6 ต.ค. เวลา 01:00 • ท่องเที่ยว
จังหวัดคุมะโมะโตะ

ตามรอยตำนานโลก EP.7 ปราสาทคุมาโมโตะ จากสุดยอดนักรบผู้พิทักษ์เมือง...สู่คุมะมงผู้พิทักษ์รอยยิ้ม

ปราสาทคุมาโมโตะ ถูกสร้างโดย คาโต้ คิโยมาสะ (Kato Kiyomasa) และถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสามของญี่ปุ่น รองจากปราสาทโอซาก้าและปราสาทนาโกย่า
คาโต้ คิโยมาสะ เป็นผู้เชี่ยวชาญการรบและการสร้างป้อมปราการมาตั้งแต่ก่อนศึกเซกิงาฮาระ การมีประสบการณ์การรบจริงทำให้เขารู้ว่าปราสาทแบบไหนที่ใช้ได้ผลและแบบไหนที่ใช้ไม่ได้
ผลงานที่โด่งดังที่สุด คือการสร้างปราสาทคุมาโมโตะขึ้นใหม่ทั้งหมด ให้กลายเป็นป้อมปราการอันยิ่งใหญ่ที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน เขายังมีส่วนร่วมในการก่อสร้าง ปราสาทนาโกย่า ให้แก่ โทกุงาวะ อิเอยาสุ อีกด้วย ความเชี่ยวชาญของคิโยมาสะสามารถเห็นได้จากการออกแบบเชิงยุทธศาสตร์และคุณสมบัติการป้องกันที่เป็นนวัตกรรมของปราสาทเหล่านี้ และไม่เคยถูกโจมตีได้สำเร็จเลย ซึ่งเป็นการยืนยันความสามารถของเขาในฐานะสถาปนิกปราสาทสูงสุดแห่งยุค
รูปปั้น คาโต้ คิโยมาสะ (Kato Kiyomasa) ภาพจาก www.japan-experience.com
การเข้าสู่ยุคเอโดะ (Edo Period) คือการสิ้นสุดของสงครามกลางเมือง แต่สันติภาพที่ โทกุงาวะ อิเอยาสุ มอบให้นั้นเป็น "สันติภาพที่ถูกควบคุม" ในขณะที่รัฐบาลโชกุนประกาศความสงบ จิตวิญญาณแห่งการไม่ไว้วางใจ ยังคงอยู่
ปราสาทคุมาโมโตะ ที่ถูกสร้างขึ้นโดย คาโต้ คิโยมาสะ (Kato Kiyomasa) สุดยอดสถาปนิกและนักรบแห่งยุค จึงสะท้อนแนวคิดนี้อย่างชัดเจนที่สุด ป้อมปราการแห่งนี้คือ คลังสมบัติแห่งสุดยอดวิชา ที่ถูกออกแบบเพื่อความพร้อมรบสูงสุด และเป็นหลักประกันความอยู่รอด หากการสงบศึกต้องจบลง
ปราสาทคุมาโมโตะ ภาพจาก Wikipedia
🛡️ นวัตกรรมการป้องกัน: ความชาญฉลาดที่ไร้การประนีประนอม
สิ่งที่ทำให้คุมาโมโตะเป็น "คลังสมบัติของสุดยอดวิชา" คือการออกแบบที่มุ่งเน้น ประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกัน:
💥กำแพงมูฉะ-กาเอชิ (Musha-gaeshi - กำแพงไล่นักรบ): กำแพงหินที่ลาดชันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบเป็นแนวตั้งที่ยอด เป็นนวัตกรรมที่ส่งสารอย่างชัดเจนว่าปราสาทแห่งนี้ ไม่มีทางถูกปีนขึ้นได้
💥การเตรียมพร้อมสำหรับสงครามที่ยาวนาน: คิโยมาสะวางแผนให้ปราสาทพร้อมสำหรับการถูกล้อมเป็นเวลานาน โดยการปลูกต้นไม้และถั่วเพื่อเป็น ฟืน เสบียงอาหาร และมีบ่อน้ำจำนวนมาก ภายในปราสาท สิ่งที่น่าทึ่งคือ พื้นเสื่อทาทามิ ไม่ได้ยัดไส้ด้วยฟางข้าว แต่ยัดไส้ด้วย ก้านผัก ซึ่งสามารถนำมาบริโภคได้
ห้องโถงหลัก ซึ่งมี พื้นเสื่อทาทามิ ณ พระราชวังคุมาโมโตะ โกะเต็ง (Kumamoto Goten Palace) ภายในปราสาทคุมาโมโตะ ภาพจาก www.japan-experience.com
⚔️ บทพิสูจน์แห่งความแกร่ง: ชัยชนะเหนือยุคซามูไร
ความแข็งแกร่งของปราสาทได้รับการพิสูจน์อย่างแท้จริงใน กบฏซัตสึมะ (Satsuma Rebellion) ปี ค.ศ. 1877 แม้หอคอยหลักจะถูกเพลิงไหม้ แต่ทหารของรัฐบาลก็สามารถใช้ กำแพงมูฉะ-กาเอชิ ต้านทานการล้อมเมืองนานถึง 50 วัน จนได้รับชัยชนะ ทำให้ปราสาทคุมาโมโตะถูกจารึกว่าเป็นป้อมปราการที่ไม่มีวันถูกตีแตกด้วยการบุกโจมตี
🎏 โชคชะตาและการฟื้นคืน: พลังแห่งความยืดหยุ่นร่วมสมัย
ในยุคปัจจุบัน โชคชะตาของปราสาทต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งใหญ่อีกครั้งจาก แผ่นดินไหวใหญ่คุมาโมโตะปี 2016 แม้ตัวปราสาทและกำแพงหินจำนวนมากจะพังทลายลง แต่ความเสียหายนั้นกลับกลายเป็นแรงผลักดัน พลังแห่งความยืดหยุ่น (Resilience) ของชาวญี่ปุ่น
หนึ่งในป้อมปราการ (turrets) ที่ได้รับความเสียหายจาก แผ่นดินไหวปี 2016 ภาพจาก Wikipedia
โครงการบูรณะปราสาทคุมาโมโตะซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาถึง 20 ปี เป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดอย่างไม่ยอมแพ้:
🏯 การจัดเรียงหินด้วยรหัส: หินทุกก้อนที่หลุดจากกำแพงถูกเก็บกู้และทำรหัส (Coding) ไว้อย่างแม่นยำ และใช้เทคโนโลยีสแกน 3 มิติ เพื่อระบุตำแหน่งเดิมของหินแต่ละก้อนจากหลายหมื่นก้อน ก่อนจะถูกจัดเรียงกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม ทีละก้อนอย่างพิถีพิถันที่สุด สะท้อนถึงความเคารพในประวัติศาสตร์และงานช่างฝีมือดั้งเดิม
🐻 คุมะมง...ทูตแห่งกำลังใจ: ในขณะที่ปราสาทกำลังฟื้นคืนตัว คุมะมง (Kumamon) มาสคอตประจำจังหวัดที่โด่งดังระดับโลก ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ร่วมสมัยแห่งความหวังและการฟื้นฟู คุมะมงทำหน้าที่เป็นทูตแห่งกำลังใจ ที่ยืนยันว่า ความยืดหยุ่นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงกำแพงหิน แต่ฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณของผู้คนคุมาโมโตะที่พร้อมจะลุกขึ้นสู้เคียงข้างสัญลักษณ์แห่งเมืองของพวกเขา
💖 การท่องเที่ยวเชิงการให้กำลังใจ: ในขณะที่งานก่อสร้างเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญ ภาคประชาชนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้าง "กำลังใจ" และ "เงินทุน" เพื่อฟื้นฟูสัญลักษณ์แห่งเมืองนี้ แม้ปราสาทจะยังอยู่ระหว่างการบูรณะ แต่บางส่วนก็ถูกเปิดให้เข้าชมจากระยะไกลได้ การท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นการให้กำลังใจ และยืนยันว่าชาวคุมาโมโตะจะเดินหน้าฟื้นฟูเมืองอย่างไม่ยอมแพ้
😏 กาแฟแนะนำประจำ EP.7: ความแข็งแกร่งดุจกำแพงหิน
☕️ PK เมล็ดกาแฟคั่ว Full City+ Roast (ดอยปางขอน) ☕️
กาแฟจากแหล่งกำเนิดที่มั่นคงแห่งดอยปางขอน ถูกคั่วในระดับ Full City+ Roast (หรือบางครั้งเรียกว่า Medium-Dark Roast) ซึ่งเป็นการคั่วที่เข้มกว่าระดับกลางเล็กน้อย เพื่อให้ได้ ความเข้มข้นและบอดี้ที่เต็มเปี่ยมสูงสุด โดยไม่เกิดรสขมไหม้แบบคั่วเข้มจัด ๆ (ชื่อ "City" มาจากระดับการคั่วที่ได้รับความนิยมในเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ ในยุคแรก)
รสชาติที่ได้จึงเปรียบเสมือน กำแพงมูฉะ-กาเอชิ ที่ไม่สั่นคลอน:
✨ ความมั่นคงดุจฐานราก: กาแฟมี บอดี้ที่แน่น และ ความมั่นคง สูง สะท้อนถึงรากฐานของปราสาทที่ไม่เคยพ่ายแพ้
✨ ความชาญฉลาดที่ซ่อนอยู่: การคั่วระดับนี้มอบ รสชาติเข้มข้น พร้อม รสปลายเปรี้ยวที่สร้างมิติ ซึ่งสื่อถึง ความชาญฉลาดทางวิศวกรรม อันล้ำลึกที่ซ่อนอยู่ในความแข็งแกร่งของป้อมปราการแห่งนี้
ดื่มด่ำรสชาติที่มอบ ความมั่นคงและแรงบันดาลใจ ไปพร้อมกับการสำรวจเรื่องราวของปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อ "ความไม่ยอมแพ้" แห่งนี้!
🧐 Fun-Fact:
คำว่า "Full City+" หมายความว่าระดับการคั่วนั้น เข้มกว่า Full City ปกติเล็กน้อย เป็นการคั่วที่ไปถึง จุดที่สองของการแตกตัว (Second Crack) อย่างสมบูรณ์ แต่ไม่ทิ้งให้แตกตัวนานเกินไป ทำให้กาแฟมีความเข้มข้นและบอดี้ที่สูงสุด โดยยังไม่เกิดรสขมไหม้แบบคั่วเข้มจัด ๆ มักจะเหมาะสำหรับการชงเมนูที่ใส่นม หรือกาแฟเย็นค่ะ
[Affiliate Disclosure]
✍ หมายเหตุ: การซื้อสินค้าผ่านลิงก์นี้ถือเป็นการสนับสนุนการทำงานของ AORii – ออริ ในการสร้างสรรค์เนื้อหาต่อไป โดยเราจะได้รับค่าคอมมิชชันเล็กน้อยจากการขาย ซึ่งไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อราคาสินค้าค่ะ ขอบคุณที่สนับสนุนเรา! 🙇‍♀️💖
โฆษณา