สรุป 5 เทรนด์การตลาด ในยุค AI Marketing จากงาน ลงทุนแมน SUMMIT 2025
-ประเด็นน่าสนใจจากหัวข้อ “Marketing in the AI Era ไอเดียการตลาด ในยุค AI”
โดยคุณมัณฑิตา จินดา เจ้าของเพจ Digital Tips Academy
และคุณจิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งชุมชนผู้ใช้มาร์เทคประเทศไทย
5 เทรนด์ที่น่าจับตามอง ในการทำการตลาดในยุคทองของ AI มีอะไรบ้าง
MarketThink สรุปมาให้
1. Customer Experience ยังคงสำคัญ ไม่ว่ายุคไหน
ตัวอย่างเคสเช่น
-PHYGITAL Retail หรือค้าปลีกออฟไลน์ ธุรกิจที่อยุ่ออนไลน์ จะขยับมาเปิดหน้าร้านมากขึ้น พูดง่าย ๆ ก็คือ ทยอยขายแบบ Omni Channel คือขายหลายช่องทางมากขึ้น เพื่อสร้างประสบกรณ์ร่วมในหลายช่องทาง แบบครบลูป
ซึ่งการใส่ใจทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ช่วยสร้างประสบการณ์ เช่น คนเห็นแบรนด์ในโลกออนไลน์ แล้วอยากลอง ก็มาลองได้ก่อนซื้อ
-อีกตัวอย่างเช่น Customer Journey ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
จากเดิมที่ทำได้แค่ขับรถผ่านและหาดูได้แค่ตามป้ายโฆษณา
ตอนนี้กลายเป็นเข้าไปดูผ่านเว็บไซต์และออนไลน์ต่าง ๆ ให้ลูกค้ากรอกข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ เพื่อนำไปสู่การปิดการขายในท้ายที่สุด
2. Content ตัวเชื่อมชั้นดีระหว่าง แบรนด์ กับลูกค้า
หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่า การเข้ามาของ AI มันทำให้คนเริ่มมองหาความ Humanize หรือความเป็นมนุษย์มากขึ้นกว่าเดิท
เช่นปัจจุบันหลายคนที่ทำเว็บไซต์จะเห็นว่า ยอดคลิกเว็บไซต์น้อยลง เพราะตอนนี้การค้นหาผ่าน Keyword ที่มีความเฉพาะจะเปลี่ยนเป็นการ ถามคำถาม AI ที่ยาวขึ้น เป็นบทสนทนามากขึ้น มีบริบทอยู่ในคำถาม หรือที่เรียกว่า “Conversational Search”
เครื่องมือที่เข้ามาช่วย เช่น Social Analytic, Social Listening ไปกวาดข้อมูลบนโซเชียล แล้วเอามาทำ Dashboard ให้เข้าใจง่ายขึ้น หรือ Social media Schedule ที่มาช่วยวางแผนการสร้างคอนเทนต์
ซึ่งพอเราได้สิ่งที่ลูกค้าพูดกันเกี่ยวกับแบรนด์ คอนเทนต์ที่ผลิตออกมาได้ตรงความสงสัย ความอยากรู้ของลูกค้า
จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมและเชื่อมให้ลูกค้าเข้ามาหาแบรนด์
3. การตลาดต้อง Personalize และการได้มาซึ่งข้อมูลของลูกค้า แบรนด์ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ได้อะไรที่คุ้มค่า แลกกลับไป
แบรนด์ต้องจดจำ และแนะนำสิ่งที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละคนได้ เช่น มีผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำสกินแคร์ที่เหมาะให้กับแต่ละคน
แต่การทำ Personalize จำเป็นต้องขอข้อมูลลูกค้า ก็ต้องมี Benefit แลกเปลี่ยน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนแบบเท่าเทียม และลูกค้ายอมให้ข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ต่อไป
เช่น ถ้าเราทำธุรกิจโรงแรม แล้วอยากให้ลูกค้ามาสมัครสมาชิก กรอกข้อมูลใน LINE และจองโรงแรมกับเรา เราก็ต้องมี Benefit ดี ๆ แลกเปลี่ยนกลับไป เช่น จองได้ราคาห้องพักที่ถูกกว่า จองผ่านแพลตฟอร์มอื่น
4. Marketing Operation ใช้เครื่องมือด้านการตลาด และ AI ช่วยจัดการและทุ่นแรงได้เยอะ
โดยแบ่งเป็น 3 องค์ประกอบ
- Spreadsheets เพื่อบันทึกข้อมูลลูกค้า อย่างเช่น Google Sheets, Excel
- เครื่องมือสำหรับการจัดการงานด้านการตลาด ไม่ว่าจะเป็น CRM, Marketing Automation, CDP เช่น Salesforce, Hubspot, SAP, Microsoft Dynamics CRM
- เครื่องมือจัดการข้อมูลลูกค้าบน Cloud เช่น Microsoft Azure, Amazon Redshift, Google BigQuery
5. Agentic AI จะมาช่วยงานด้านการตลาดได้อีกเยอะมาก
ปัจจุบันเราใช้ Generative AI เป็นหลัก ช่วยสร้างสิ่งต่าง ๆ เช่น รูปภาพ ข้อความ วิดีโอ
แต่ Agentic AI จะช่วยคิด ทำงานแทนมนุษย์ เสมือนมีลูกน้องเป็น AI ช่วยงานแบบจริงจัง อธิบายหลักการทำงานง่าย ๆ เช่น
- สั่งให้จองโรงแรมผ่านชุดคำสั่งได้ทันที
- สั่งให้วิเคราะห์ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญว่า จุดแข็ง จุดอ่อน ผลกระทบตามเฟรมเวิร์ก PESTEL อย่างไร
- สั่งให้รวบรวมข้อมูลที่ดินขายทอดตลาดจากกรมบังคับคดี อำเภอบางใหญ่ ราคาไม่เกิน 5 ล้าน
งานลักษณะนี้ เครื่องมือ AI ในตอนนี้ ช่วยเราทำได้ในระดับที่หลายคน คิดไม่ถึงแล้ว..
ในหัวข้อนี้ ยังมีข้อมูลด้านการตลาดน่าสนใจอีกเยอะมาก และ Session อื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
-ใครพลาดงานนี้ สามารถซื้อบัตร RERUN รับชมย้อนหลังออนไลน์ (มีจำนวนจำกัด) คุ้มค่าที่จะเรียนรู้ ประสบการณ์ตรง จาก Speakers ชั้นนำ 30 ท่าน 20 Sessions รีบซื้อก่อนหมดได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/longtunmansummit2025
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
