Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
How to better
•
ติดตาม
13 ต.ค. เวลา 08:47 • สุขภาพ
ชิซุโอะกะ
5 นิสัยคิดบวก ที่ช่วยให้มุมมองชีวิตดีขึ้น
เริ่มต้นวันด้วยนิสัยคิดบวกเหล่านี้ เพื่อปรับมุมมองและทัศนคติให้สดใสขึ้น
เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลงชีวิต “นิสัย” คือเครื่องมือที่ทรงพลังมาก
นิสัยช่วยให้เรามีสุขภาพกายดีขึ้น
ช่วยให้เราเป็นระเบียบ ทำเป้าหมายให้สำเร็จ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
และที่สำคัญ — นิสัยยังช่วย “เปลี่ยนวิธีคิด” ของเราได้ด้วย
ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น
นิสัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำได้จริง
นิสัยคิดบวกที่เหมาะสม จะช่วยขจัดความคิดลบ
พาให้คุณโฟกัสกับสิ่งดี ๆ แทนสิ่งแย่ ๆ และช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น
เพียงแค่ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ และใส่ “กิจวัตรคิดบวก” บางอย่างลงไปในแต่ละวัน
คุณจะค่อย ๆ เปลี่ยนวิธีคิดได้อย่างชัดเจน — และมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น
5 นิสัยง่าย ๆ เพื่อสร้างมุมมองที่เป็นบวก
อยากมีทัศนคติที่ดีขึ้นไหม?
ต่อไปนี้คือนิสัยง่าย ๆ ที่คุณสามารถเริ่มฝึกได้ทันที
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ควรจำไว้
คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกข้อพร้อมกัน หรือเปลี่ยนตัวเองทั้งหมดในคราวเดียว
เวลาสร้างนิสัยใหม่ ๆ การค่อย ๆ เริ่มทีละอย่าง มักได้ผลดีกว่า
เริ่มจากสิ่งที่คุณรู้สึก “ใช่” ที่สุดก่อน แล้วทำให้สม่ำเสมอ
ตอนแรกอาจรู้สึกว่ามันยากหรือต้องใช้ความพยายาม
แต่ถ้าคุณทำต่อเนื่อง ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏให้เห็น และสร้างผลดีอย่างน่าประหลาดใจ
1. เริ่มต้นวันด้วย “ความคิดเชิงบวก”
นิสัยอย่างหนึ่งที่ช่วยปรับมุมมองให้ดีขึ้นได้คือ
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความคิดเชิงบวก
หนึ่งในวิธีที่ง่ายคือ “พูดคำยืนยันเชิงบวก” (Positive Affirmations)
เป็นประโยคสั้น ๆ ที่ช่วยให้เราหันเหจากความคิดลบ และเปลี่ยนแนวคิดไปในทางที่ดีขึ้น
คำพูดแบบนี้ช่วยลดความเครียด สร้างมุมมองที่มองโลกในแง่ดี
เพิ่มความมั่นใจ และส่งผลดีต่อจิตใจโดยรวม
ตัวอย่างคำยืนยันเชิงบวก เช่น
• ฉันเลือกที่จะมีความสุขและคิดบวก
• ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งดี ๆ ในชีวิต
• ฉันสามารถรับมือกับความท้าทายที่เจอได้
ถ้าคุณเป็นคนมีศรัทธาทางศาสนา
คุณอาจเลือกใช้ข้อพระคัมภีร์หรือข้อความที่ให้ความหวังแทนได้
คุณอาจเขียนคำเหล่านี้ลงในสมุดจด ใช้แอปในโทรศัพท์
หรือพูดออกเสียงหน้ากระจกในตอนเช้า
สมองของเราจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินบ่อย ๆ
ดังนั้นเริ่มต้นวันด้วยความคิดดี ๆ ที่จะส่งต่อพลังบวกตลอดทั้งวัน
2. ฝึก “ขอบคุณ” และมองหาสิ่งดี ๆ
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้มุมมองดีขึ้นคือ
การฝึก “รู้สึกขอบคุณ” ในสิ่งที่มี
หลายคนได้รับพรในชีวิตมากมาย
แต่เมื่อรู้สึกเหนื่อยหรือเครียด เรามักมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป
แค่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในแต่ละวัน
หยุดคิดและทบทวนว่าเรารู้สึกขอบคุณอะไรบ้าง
สิ่งนี้สามารถช่วยยกระดับอารมณ์ และมอบพลังบวกให้กับเราได้
วิธีฝึกนั้นไม่มีถูกหรือผิด
บางคนเลือกจะทำตอนเช้า นึกถึงสิ่งดี ๆ 2–3 อย่างก่อนลุกจากเตียง
บางคนอาจทำระหว่างแปรงฟัน ดื่มกาแฟ หรือเขียนบันทึกลงสมุด
บางคนชอบแชร์สิ่งที่ขอบคุณกับเพื่อนหรือครอบครัว
เพื่อช่วยกันมองเห็นด้านดีของชีวิตร่วมกัน
ไม่ว่าจะทำวิธีไหน สิ่งสำคัญคือ “การมองหาเรื่องดี ๆ รอบตัว”
และย้ำเตือนตัวเองถึงสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว
3. ดูแลสุขภาพกายและใจเป็นประจำ
เมื่อพูดถึงสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ
การออกกำลังกาย คือกุญแจสำคัญ
การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
ช่วยให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟินและเซโรโทนิน
ซึ่งมีผลโดยตรงต่ออารมณ์และการลดความเครียด
คุณไม่จำเป็นต้องฝืนทำกิจกรรมที่ไม่ชอบ
เลือกสิ่งที่คุณรู้สึกสนุกก็พอ — เดิน วิ่ง โยคะ เต้น ปีนเขา หรือยกเวทก็ได้ทั้งหมด
เมื่อคุณเจอกิจกรรมที่ชอบ มันจะง่ายขึ้นที่จะทำอย่างต่อเนื่อง
และคุณจะได้รับประโยชน์ทั้งกายและใจไปในระยะยาว
การออกไปข้างนอกบ้างก็ช่วยได้มาก
แสงแดดอ่อน ๆ และอากาศบริสุทธิ์
เป็นเหมือนยาช่วยฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้น
4. หยุด “ความคิดลบ” ก่อนมันจะครอบงำเรา
มันยากที่จะคิดบวกได้ ถ้าในหัวเต็มไปด้วยความคิดลบ
แม้บางครั้งเราจะรู้สึกว่าเปลี่ยนความคิดไม่ได้
แต่ด้วย “ความตั้งใจและการสังเกต” เราสามารถฝึกได้จริง
เริ่มจากการ “รับรู้” เมื่อความคิดลบโผล่ขึ้นมา
หยุดสักครู่ แล้วถามตัวเองว่า มันมาจากไหน?
เกิดจากสิ่งที่เราทำ? หรือมาจากคนอื่น?
เมื่อรู้ที่มาแล้ว ให้ลอง “กลับด้านความคิด”
แทนที่จะเชื่อในมุมลบ ลองเปลี่ยนเป็นมุมบวกหรืออย่างน้อยมุมกลาง ๆ
ยกตัวอย่างง่าย ๆ
เรามักคิดว่า “ฉันต้องไปทำงานอีกแล้ว”, “ต้องจ่ายค่าเช่าอีกแล้ว” หรือ “ต้องทำงานบ้านอีกแล้ว”
แต่ถ้าลองเปลี่ยนเป็น
“ฉันได้ไปทำงานวันนี้” – บางคนไม่มีโอกาสนั้น
“ฉันได้จ่ายค่าเช่า” – เพราะฉันมีบ้านให้อยู่
“ฉันได้ทำงานบ้าน” – เพราะฉันมีสิ่งของและครอบครัวให้ดูแล
เมื่อเปลี่ยนมุมมองแบบนี้
สิ่งที่เคยรู้สึกว่าเป็น “ภาระ” จะกลายเป็น “โอกาส” ที่น่าขอบคุณแทน
5. ใส่ใจสิ่งที่มีอิทธิพลต่อจิตใจคุณ
สุดท้ายนี้ หนึ่งในนิสัยที่สำคัญที่สุดคือ
เลือกสิ่งที่ส่งผลต่อใจคุณอย่างระมัดระวัง
ตั้งแต่คนที่คุณใช้เวลาด้วย ไปจนถึงสิ่งที่คุณดูหรือฟัง
ทุกอย่างล้วนมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความคิด
ถ้าดูข่าวแล้วรู้สึกแย่
ให้จำกัดเวลา หรือแค่เลือกอ่านหัวข้อสำคัญพอรู้เรื่อง
ถ้าเล่นโซเชียลแล้วรู้สึกเปรียบเทียบหรือหมดพลัง
ลองคัดกรองคนที่คุณติดตาม และจัดฟีดให้เต็มไปด้วยสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจ
ถ้ามีบางคนในชีวิตที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี
ลองเว้นระยะห่าง และใช้เวลามากขึ้นกับคนที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ
สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้จะช่วยสร้าง “พื้นที่ใจ” ที่เต็มไปด้วยพลังบวก
และทำให้วันของคุณสงบและเบาสบายขึ้นมาก
—- การมีมุมมองเชิงบวกไม่ใช่การปฏิเสธความจริง
แต่มันคือการเลือก “มองเห็นด้านดี” แม้ในวันที่ยากลำบาก
เริ่มจากนิสัยเล็ก ๆ เหล่านี้ทีละอย่าง
ซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
เพราะสุดท้าย… ความสุขไม่ได้มาจากการที่ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
แต่มาจาก “วิธีที่เรามองสิ่งรอบตัว” ต่างหาก 😊
ที่มา :
https://www.thesimplicityhabit.com/5-positive-mindset-habits/
ไลฟ์สไตล์
พัฒนาตัวเอง
วิทยาศาสตร์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย