ระบบ AI จะติดตามพฤติกรรมของ lead แต่ละรายหลังจากการติดต่อครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดอ่านอีเมล การคลิกลิงก์เข้าเว็บไซต์ หรือการดาวน์โหลดเอกสารต่าง ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประเมินเพื่อจัดส่ง คอนเทนต์หรือข้อมูลที่เหมาะสมให้กับ lead โดยอัตโนมัติอย่างสม่ำเสมอ เช่น หากลูกค้าสนใจหัวข้อใดเป็นพิเศษ Breeze อาจส่งบทความ กรณีศึกษา หรือคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้นให้โดยตรง เพื่อรักษาระดับความสนใจของลูกค้าเอาไว้
เมื่อมีการตอบสนองจากฝั่งลูกค้า เช่น การตอบอีเมลหรือการแสดงความสนใจเพิ่มเติม Breeze จะบันทึกข้อมูลนี้ลงใน CRM และอาจปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้สอดคล้องกับระดับความสนใจที่เพิ่มขึ้น ด้วยกระบวนการดูแล lead อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบนี้ ลูกค้าจะรู้สึกว่าได้รับการเอาใจใส่และได้รับคุณค่าจากแบรนด์ของคุณอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาที่ lead พร้อมซื้อจริง ๆ ทีมขายก็จะสามารถเข้ามารับช่วงต่อได้ทันที โดยมีพื้นฐานความสัมพันธ์ที่แข็งแรงรองรับอยู่แล้ว
5. การคัดกรองและส่งต่อ lead ที่พร้อมปิดการขาย
อีกหนึ่งประโยชน์สำคัญที่ Breeze Prospecting Agent มอบให้ทีมขายคือความสามารถในการ คัดกรองคุณภาพของ lead และส่งต่อเฉพาะ lead ที่มีแนวโน้มปิดการขายสูงให้กับพนักงานขายโดยตรง ระบบ AI จะวิเคราะห์ คะแนนความเป็นไปได้ในการขาย (lead scoring) จากข้อมูลต่าง ๆ เช่น โปรไฟล์ของลูกค้า ความสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย (Ideal Customer Profile) ระดับการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาหรืออีเมลที่ผ่านมา รวมถึงสัญญาณการซื้อที่ตรวจจับได้
เมื่อใดที่ Breeze ประเมินว่า lead รายใดมีความพร้อมสูงหรือแสดงสัญญาณว่ากำลังมองหาโซลูชันอย่างจริงจัง ระบบจะแจ้งเตือนไปยังทีมขายหรือปรับสถานะของ lead นั้นเป็น “Qualified” โดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าทีมขายสามารถโฟกัสเวลาและทรัพยากรไปกับโอกาสที่มีศักยภาพมากที่สุดได้ทันที แทนที่จะเสียเวลาตาม lead ที่ยังไม่พร้อม
ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับสัญญาณการซื้อแบบเรียลไทม์ที่ช่วยไม่ให้พลาดโอกาสทอง การรวบรวมและอัปเดตข้อมูลอัตโนมัติที่ลดภาระงานซ้ำซ้อน การส่งอีเมลอัตโนมัติที่ยังคงมีความเฉพาะตัวเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า การติดตามดูแล lead อย่างต่อเนื่องไม่ให้โอกาสหลุดมือ ไปจนถึงการคัดกรอง lead คุณภาพเพื่อให้ทีมขายได้โฟกัสกับดีลที่มีแนวโน้มสูงที่สุด