Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Right Style by Bom+
•
ติดตาม
8 ต.ค. เวลา 09:31 • ข่าวรอบโลก
สัญญาณของ “วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา ภาค 2”
อเมริกาต้องการอะไรจาก “เวเนเซอุลา” กันแน่ มันมากกว่า “บ่อน้ำมัน”
มาเริ่มที่บทวิเคราะห์แรกกันก่อนครับ เกี่ยวกับ “ผลประโยชน์ในเวเนซุเอลา” ซึ่งจะไปเชื่อมโยงกับเรื่องต่อไปคือ “วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบารอบใหม่”
ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม มันไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผู้อพยพ ดังตามข้ออ้างของทรัมป์ หรือเรื่องบ่อน้ำมันก็มีเกี่ยวข้องอยู่บ้าง
ภาพถ่ายเมื่อปี 2016 เครดิตภาพ: AP Photo/Ariana Cubillos
จู๊ด รุสโซ คอลัมนิสต์จาก The American Conservative ระบุว่าเวเนซุเอลาไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการค้ายาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟนทานิล และรัฐบาลเวเนซุเอลาก็ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามการค้ายาเสพติด จำนวนชาวเวเนซุเอลาที่เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายลดลงจนแทบไม่มีแล้ว ดังนั้นผู้อพยพจึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุ ความร่วมมือระหว่าง จีน-รัสเซีย-อิหร่าน กับ เวเนซุเอลา ก็ไม่ค่อยคึกคักนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเช่นกัน [1]
หลายคนกำลังพูดถึง “น้ำมันเวเนซุเอลา” แต่รุสโซตั้งข้อสังเกตว่า “การก่อสงครามนั้นเป็นวิธีดีที่สุดแต่ก็มีความเสี่ยงต่อการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นสูงสุด (ของสหรัฐ) ในระยะสั้นและระยะกลาง” รุสโซเชื่อว่าทฤษฎีที่น่าเชื่อถือที่สุดคือ “เรากำลังทำเพียงเพราะเราเป็นคนที่ทำได้” และทรัมป์กำลังแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจอันแข็งแกร่งของอเมริกา
1
รุสโซเล่าถึงการประชุมสุดยอดระหว่างปูตินและทรัมป์ที่อลาสการอบที่ผ่านมา พร้อมกับตั้งคำถามให้ชวนคิดว่า การประชุมสุดยอดทางการทูตกี่ครั้งแล้วที่เริ่มต้นเปิดตัวด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดใส่กัน เขายังเสริมด้วยว่า หากการโค่นล้มมาดูโรเป็นผลประโยชน์สำหรับสหรัฐฯ ทำเนียบขาวก็ต้องหาหรือนำเสนอเหตุผล (ข้ออ้าง) ที่เหมาะสมสำหรับปฏิบัติการดังกล่าว
เครดิตภาพ: Elise Swain / The Intercept, Getty Images
เหตุผลโดยตรงของการทำสงครามของสหรัฐกับเวเนซุเอลานั้นยังไม่ชัดเจนนัก แต่มีเหตุผลรองมากมาย เวเนซุเอลามีแหล่งน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้วมากที่สุดในโลก (ประมาณ 18% ของปริมาณน้ำมันสำรองทั้งหมดของโลก) และตั้งอยู่ใกล้กับสหรัฐอเมริกา ดังนั้นหากสามารถรักษาไว้เป็นสินทรัพย์สำหรับอนาคตได้ นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นอิทธิพลของรัสเซียและจีนในภูมิภาคหลังบ้านของสหรัฐจะถูกตัดขาด และ ความไม่เป็นมิตรของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่อาจเกิดขึ้นกับสหรัฐฯ ซึ่งโอเปกพลัสเป็นแกนนำอยู่แล้วก็จะอ่อนกำลังลง
ละตินอเมริกายังเป็นพื้นที่ที่สหรัฐฯ ให้ความสนใจมาโดยตลอด ตาม “วาทะมอนโร” (Monroe Doctrine) เมื่อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจีนได้เข้ามาลงทุนอย่างมากในโครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคมของเวเนซุเอลา รัสเซียก็อาศัยเวเนซุเอลาเป็นจุดต่อต้านทางการเมืองต่อสหรัฐอเมริกาในภูมิภาค และอิหร่านกำลังพัฒนาความร่วมมือทางเทคนิคทางทหารด้วย
เวเนซุเอลากำลังก้าวขึ้นเป็นฐานที่มั่นที่มีศักยภาพสำหรับศูนย์กลางอำนาจทางเลือกในซีกโลกตะวันตก และจากมุมมองของวอชิงตัน แม้แต่การมีกำลังทหารรัสเซียหรือจีนอยู่อย่างจำกัดใกล้ทะเลแคริบเบียนก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้แล้ว
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการของสหรัฐฯ ในศตวรรษที่ 21 ในประเด็น “ความได้เปรียบด้านพรมแดน” “กระจายข้อพิพาท” “เครื่องมือสำคัญอย่างดอลลาร์” ที่ทางเพจได้เคยเขียนไว้ตามลิงก์ด้านล่างนี้
อ่านเพิ่มเติม
blockdit.com
[Right Style by Bom+] แผนการของสหรัฐฯ ในศตวรรษที่ 21 “ความได้เปรียบด้านพรมแดน” “กระจายข้อพิพาท” “ดอลลาร์ครอบงำ”
“ความได้เปรียบด้านพรมแดน” “กระจายข้อพิพาท” “ดอลลาร์ครอบงำ”
ล่าสุดเกิดความเคลื่อนไหวที่สำคัญระหว่าง “รัสเซีย-คิวบา” เมื่อสภาดูมาแห่งรัสเซียได้ลงสัตยาบันอย่างเป็นทางการในข้อตกลงความร่วมมือทางทหารกับคิวบาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2025 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยลงบันทึกความเข้าใจในกรุงฮาวานาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และในกรุงมอสโกเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา จึงเป็นสัญญาณที่ทันท่วงทีของกระแสต่อต้านสหรัฐทางทหารในแถบทะเลแคริบเบียน [2]
เรื่องข้อตกลงทางทหาร “รัสเซีย-คิวบา” ทำให้เกิดความคล่องตัวในการพัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารระหว่างกัน มอบพื้นฐานทางกฎหมายที่จำเป็นสำหรับการกำหนดเป้าหมาย ทิศทาง และรูปแบบของความร่วมมือทางทหารแบบทวิภาคี และรับรองการคุ้มครองผลประโยชน์ของพลเมืองรัสเซียที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบข้อตกลงนี้จากเขตอำนาจของคิวบา
มิเกล ดิอาซ-คาเนล (ขวา) ประธานาธิบดีคิวบา เครดิตภาพ: radiorebelde.cu
การที่อเมริกาใช้รูปแบบ “สงครามตัวแทน” กับรัสเซียนั้น มันทำให้คาดการณ์ได้ว่าสงครามในยูเครนจะทวีความรุนแรงและยืดเยื้อไปได้อีก อเมริกามีต้นทุนทางการเงินไม่มากในการจัดหาอาวุธให้กับยูเครน เพราะปัจจุบันอาวุธเหล่านี้มีการโอนการจัดซื้อด้วยเงินทุนจากสมาชิกนาโตยุโรปแทน
เมื่อรัสเซียต้องการใช้สงครามตัวแทนกับสหรัฐบ้าง รัสเซียมีสองทางเลือกในการตอบโต้ด้วยวิธีการระยะไกล ได้แก่ การสร้างภัยคุกคามฉับพลันและรุนแรงต่อสหรัฐอเมริกาแผ่นดินใหญ่ โดยการวางโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในละตินอเมริกา (จ่อหลังบ้านสหรัฐ) เหมือนตอน “วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962” ในสมัยที่ยังเป็นโซเวียต หรือผ่านความขัดแย้งโดยทางอ้อม หรือการผสมผสานวิธีการเหล่านี้เข้าด้วยกัน
ในบริบทความขัดแย้งโดยทางอ้อม รัสเซียสามารถจัดหาอาวุธหลากหลายชนิดให้กับ อิหร่าน เวเนซุเอลา และกลุ่มฮูตีในเยเมน เป้าหมายนั้นเรียบง่าย คือ ป้องกันไม่ให้สหรัฐฯ บรรลุเป้าหมายในภูมิภาคเหล่านั้น และเพื่อเพิ่มต้นทุนสูงสุดของความขัดแย้งเหล่านี้ให้อเมริกา ยกตัวอย่างเช่น ขีปนาวุธร่อนคาลิบร์จะเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเรือผิวน้ำของสหรัฐฯ ในทะเลแคริบเบียนและฐานทัพบกของพวกเขา
เครดิตภาพ: Alexander Hunter/The Washington Times
การวางขีปนาวุธกึ่งยุทธศาสตร์อย่าง “โอเรชนิก” ซึ่งมีพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียง (10 มัค) และแม่นยำสูง ในคิวบา เวเนซุเอลา และนิการากัว จะสร้างความกังวลอย่างมากต่อสหรัฐ รัสเซียย่อมมองว่ามาตรการเหล่านี้ดู “สมมาตร” เมื่อเทียบกับการนำโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของสหรัฐและนาโตเข้ามาจ่อใกล้พรมแดนรัสเซียมากขึ้น
1
อีกทางเลือกหนึ่งอาจเป็นการรักษาการลาดตระเวนเรือและเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียแบบประจำการถาวร รวมถึงอาวุธความเร็วเหนือเสียง ในน่านน้ำเป็นกลางนอกชายฝั่งสหรัฐฯ ในกรณีนี้รัสเซียจำเป็นต้องใช้ฐานทัพในคิวบา แน่นอนว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนี้รัสเซียจะต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากสหรัฐโดยทันที
เรียบเรียงโดย Right Style
8th Oct 2025
■
อ้างอิง:
[1]
https://www.theamericanconservative.com/what-does-the-u-s-want-in-venezuela
[2]
https://www.interfax.ru/russia/1051269
1
<เครดิตภาพปก: (บน) Diario Las Americas / AP (ล่าง) History News Network>
สหรัฐอเมริกา
russia
การเมือง
2 บันทึก
19
9
6
2
19
9
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย