะทันหัน น้ำท่วมฉับพลัน และพายุฝุ่นส่งผลกระทบต่อการผลิตพืชผลและทำลายพื้นที่การเกษตร 😰 ในฤดูหนาว เหตุการณ์ dzud (ฤดูหนาวที่หนาวจัดผิดปกติ) ที่เพิ่มขึ้นทำให้ปศุสัตว์ตายเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของชาวเลี้ยงสัตว์เร่ร่อน
ความพยายามควบคุมการกลายเป็นทะเลทราย
จีนได้ดำเนินโครงการ Three-North Shelterbelt Forest Program ซึ่งเป็นโครงการป้องกันการกลายเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ตั้งแต่ปี 1978 🌳 ในปี 2024 มณฑลมองโกเลียในตอนในบรรลุเป้าหมายการควบคุมการกลายเป็นทะเลทรายล่วงหน้า โดยทำสำเร็จ 19.54 ล้าน mu (ประมาณ 1.3 ล้านเฮกตาร์) ซึ่งเป็น 112.93% ของเป้าหมายประจำปีที่ 17.3 ล้าน mu
การปลูกป่าและการฟื้นฟูนิเวศวิทยาเหล่านี้ได้ลดความถี่ของพายุฝุ่นลงอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา 🌱 อย่างไรก็ตาม การกลับมาของพายุฝุ่นมหาประลัยในปี 2021 แสดงให้เห็นว่าปัญหายังไม่หมดไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดินผิดประเภท เช่น การทำเหมืองแร่และการเลี้ยงสัตว์มากเกินไป ยังคงทำให้ดินเสื่อมสภาพและพร้อมที่จะถูกลมพัดพาไป
ความซับซ้อนของการควบคุมมลพิษอากาศในจีน
การกลับมาของพายุฝุ่นทำให้สถานการณ์มลพิษอากาศในจีนซับซ้อนมากกว่าที่เคย 😓 แม้ว่ารัฐบาลจีนจะดำเนินนโยบายควบคุมมลพิษอากาศอย่างเข้มงวดตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งทำให้ระดับเฉลี่ย PM10 และ PM2.5 ในจีนลดลงจาก 108 และ 90 µg/m³ ในปี 2013 เป็น 56 และ 33 µg/m³ ในปี 2020 แต่ระดับ PM2.5 ยังคงสูงกว่าค่าแนะนำของ WHO ที่ 10 µg/m³ อย่างมีนัยสำคัญ
ระดับ PM10 ในช่วงพายุฝุ่นทะเลทรายยิ่งสูงเกินค่าแนะนำของ WHO ไปอีก 🚨 นอกจากนี้ โอโซน (O₃) ยังกลายเป็นมลพิษอากาศอีกชนิดที่น่ากังวลในจีน ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาเคมีแสงของไนโตรเจนออกไซด์และสารอินทรีย์ระเหยง่าย ในแผนห้าปีที่ 14 ของจีน (2021-2025) รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายใหม่สำหรับการควบคุม PM2.5 และโอโซนแบบประสานพร้อมกัน
ความท้าทายทางการทูต
การแก้ปัญหาฝุ่นข้ามพรมแดนระหว่างจีนและเกาหลีใต้ถูกขัดขวางโดยปัจจัยทางการเมืองและการทูต 🤝 แม้จะมีความพยายามทวิภาคีและพหุภาคีที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่การวิจัยในปี 2024 ชี้ให้เห็นว่าความร่วมมือด้านฝุ่นละอองละเอียดข้ามพรมแดนได้พัวพันกับผลประโยชน์ทางการเมืองระดับชาติอย่างกว้างขวาง และดำเนินการผ่านช่องทางการทูต นำไปสู่การขาดข้อตกลงที่มีผลผูกพันและข้อผูกพันด้านนโยบายในปัจจุบัน
การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมไตรภาคี (Tripartite Environment Ministers Meeting - TEMM) เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นประสานงานความพยายามเพื่อลดความถี่และความรุนแรงของพายุฝุ่น 🌏 อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้ายังคงจำกัดเนื่องจากขาดการแบ่งปันข้อมูลอย่างโปร่งใสและการขาดความไว้วางใจทางการเมือง
แนวทางแก้ไขที่จำเป็น
ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนะว่าการแยกความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมออกจากความผันผวนทางการทูตจะเป็นทิศทางที่ดีที่สุดในระยะยาว 💡 การวิจัยร่วมกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งกำเนิดและพื้นที่รับผลกระทบ การเจรจาด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ และสถาบันด้านสิ่งแวดล้อมพหุภาคีในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเป็นสิ่งจำเป็น
สำหรับเมือง Wuhai และพื้นที่อุตสาหกรรมถ่านหินอื่นๆ การควบคุมการปล่อยฝุ่นจากโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวดเป็นสิ่งสำคัญ 🏭 การติดตั้งระบบกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ การฟื้นฟูพืชพรรณรอบพื้นที่เหมืองถ่านหิน และการควบคุมการเผาไหม้ถ่านหินสามารถช่วยลดปริมาณฝุ่นที่ปะปนกับพายุฝุ่นธรรมชาติได้
การปลูกต้นซัคซอล (Saxaul) ซึ่งเป็นต้นไม้พื้นเมืองเพียงชนิดเดียวในภูมิภาค เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม้และรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินด้วยระบบราก โครงการอนุรักษ์แบบร่วมมือกับชุมชนเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนในท้องถิ่น และการปรับปรุงวิธีการเกษตรแบบยั่งยืนเพื่อรักษาสุขภาพของดินเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ 🌿
บทเรียนสำหรับโลก
กรณีของ Wuhai และพายุฝุ่นข้ามพรมแดนในเอเชียตะวันออกเป็นเครื่องเตือนใจว่ามลพิษสิ่งแวดล้อมไม่มีพรมแดน 🌍 การพัฒนาอุตสาหกรรมโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่หนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศอื่นที่อยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศที่แท้จริง การแบ่งปันข้อมูล และความมุ่งมั่นร่วมกันในการปกป้องสิ่งแวดล้อม
ระบบเตือนภัยล่วงหน้า การติดตามคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และการประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องประชาชน 📱 การพัฒนาเทคโนโลยีการกรองอากาศ เช่น เครื่องฟอกอากาศขั้นสูงที่สามารถกรองอนุภาคฝุ่นละเอียดได้ และระบบกรองอากาศในยานพาหนะ สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในระหว่างเกิดพายุฝุ่น
อ้างอิง
Chen, Y., Li, Y., & Zhao, T. (2022). Characteristics of dust aerosols and identification of dust sources in Xinjiang, China. Atmospheric Environment, 268, 118829. https://doi.org/10.1016/j.atmosenv.2021.118829
Gao, Y., Arimoto, R., Duce, R. A., Chen, L. Q., Zhou, M. Y., & Gu, D. Y. (2006). Temporal and spatial distribution of dust and its deposition to the China Sea. Tellus B: Chemical and Physical Meteorology, 58(5), 338–349. https://doi.org/10.1111/j.1600-0889.2006.00203.x
Inner Mongolia Daily. (2024, October 29). Inner Mongolia finishes 2024 desertification control targets in advance. China Daily. http://innermongolia.chinadaily.com.cn/2024-10/30/c_1040568.htm
Kim, M. J., & Oh, I. (2019). The effects of transboundary air pollution from China on ambient air quality in South Korea. Heliyon, 5(12), e02953. https://doi.org/10.1016/j.heliyon.2019.e02953
Kurosaki, Y., Shinoda, M., & Mikami, M. (2011). What caused a recent increase in dust outbreaks over East Asia? Geophysical Research Letters, 38(11), L11702. https://doi.org/10.1029/2011GL047494
Li, G., Chen, Y., Li, J., Yang, D., & Cheng, N. (2021). Resurgence of sandstorms complicates China's air pollution situation. Environmental Science & Technology, 55(17), 11467–11469. https://doi.org/10.1021/acs.est.1c03724
Liu, Y., Wang, Q., Zhang, K., Wang, L., Wang, S., Wang, F., & Tian, Z. (2022). Coupling effects of sandstorm and dust from coal bases on the atmospheric environment of northwest China. Atmosphere, 13(10), 1629. https://doi.org/10.3390/atmos13101629
Nakao, M., Yamauchi, K., Ishihara, Y., Omori, H., & Ichinnorov, D. (2018). The impact of air pollution, including Asian sand dust, on respiratory symptoms and health-related quality of life in outpatients with chronic respiratory disease in Mongolia: A cross-sectional study. BMC Pulmonary Medicine, 18(1), 94. https://doi.org/10.1186/s12890-018-0660-1
Shao, Y., & Dong, C. H. (2006). A review on East Asian dust storm climate, modelling and monitoring. Global and Planetary Change, 52(1–4), 1–22. https://doi.org/10.1016/j.gloplacha.2006.02.011
Tian, Y., Xiao, Z., Wang, H., Peng, Y., Zhao, J., Liu, L., Yao, W., Song, Z., Xu, R., & Wu, D. (2022). Two mega sand and dust storm events over northern China in March 2021: transport processes, historical ranking and meteorological drivers. Atmospheric Chemistry and Physics, 22(12), 7905–7932. https://doi.org/10.5194/acp-22-7905-2022
United Nations Environment Programme (UNEP). (2016). Global assessment of sand and dust storms. United Nations Environment Programme. https://wesr.unep.org
Wang, H., Guan, Q., Lin, J., Wang, Q., Yang, L., & Ni, F. (2022). Temporal and spatial distribution and factors influencing dust storms in Inner Mongolia. Atmosphere, 13(12), 2027. https://doi.org/10.3390/atmos13122027
Wang, J. J., Baiyinbaoligao, Chen, Y., & Gao, X. (2022). Spatiotemporal dynamics and driving factors of land desertification in the Mu Us Sandy Land. Ecological Indicators, 137, 108784. https://doi.org/10.1016/j.ecolind.2022.108784
Xie, H., Wang, Y., & Zhang, S. (2023). Temporal and spatial dynamics of desertification in the Inner Mongolia Western Sandy Area and its driving factors. Frontiers in Environmental Science, 11, 1658175. https://doi.org/10.3389/fenvs.2023.1658175
Zhang, M. (2024). Transboundary fine dust pollution in China and Korea: How has international politics impeded environmental negotiations? Asia Pacific Policy Studies, 11(1), e384. https://doi.org/10.1002/app5.384
Zhang, X. Y., Gong, S. L., Zhao, T. L., Arimoto, R., Wang, Y. Q., & Zhou, Z. J. (2003). Sources of Asian dust and role of climate change versus desertification in Asian dust emission. Geophysical Research Letters, 30(24), 2272. https://doi.org/10.1029/2003GL018206
โฆษณา