วันนี้ เวลา 04:01 • ความคิดเห็น
ในฐานะที่บะค่อยชำนิชำนาญ
Pataว่านะควรเริ่มต้นพิจารณาเรื่อง MOU 43แบบไม่มีพื้นฐานความรู้ใด ๆ น่าถือเป็นจุดแข็ง
1
อาจเปิดโอกาสให้เราสามารถ
เข้าถึงข้อมูลด้วย"ใจเป็นกลาง" หรือที่เรียกว่า(กระดานว่างเปล่า) ซึ่งเป็นหักหักหักแก่นของการแสวงหาความจริงอย่างมี
วุฒิภาวะ
1
แนวทางที่ควรยึดถือคือ
การเปลี่ยนจากการมอง
ค้นหาว่า“ใครถูกใครผิด”
ไปเป็นการทำความเข้าใจ
“สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร”
เราควรเริ่มต้นจากการ
ศึกษาเอกสารต้นฉบับ
คือตัวบทของ MOU 43
ฉบับเต็มเพื่อทำความ
เข้าใจเจตนาวัตถุประสงค์
1
ขอบเขตการทำงานตาม
ที่ระบุไว้ในมาตรา 1 ถึง 9
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
ประเด็นสถานะทางกฎหมาย
ที่ข้อมูลพื้นฐานระบุว่า
เป็นเพียง"บันทึกความเข้าใจ" ไม่ใช่สนธิสัญญาซึ่งเป็น
ประเด็นที่มักถูกบิดเบือน
1
ไปสู่การปลุกปั่นอารมณ์
ความพยายามที่จะแยกแยะ
"ข้อเท็จจริง" ออกจาก "
ความคิดเห็น"เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
Pataอาจต้องใช้เวลาต้อง
วิเคราะห์บทวิเคราะห์จาก
หลายฝ่ายทั้งจากภาครัฐ
ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ต้องชี้แจ
จากนักวิชาการผู้ทรง
คุณวุฒิที่ใช้หลักการกฎหมายระหว่างประเทศมาจับและ
จากภาคประชาสังคมที่
สะท้อนความกังวลในมิติ
ของสิทธิมนุษยชนและ
ผลกระทบต่อประชาชน
การเปรียบเทียบข้อมูล
เหล่านี้ต้องทำด้วยเหตุผล
เชิงวิพากษ์
ไม่ใช่การเลือกเชื่อฝ่าย
ที่พูดที่พูดถูกใจแทนที่
จะจมอยู่กับวาทกรรม
ความรักชาติ
1
Pataไม่ใช่วุฒิสมาชิกรึ
นักการเมืองรึทหารรึใคร
ที่มุ่งตอบโต้ต่อสู้โรมรัน
ดอกนะ
สมองอ่อนด้อยอยากจะ
"เสนอทางออก"หรือ"เสนอ
การปรับปรุง"กลไกการ
กำกับดูแลไม่ใช่การเรียก
ร้องให้ฉีกทิ้งโดยปราศจาก
ทางเลือกที่ดีกว่า
1
ความเข้าใจอย่างปราศจาก
อคติจึงเป็นการแสดงถึง
วุฒิภาวะทางการเมืองและ
ทางปัญญาของสังคมอย่างมีเหตุผล
1
โดยใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้
เป็นฐานในการสร้างสรรค์
และปรับปรุงนโยบายสาธารณะ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติอย่างแท้จริง
1
ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ยั่งยืน
กว่าการใช้ความรู้สึกนำหน้า
เพื่อคำว่า“มรึงกะกู”วันนี้อยู่
ร่วมโลกกันไม่ได้กระมังน้อ
บ้าไปเลี้ยวPataแต่ยังไง
Pataก่ะอยากคิดอย่าง
โง่เขลาม่ะได้เอาโลกสวยนะ!
โฆษณา