Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
13 ต.ค. เวลา 09:17 • ประวัติศาสตร์
ความฝันในหอแดง 36 บ้านสีเหยิน
ทางจวนหยงและหนิงวุ่นกับงานมาหลายวันต่อเนื่องจนผู้คนต่างอ่อนล้า ทั้งยังต้องเก็บของตกแต่งอุทยานอีกสองสามวันจึงแล้ว ผู้ที่รับภาระหนักที่สุดคือพี่เฟิ่ง ในขณะที่คนอื่นพอจะแอบพักได้บ้าง พี่เฟิ่งยังทำงานดังคนไม่มีภาระ ไม่ให้ใครมาปรามาส คนที่ว่างงานที่สุดคือ เป่าวี่
เช้าวันนี้ แม่ของสีเหยิน 袭人 มาเยี่ยมคารวะแม่เฒ่าเจี่ย ขอรับตัวสีเหยินกลับบ้านไปดื่มชาฉลองปีใหม่ และจะกลับมาในตอนเย็น เป่าวี่จึงได้แต่เล่นลูกเต๋าและหมากล้อมกับสาวใช้ที่เหลือ ระหว่างนั้นมีสาวใช้มาแจ้งว่า
“นายท่านเจินจวนตะวันออกให้คนมาเชิญไปชมงิ้วและดอกไม้ไฟ”
เป่าวี่รีบเปลี่ยนชุด พอจะออกจากบ้าน ก็พอดีเจ้าจอมเจี่ยส่งนมเปรี้ยว 酥酪 (โยเกิร์ท) มาให้ เป่าวี่จำได้ว่าเป็นของโปรดของสีเหยิน จึงสั่งให้เก็บเอาไว้ให้สีเหยิน จากนั้นก็มาลาแม่เฒ่าเจี่ยก่อนจะข้ามมาชมการแสดง
งิ้วที่เจี่ยเจินจัดแสดงมีเรื่อง 《หนุ่มติงตามหาพ่อ 丁郎认父》、《หวงป๋ออิงวางค่ายกลพยุหะวิญญาณ 黄伯央大摆阴魂阵》 ยังมี 《เห้งเจียอาละวาดสวรรค์ 孙行者大闹天宫》、《เจียงไท่กงประหารขุนพลสถาปนาเทพ 姜太公斩将封神》 เป็นต้น ผีสางเทวดาจึงมาชุมนุมกันใหญ่ เสียงสวดมนตร์ไหว้พระปราบผี ตีม้าล่อรัวกลองดังออกไปนอกถนน พวกเด็กต่างชอบใจ สาวสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แต่เป่าวี่กลับไม่นึกสนุก นั่งได้สักพักก็ออกมาเดินเล่น
เป่าวี่เดินไปเยี่ยมนางอิ๋วสื้อนั่งคุยกับนางและพวกแม่บ้านสาวใช้สักพัก ก็กลับออกมา เดินมาทางประตูสอง พวกนางอิ๋วสื้อคิดว่าคงกลับมาชมงิ้วต่อจึงไม่ใส่ใจ พวกเจี่ยเจิน เจี่ยเหลียน เซวียผานกำลังเล่นทายคำ เห็นเป่าวี่ลุกจากที่เดินไปด้านใน ก็ไม่สนใจอะไรเช่นกัน พวกคนรับใช้ที่ติดตามเป่าวี่มา คนที่โตหน่อย คาดว่ากว่าเป่าวี่จะกลับคงเย็น จึงแอบไปเล่นการพนัน พวกที่เล็กหน่อย ก็มัวเพลินดูงิ้ว
เป่าวี่จึงอยู่ลำพัง ตรองว่า
“ข้าจำได้ว่า แถวนี้มีห้องหนังสือ ด้านในแขวนภาพสาวงามวาดได้ดังมีชีวิต วันนี้ข้างนอกครึกครื้น ในห้องคงไม่มีใคร สาวงามคงเงียบเหงา ข้าควรเข้าไปปลอบใจนาง”
เป่าวี่เดินมาถึงริมหน้าต่างห้องหนังสือ ได้ยินเสียงหอบหายใจด้านใน เป่าวี่สะดุ้งตกใจคิดว่า
“สาวงามมีชีวิตขึ้นมาหรือไร”
จึงทำใจดีสู้เสือ ใช้น้ำลายแตะกระดาษหน้าต่างมองเข้าไปด้านใน เห็นภาพสาวงามแขวนอยู่ปกติไม่ได้มีชีวิต แต่เป็นหมิงเอียน 茗烟 กำลังทับสาวน้อยนางหนึ่ง ปฏิบัติกิจส่งเสียงครวญคราง
เป่าวี่เหลืออด ตะโกนลั่น “ใช้ไม่ได้” แล้วสาวเท้าเข้าห้องไป ทำเอาทั้งสองคนตกใจจนตัวสั่น หมิงเอียนพอเห็นว่าเป็นเป่าวี่ ก็รีบคุกเข่าลงขอความกรุณา
เป่าวี่ว่า “กลางวันแสกๆ ทำอะไรกัน ถ้านายท่านเจินรู้เข้า เจ้าจะอยู่หรือตาย”
พอมองมายังหญิงสาวตัวขาวผ่องหน้าตาพอมีเสน่ห์ อายจนหน้าแดงถึงใบหู ก้มหน้าไม่พูดจา เป่าวี่กระทืบเท้าว่า
“ยังไม่รีบไปอีก”
นางจึงได้สติ รีบวิ่งหนีไป
เป่าวี่รีบออกจากห้องมาตะโกนไล่หลังว่า
“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่บอกใคร”
หมิงเอียนตามมาข้างหลังตะโกนบอก
“เจ้านาย นี่เท่ากับประกาศให้คนรู้กันทั่วแล้ว”
เป่าวี่ถามว่า “สาวใช้นางนั้น อายุเท่าไร”
หมิงเอียนว่า “ไม่เกินสิบหกสิบเจ็ด”
เป่าวี่ว่า “แม้แต่อายุ เจ้าก็ยังไม่ถาม แล้วมาทำเรื่องเช่นนี้ นางเสียท่าให้เจ้าเปล่า น่าสงสาร น่าสงสาร”
แล้วถามต่อว่า “ชื่อล่ะ นางชื่ออะไร”
หมิงเอียนหัวเราะว่า “พูดถึงชื่อแล้วเรื่องยาว พิสดารทีเดียว นางว่าตอนที่แม่เลี้ยงนาง ฝันว่าได้ผ้าแพรปักมาหนึ่งผืน มีอักษรว่าน ‘卍’ สัญลักษณ์ลาภยศอยู่เต็มผืน จึงตั้งชื่อนางว่าว่าน 卍 เรียกว่า ว่านเอ๋อ 万儿”
(สวัสติกะนี้ 卍 อันที่จริงเป็นสัญลักษณ์ แต่ให้ค่าเท่ากับอักษร “万 ว่าน”)
เป่าวี่ฟังแล้วหัวเราะบ้างว่า “คิดว่าวันหน้านางคงให้โชค พรุ่งนี้ส่งคนไปสู่ขอให้เจ้าดีไหม”
หมิงเอียนหัวเราะบ้างแล้วถามว่า “นายรอง ทำไมไม่ชมการแสดง”
เป่าวี่ว่า “ดูมาครึ่งวัน เบื่อจะแย่ เลยมาเดินเล่นแล้วเจอเจ้าที่นี่ ตอนนี้จะทำอะไรดี”
หมิงเอียนยิ้มว่า “ตอนนี้ไม่มีใครรู้เห็น ข้าแอบพานายรองไปเที่ยวนอกเมืองสักพักค่อยกลับ”
เป่าวี่ว่า “ไม่ดี อาจถูกลักพาตัว ยิ่งพวกผู้ใหญ่เขารู้คงเป็นเรื่องใหญ่ ไปใกล้ๆ แถวนี้ก็พอ”
หมิงเอียนว่า “ไปบ้านใคร ใกล้แถวนี้ โจทย์ยากแล้ว”
เป่าวี่หัวเราะว่า “ข้าว่า เราไปบ้านพี่ฮวา ดูว่านางอยู่บ้านไหม”
หมิงเอียนว่า “ดี ดี ข้าลืมบ้านนางไป” แล้วว่า “ว่าแต่พวกเขารู้ว่าข้าพานายรองไป ข้าคงถูกตี”
เป่าวี่ว่า “มีข้าอยู่”
หมิงเอียนไปจูงม้า ทั้งสองออกไปทางประตูหลัง
บ้านของสีเหยินอยู่ไม่ไกลนัก ไม่ถึงครึ่งลี้ เดี๋ยวเดียวก็มาถึง หมิงเอียนเข้าไปตามฮวาจื้อฟาง 花自芳 พี่ชายของสีเหยิน แม่ของสีเหยินกับสีเหยินและหลานสาวหลานเขยกำลังดื่มชากินผลไม้ ได้ยินเสียงเรียก “พี่ฮวา” แล้วฮวาจื้อฟางก็รีบออกมา พอเห็นบ่าวนายทั้งสองก็ตกใจ รีบเข้ามาอุ้มเป่าวี่ลงจากม้าพาเข้ามาในลานบ้านแล้วตะโกนบอกว่า
“นายรองเป่ามา”
คนอื่นยังพอทำเนา แต่พอสีเหยินได้ยิน รีบวิ่งออกมาหา ลากมือมาถามว่า “มาได้อย่างไร”
เป่าวี่หัวเราะว่า “ข้าเบื่อจะแย่แล้ว มาดูว่าเจ้าทำอะไรอยู่”
สีเหยินฟังแล้วค่อยเบาใจว่า “ท่านมัวเล่นอะไร มาทำไม”
แล้วถามหมิงเอียนว่า “มีใครตามมาอีก”
หมิงเอียนหัวเราะว่า “ไม่มีใครรู้”
สีเหยินตระหนกอีกครั้งว่า “นี่ไม่ได้นะ อาจพบคนรู้จักหรือนายท่านเข้า บนถนนคนพลุกพล่าน เกิดเหตุขึ้นคงไม่ใช่เรื่องสนุก พวกท่านขวัญกล้าเทียมฟ้าหรือ คงเป็นหมิงเอียนที่ช่างยุ กลับไปข้าจะฟ้องหม่อมอ คงตีเจ้าตายแน่”
หมิงเอียนเบะปากว่า “นายน้อยทั้งขู่ทั้งตีให้ข้าพามา กลับมาโยนให้ข้า ข้าบอกแล้วว่าอย่ามา เช่นนั้น พวกเรากลับกันเถิด”
ฮวาจื้อฟางว่า “พอเถอะ ไหนไหนก็มากันแล้ว เพียงแต่กระท่อมหญ้าทั้งแคบทั้งสกปรก นายท่านนั่งได้หรือ”
แม่ของสีเหยินก็ออกมาเชื้อเชิญ สีเหยินจึงลากมือเป่าวี่เข้าไปด้านใน เป่าวี่เห็นว่าในห้องยังมีเด็กสาวอีกสี่ห้านาง พอเห็นเป่าวี่เข้ามา ก็พากันนั่งก้มหน้าอายจนหน้าแดง
ฮวาจื้อฟางกับแม่เกรงว่าเป่าวี่จะหนาว จึงขอให้เป่าวี่นั่งบนเตียงผิง แล้วรีบจัดผลไม้ใหม่กับชาดีมาต้อนรับ สีเหยินยิ้มว่า
“พวกท่านอย่าวุ่นวายเปล่าเลย ข้ารู้ดี ไม่กล้าจัดอะไรให้กินส่งเดช”
สีเหยินนำเบาะของตนเองวางบนม้านั่ง พยุงเป่าวี่นั่งลง แล้วนำเตาอุ่นเท้าของตนมารองเท้าเป่าวี่ นำขนมดอกเหมยสองก้อนออกมาจากถุงพกพา นำเตามือถือของตนมาเติมไฟใหม่ปิดฝาแล้ววางในอกเป่าวี่ ท้ายสุดนำถ้วยชาของตนรินชาส่งให้เป่าวี่
แม่กับพี่ชายของนางจัดผลไม้วางไว้เต็มโต๊ะ สีเหยินดูแล้วไม่มีอะไรน่ากิน จึงหัวเราะว่า
“ไหนไหนก็มาแล้ว อย่ากลับมือเปล่า ลองชิมสักหน่อย ให้รู้ว่าได้มาเที่ยวบ้านข้า”
พูดไป ก็เด็ดลูกสนมากระเทาะเปลือกบางๆ วางในผ้าเช็ดหน้าส่งให้เป่าวี่
เป่าวี่สังเกตตาสีเหยินแดงๆ แป้งผัดหน้าชื้น จึงถามว่า
“เจ้าร้องไห้ทำไม”
สีเหยินยิ้มว่า “ใครร้องไห้ ผงเข้าตาข้าจึงขยี้”
สีเหยินกล่าวกลบเกลื่อน แล้วสังเกตเป่าวี่สวมเสื้อแดงแขนลีบลายมังกรหม่างขลิบขนจิ้งจอก เสื้อคลุมขนเตียว จึงถามว่า
“ถ้าท่านตั้งใจมาที่นี่ แล้วเปลี่ยนชุดใหม่ พวกเขาไม่ถามหรือว่าไปไหน”
เป่าวี่ว่า “อันที่จริง นายท่านเจินเชิญข้าไปดูงิ้ว ข้าจึงเปลี่ยนมา”
สีเหยินพยักหน้าแล้วว่า “นั่งสักพักก็กลับเถิด นี่ไม่ใช่ที่ที่ท่านควรมา”
เป่าวี่ยิ้มว่า “เจ้าก็ควรกลับไปด้วย ข้าเก็บของดีเอาไว้ให้”
สีเหยินยิ้มว่า “ค่อยว่ากันเถอะ พวกเขาได้ยินจะว่าอย่างไร”
สีเหยินเอื้อมมือมาปลดหยกศักดิ์สิทธิ์ 通灵玉 จากคอเป่าวี่ ยิ้มให้พวกน้องน้องว่า
“พวกเจ้ามาเปิดหูเปิดตา ของหาดูยากที่ข้าพูดถึงบ่อยๆ แต่ไม่มีโอกาสเห็น วันนี้มาดูกันชัดชัด ว่าวิเศษอย่างไร”
แล้วส่งให้พวกน้องผลัดกันชมครบแล้ว นำกลับมาคล้องให้เป่าวี่ จากนั้นบอกให้พี่ชายหารถสภาพดีสะอาดสะอ้านมาคันหนึ่งส่งเป่าวี่กลับจวน
ฮวาจื้อฟางว่า “ข้าไปส่งเอง ขี่ม้าก็ไม่ป็นไร”
สีเหยินว่า “ไม่ใช่ว่าเป็นไร แต่กลัวว่าจะมีคนเห็น”
ฮวาจื้อฟางจึงไปเช่ารถมา ไม่มีใครรั้งตัวเป่าวี่ เพียงแต่ออกมาส่ง
สีเหยินฉวยผลไม้ส่งให้หมิงเอียน และเงินให้ไปซื้อประทัดมาจุด และกำชับว่า
“อย่าบอกใคร เจ้าเองก็มีผิด”
ส่งเป่าวี่มาถึงหน้าประตู รถเช่ามาถึง เป่าวี่ขึ้นรถปลดม่านลง หมิงเอียน ฮวาจื้อฟาง จูงม้าคนละตัวเดินตามหลัง
พอมาถึงถนนไปจวนหนิง หมิงเอียนบอกให้หยุดรถ หันมาบอกฮวาจื้อฟางว่า
“ข้ากับนายรองต้องกลับเข้าจวนตะวันออกก่อน ไม่เช่นนั้นคนจะพากันสงสัย”
ฮวาจื้อฟางจึงอุ้มเป่าวี่ลงจากรถไปขึ้นม้า
เป่าวี่ว่า “ลำบากเจ้าแล้ว”
แล้วขี่ม้ากลับเข้าทางประตูหลัง
กล่าวถึงตอนที่เป่าวี่ออกจากบ้านมาตอนเช้า พวกสาวใช้ในห้องต่างเริงร่า บ้างเล่นหมากล้อม บ้างทอดลูกเต๋าเล่นไพ่ ขบเม็ดแตงจนเปลือกเกลื่อนพื้น แม่นมหลี่หม่อมอ 李嬷嬷 ถือไม้เท้ากะย่องกะแย่งเข้ามาสวัสดีเป่าวี่ เห็นเป่าวี่ไม่อยู่บ้าน พวกสาวใช้เอาแต่เล่น รู้สึกขัดตาถอนหายใจว่า
“ตั้งแต่ข้าออกไปอยู่ข้างนอกแล้วไม่ค่อยได้เข้ามา พวกเจ้าก็กลายเป็นอย่างนี้ หม่อมอคนอื่นไม่กล้าว่าพวกเจ้า ส่วนเป่าวี่ก็เหมือน “เสาตะเกียงสูงจ้างแปด 丈八的灯台” คอยส่องสว่างทางผู้อื่น ส่องไม่เห็นทางตนเอง ตำหนิคนอื่นว่าสกปรก ห้องของตัวเองกลับถูกพวกเจ้าทำรกจนหมดสภาพ”
พวกสาวใช้รู้ดีว่าเป่าวี่ไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ อีกทั้งหลี่หม่อมอก็เกษียณงานไปอยู่ข้างนอกแล้ว ไม่ได้รับผิดชอบกำกับพวกตน ดังนั้น จึงยังคงเล่นหัว ไม่สนใจนาง
หลี่หม่อมอถามว่า “เดี๋ยวนี้ เป่าวี่กินข้าวมากน้อยเท่าใด เข้านอนเวลาไหน”
พวกสาวใช้จึงตอบส่งส่งไป บ้างก็ว่า
“ยายแก่น่ารำคาญแท้”
หลี่หม่อมอถามอีกว่า “ในชามปิดฝานี่คือนมเปรี้ยว ทำไมไม่ให้ข้ากิน”
ว่าแล้วก็หยิบขึ้นมากิน
สาวใช้นางหนึ่งว่า “อย่า นั่นเก็บเอาไว้ให้สีเหยิน กลับมาคงเป็นเรื่องแน่ ท่านยายรับผิดชอบเอง อย่ามาลงที่พวกข้า”
หลี่หม่อมอฟังแล้วทั้งโกรธทั้งอายว่า
“ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นคนใจไม้ไส้ระกำ อย่าว่าแต่เพียงนมถ้วยเดียว ต่อให้ของแพงกว่านี้ ก็ยังสมควรให้ข้า สีเหยินมีอะไรเหนือกว่าข้า เขารู้อยู่ว่าโตมาได้อย่างไร เลือดที่เปลี่ยนเป็นน้ำนมของข้าเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่ นมถ้วยเดียวจะมาถือโทษข้าหรือ ข้าจะกิน ดูเขาจะว่าอย่างไร สีเหยินนั่นข้าก็อบรมมาแต่เล็ก แค่เด็กไร้ค่า”
พูดแล้วก็ยกถ้วยกินจนหมดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
สาวใช้อีกคนยิ้มว่า “พวกเขาพูดไม่เก่ง ไปแหย่ท่านยายโกรธ เป่าวี่ยังส่งของดีดีไปให้ท่านยายอยู่เสมอ มีอะไรต้องไม่พอใจ”
หลี่หม่อมอว่า “เจ้าไม่ต้องมาจีบปากจีบคอต่อว่าข้า คราวก่อนเรื่องน้ำชาของเชี่ยนเสวี่ย 茜雪 คิดว่าข้าไม่รู้หรือ เห็นชัดว่าข้าก่อเรื่อง ข้าก็จะรับเอง”
ว่าแล้วก็กระฟัดกระเฟียดกลับไป
ตอนก่อนหน้า : ประชันบทกลอน
https://www.blockdit.com/posts/68e77d3bc12e1dd666d09864
ตอนถัดไป : เงื่อนไขสามข้อ
https://www.blockdit.com/posts/68f0bdd81a13eb6003a0ebd3
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ความฝันในหอแดง
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย