แจกเทมเพลต Marketing Brief เขียนบรีฟการตลาด ให้เข้าใจง่าย มีข้อมูลครบ ในไฟล์เดียว
ปัญหาอย่างหนึ่งของการทำงานด้านการตลาด คือ ความไม่ชัดเจน และความไม่เข้าใจ ที่เกิดขึ้นระหว่างทีมงานที่ต้องทำงานร่วมกันหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็น ทีมการตลาด คอนเทนต์ กราฟิก ครีเอทิฟ รวมถึงทีมเซลส์
ทำให้ Marketing Brief ซึ่งเป็นเอกสารที่ให้ข้อมูลสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับแคมเปญการตลาดที่กำลังทำอยู่ จึงกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ
เพราะมีการให้ข้อมูลสำคัญ ๆ อย่างครบถ้วน
ทำให้ทีมงาน สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น ด้วยข้อมูลที่สั้น กระชับ และชัดเจน แต่ให้รายละเอียดที่จำเป็นต้องรู้อย่างครบถ้วน
คำถามคือ แล้ว Marketing Brief ทำอย่างไร ? MarketThink แจกเทมเพลต Marketing Brief ให้นำไปใช้ง่าย ๆ ในโพสต์นี้
โดยส่วนใหญ่แล้ว Marketing Brief จะมีองค์ประกอบที่ให้ข้อมูลสำคัญ ๆ ของแคมเปญการตลาดทั้งหมด 8 องค์ประกอบ ได้แก่
1. Background
องค์ประกอบแรกของ Marketing Brief เริ่มต้นด้วยการให้ข้อมูลพื้นฐาน เพื่อทำความเข้าใจ “ภูมิหลัง” ของแบรนด์ก่อน ไม่ว่าจะเป็น
- ประวัติ ความเป็นมา ของแบรนด์
- ตัวตน ภาพลักษณ์ จุดเด่นของแบรนด์ ที่ลูกค้าจดจำได้
- ตำแหน่งทางการตลาด (Brand Positioning) ของแบรนด์
รวมถึงการให้ข้อมูลสภาพตลาดแบบคร่าว ๆ
เช่น คู่แข่งในตลาด เทรนด์ รวมถึงพฤติกรรม เพื่อให้คนที่ต้องทำงานด้านการตลาด รู้ข้อมูลที่จำเป็น เข้าใจทั้งแบรนด์และสภาพตลาด ก่อนเริ่มลงมือทำจริง
2. Campaign Objective
องค์ประกอบถัดมา คือ Campaign Objective หรือวัตถุประสงค์ของแคมเปญการตลาด เป็นการตอบแบบสั้น ๆ ตั้งแต่แรกเลยว่า “เราทำแคมเปญการตลาดนี้ ไปเพื่ออะไร”
โดยตัวอย่างของวัตถุประสงค์ทางการตลาด ก็มีทั้ง
- สร้าง Awareness ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์
- โปรโมตสินค้าในช่วงเปิดตัว
- เพิ่มยอดขาย ด้วยการเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ
- เพิ่มยอดขาย ด้วยการซื้อซ้ำของลูกค้าเก่า
- กระตุ้นให้ลูกค้าสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง (User-Generated Content)
ซึ่งวัตถุประสงค์ทางการตลาด จะช่วยให้ทีมงานเข้าใจความต้องการ และผลลัพธ์ที่ต้องทำให้ได้ จากแคมเปญการตลาดแต่ละแคมเปญ เหมือนทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน
3. Key Message
Key Message หากแปลตรง ๆ ก็คือ ข้อความ หรือคำสำคัญ ที่อยากสื่อสาร หรือทำให้ลูกค้าได้รับรู้ จากแคมเปญการตลาด
การระบุ Key Message ไว้ใน Marketing Brief จะช่วยให้ทีมงานทุกคนเข้าใจว่า “แก่น” หรือข้อความที่สำคัญที่สุด ที่อยากทำให้ลูกค้ารับรู้จากแคมเปญการตลาดที่กำลังทำอยู่ คืออะไร
ซึ่งเมื่อรู้ Key Message แล้ว ก็จะช่วยให้ทีมงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทำงานได้ง่ายขึ้น และมีความเข้าใจที่ตรงกัน
4. Target Audience
กลุ่มเป้าหมายของแคมเปญการตลาดนี้ คือใคร ?
โดยในองค์ประกอบนี้ของ Marketing Brief สามารถระบุข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายแบบสั้น ๆ ได้เลย เช่น
- เพศ อายุ อาชีพ ภูมิลำเนา รายได้เฉลี่ย ของกลุ่มเป้าหมาย
- พฤติกรรม ความชอบ ความเชื่อ ค่านิยม ของกลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งข้อมูล Target Audience นี้ จะช่วยให้ทีมงานเข้าใจ ว่าต้องวางกลยุทธ์การตลาด และการสื่อสารอย่างไร ให้เหมาะสมกับ Target Audience ของแบรนด์
5. Channel
แคมเปญการตลาดที่กำลังทำอยู่นี้ จะเผยแพร่หรือทำในช่องทางใด (Channel) เช่น
- Owned Media หรือสื่อซึ่งเป็นช่องทางของตัวเอง
- Paid Media หรือสื่อที่ต้องเสียเงินซื้อ หรือจ่ายเงินจ้างเพื่อทำคอนเทนต์
- Earned Media หรือสื่อที่ได้มาจากการพูดถึงแบรนด์ แบบฟรี ๆ
หรือแบ่ง Channel เป็น สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์ หรือแบ่งตามแพลตฟอร์ม ก็ได้เช่นกัน
6. Timeline & Duration
แคมเปญการตลาดที่กำลังทำอยู่นี้ มีไทม์ไลน์ และระยะเวลาการทำงานอย่างไร
ตัวอย่างเช่น
- ต้องมีการประชุมภายในระหว่างทีม ในช่วงเวลาใด
- กำหนดการส่งงานเพื่อให้ผู้บริหาร หรือลูกค้าอนุมัติ
- กำหนดการลงคอนเทนต์
- กำหนดการทำงานของกราฟิก
- กำหนดการ และระยะเวลาการยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- ระยะเวลาการทำแคมเปญทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงสิ้นสุดแคมเปญ
โดยเราสามารถใช้ Gantt Chart เป็นเครื่องมือในการวางแผนไทม์ไลน์ และระยะเวลาการทำงาน ของแคมเปญการตลาดได้ เพื่อให้ทีมงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทำงานร่วมกันบนไทม์ไลน์เดียวกัน
7. Campaign Strategy
ในองค์ประกอบนี้ เป็นการระบุใน Marketing Brief ว่า แคมเปญการตลาดที่กำลังทำอยู่ จะใช้กลยุทธ์ใดที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ได้กำหนดไว้
โดยตัวอย่างของกลยุทธ์ที่สามารถใช้ได้ ก็อย่างเช่น
- Content Marketing
- User-Generated Content
- Email Marketing
- SEO Marketing
- AEO Marketing
- การยิง Ads บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- Influencer Marketing
8. Stakeholder
คือ ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับแคมเปญการตลาดที่กำลังทำอยู่
ตัวอย่างเช่น
- ทีมงานภายใน ทั้งทีมการตลาด คอนเทนต์ กราฟิกดิไซน์ ครีเอทิฟ เซลส์ หรือทีมอื่น ๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน
- ทีมงานภายนอก ที่ต้องมีการติดต่อหรือประสานงาน
เช่น ลูกค้าที่ว่าจ้างให้ทำการตลาด หรือผู้ที่เราจ้างให้ช่วยทำงานอื่น ๆ เช่น ฟรีแลนซ์ที่ทำคอนเทนต์
ในองค์ประกอบนี้ การรู้ว่า Stakeholder คือใคร ทำให้รู้ว่าเราจะต้องทำงานกับใครบ้าง ซึ่งจะช่วยได้ทั้งการวางแผนด้านการประสานงาน และการจัดการเวลาต่าง ๆ
9. Budget
และองค์ประกอบสุดท้ายของ Marketing Brief ก็คือ Budget หรืองบประมาณที่ต้องใช้ในแคมเปญการตลาดนี้
เพื่อให้ทีมงาน รู้ว่าทีมของตัวเองมีงบประมาณที่สามารถใช้ได้มากน้อยเพียงใด และต้องบริหารจัดการงบประมาณของตัวเองอย่างไรให้เพียงพอต่อการทำงานทั้งหมด
โดยอาจแบ่งเป็นงบประมาณที่แต่ละทีมจำเป็นต้องใช้อย่างชัดเจน เช่น
- งบประมาณสำหรับออกแบบกราฟิก
- งบประมาณสำหรับทำคอนเทนต์
- งบประมาณสำหรับซื้อโฆษณา หรือลงข่าวในช่องทางต่าง ๆ
ทั้งหมดนี้ คือ 9 องค์ประกอบของ Marketing Brief ไว้ใช้เขียนบรีฟการตลาด
ให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ด้วยข้อมูลที่สั้น กระชับ ชัดเจน แต่ให้รายละเอียดที่จำเป็นต้องรู้อย่างครบถ้วน
-แจกเทมเพลต Marketing Brief เขียนบรีฟการตลาด ให้เข้าใจง่าย มีข้อมูลครบ ในไฟล์เดียว
- 66
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
