9 ต.ค. เวลา 13:30 • สุขภาพ

สมองผู้ป่วยจิตเภท มักขาดธาตุเหล็กจริงหรือ

ในโลกอันซับซ้อนของสมองมนุษย์ มีภาวะหนึ่งที่ยังคงเป็นปริศนาอันยิ่งใหญ่และสร้างความท้าทายให้กับวงการแพทย์มาอย่างยาวนาน นั่นคือ "โรคจิตเภท" หรือ Schizophrenia
ภาวะนี้ไม่ได้เป็นเพียงความผิดปกติทางอารมณ์หรือจิตใจ แต่มันคือความปรวนแปรของวงจรการทำงานในสมองที่ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการรับรู้ความเป็นจริง การคิด และการแสดงออกของผู้ป่วย ทำให้โลกของพวกเขากับโลกของเราดูเหมือนจะอยู่คู่ขนานกันไป
นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามไขความลับของโรคนี้มานานหลายทศวรรษ โดยมีทฤษฎีมากมายที่พยายามจะอธิบายถึงต้นตอของมัน ตั้งแต่ความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทสำคัญอย่างโดปามีน ไปจนถึงความบกพร่องของไมอีลิน ซึ่งเปรียบเสมือนฉนวนหุ้มสายไฟที่ช่วยให้เซลล์ประสาทส่งสัญญาณถึงกันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่ทว่าทฤษฎีเหล่านี้ก็ยังคงทิ้งคำถามสำคัญไว้ว่า อะไรคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของความผิดปกติเหล่านี้
วันนี้ ผมจะพาเข้าไปสำรวจภายในสมองของผู้ป่วยโรคจิตเภทด้วยเทคโนโลยีการสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก หรือ MRI ขั้นสูง เพื่อตอบคำถามที่ดูเหมือนจะเรียบง่ายแต่กลับมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด นั่นคือ ความผิดปกติที่เราเห็นในสมองของพวกเขานั้น แท้จริงแล้วเกิดจากการมีธาตุเหล็กน้อยเกินไป หรือเกิดจากการมี ไมอีลินหรือฉนวนหุ้มสายไฟที่ผิดปกติกันแน่?
การค้นพบครั้งล่าสุดนี้ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Molecular Psychiatry ไม่เพียงแต่จะให้คำตอบที่ชัดเจนขึ้น แต่ยังได้ชี้เป้าไปยังผู้ต้องสงสัยตัวจริงในระดับเซลล์ ที่อาจเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด
หัวใจของการศึกษาครั้งนี้อยู่ที่การใช้เทคโนโลยี MRI สองรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างชาญฉลาด
รูปแบบแรกคือ QSM ซึ่งเป็นเทคนิคที่สามารถตรวจวัดค่าความอ่อนไหวต่อสนามแม่เหล็กของเนื้อเยื่อได้ โดยค่านี้จะสูงขึ้นในบริเวณที่มีธาตุเหล็กสะสมอยู่มาก และจะลดลงในบริเวณที่มีไมอีลินหนาแน่น
และเทคนิคที่สองคือ DTI ซึ่งสามารถติดตามการเคลื่อนที่ของโมเลกุลน้ำเพื่อสร้างภาพของเส้นใยประสาทและประเมินความสมบูรณ์ของปลอกไมอีลินได้โดยตรง การใช้สองเทคนิคนี้ร่วมกันเปรียบเสมือนการมีแว่นตาสองเลนส์ที่ช่วยให้นักวิจัยสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่า ความผิดปกติที่ตรวจพบนั้นมาจากปัญหาของธาตุเหล็กหรือไมอีลินกันแน่
เมื่อทีมนักวิจัยได้ทำการสแกนสมองของผู้ป่วยโรคจิตเภท 85 คน และเปรียบเทียบกับกลุ่มคนสุขภาพดี 86 คน พวกเขาก็ได้พบกับความจริงที่น่าประหลาดใจ
ผลการสแกนด้วยเทคนิค QSM แสดงให้เห็นว่าสมองส่วนลึกของผู้ป่วยโรคจิตเภทนั้นมีค่าความอ่อนไหวต่อสนามแม่เหล็กต่ำกว่าคนปกติอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในเบื้องต้นอาจตีความได้ว่าสมองของพวกเขามีธาตุเหล็กน้อยลง
1
แต่แล้วผลการสแกนด้วยเทคนิค DTI กลับเผยให้เห็นความจริงอีกด้านหนึ่ง นั่นคือ ปลอกไมอีลินในสมองของผู้ป่วยนั้นก็ดูเหมือนจะบางกว่าหรือมีความหนาแน่นน้อยกว่าคนปกติเช่นกัน
1
เมื่อนำข้อมูลทั้งสองส่วนมาปะติดปะต่อกัน มันจึงนำไปสู่ข้อสรุปที่ทรงพลังว่า การที่ค่า QSM ในสมองของผู้ป่วยต่ำลงนั้น เป็นผลโดยตรงมาจากการมีระดับธาตุเหล็กที่ต่ำกว่าปกติและที่น่าตกใจคือ ความผิดปกตินี้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการมีระดับไมอีลินที่ต่ำกว่าปกติด้วยเช่นกัน มันคือภาวะวิกฤตสองเด้งที่เกิดขึ้นพร้อมกันในสมองของผู้ป่วย
คำถามต่อไปจึงเกิดขึ้นว่า มีเซลล์ชนิดใดในสมองของเราที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับทั้ง ธาตุเหล็กและไมอีลินพร้อมๆ กัน?
และคำตอบก็พุ่งเป้าไปที่เซลล์ชนิดหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของสมอง นั่นคือ "โอลิโกเดนโดรไซต์" (Oligodendrocyte)
เซลล์ชนิดนี้คือโรงงานผลิตฉนวนหุ้มสายไฟหรือไมอีลินของระบบประสาทส่วนกลาง และในขณะเดียวกัน มันก็เป็นเซลล์สมองที่ต้องใช้และสะสมธาตุเหล็กไว้ในปริมาณที่สูงที่สุด เพื่อให้กระบวนการสร้างไมอีลินอันซับซ้อนนี้ดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อนักวิจัยได้นำแผนที่สมองที่แสดงบริเวณที่ขาดธาตุเหล็กในผู้ป่วย ไปซ้อนทับกับ แผนที่การแสดงออกของยีนจากฐานข้อมูลสมองมนุษย์ พวกเขาก็พบความเชื่อมโยงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ บริเวณที่ขาดธาตุเหล็กในผู้ป่วยโรคจิตเภทนั้น คือบริเวณเดียวกันกับที่มีการทำงานของยีนที่เกี่ยวข้องกับเซลล์โอลิโกเดนโดรไซต์หนาแน่นที่สุด
ภาพทั้งหมดจึงเริ่มต่อกันเป็นเรื่องราวที่ชัดเจนขึ้น รากเหง้าของโรคจิตเภทอาจจะไม่ได้เริ่มต้นจากความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทโดยตรง
แต่อาจจะมาจากความผิดปกติในการทำงานของโรงงานผลิตฉนวนอย่างเซลล์โอลิโกเดนโดรไซต์ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาลูกโซ่ตามมา นั่นคือมันไม่สามารถจัดการกับธาตุเหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญได้อย่างเหมาะสม
จนนำไปสู่การขาดแคลน และเมื่อวัตถุดิบขาดแคลน การผลิตฉนวนหุ้มสายไฟหรือไมอีลินก็ย่อมบกพร่องตามไปด้วย และท้ายที่สุด เมื่อสายไฟในสมองของเราปราศจากฉนวนหุ้มที่มีคุณภาพ การส่งสัญญาณประสาททั่วทั้งสมองก็ย่อมเกิดการลัดวงจรและผิดเพี้ยนไป นำไปสู่อาการต่างๆ ของโรคจิตเภทที่เราเห็นในที่สุด
แหล่งอ้างอิง:
Vano, L. J., McCutcheon, R. A., Sedlacik, J., et al. (2025). The role of low subcortical iron, white matter myelin, and oligodendrocytes in schizophrenia: a quantitative susceptibility mapping and diffusion tensor imaging study. Molecular Psychiatry. https://doi.org/10.1038/s41380-025-03195-7
โฆษณา