เกาหลีเหนือไม่ได้เกิดมายากจน แต่ถูก.... “การตลาด” กลืนกิน “นวัตกรรม” #001
ช่วงนี้ผมได้แต่รอเกาหลีใต้ แถลงรายชื่อนักการเมืองไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการ Scammer ในกัมพูชาครับ แต่ระหว่างรอเราก็มาเข้าเรื่องนินทากันก่อน
ในช่วงเวลาโน้นนนน รัฐบาลเกาหลีเหนือก็เรียกร้องให้ทุกคนเปิดพื้นที่รกร้างและตัดต้นไม้บนภูเขาเพื่อปลูกที่ดิน ด้วยการเก็บเกี่ยวที่ดินเหล่านั้นทำได้ไม่ดีนัก
และน้ำท่วมทำให้เกิดการพังทลายของดินอย่างรุนแรง และผลผลิตธัญพืชจึงลดลงอย่างรวดเร็ว ในเวลานั้น ประชากรของเกาหลีเหนือเติบโตขึ้นจาก 10 ล้านคนเป็นประมาณ 25 ล้านคน
ที่เลวร้ายที่สุด ...ในขณะเดียวกัน การผลิตธัญพืชได้ลดลงจาก 10 ล้านตันที่สูงสุดเป็น 2.5 ล้านตันต่อปี
เพื่อรักษาบรรทัดล่างสุดของการอยู่รอดขั้นพื้นฐานของชาวเกาหลีเหนือ อาหาร 4.8 ล้านตันต่อปีจึงเป็นสิ่งจำเป็น
หากกล่าวถึงเกาหลีเหนือ ๆ ในปัจจุบันยากจนมาก ในปี 2561 GDP ทั้งหมดของเกาหลีเหนือมีเพียง 1% ของเกาหลีใต้
ประชากรของประเทศคือ 25.4 ล้านคน และ GDP ต่อหัวเพียง 700 ดอลลาร์
ซึ่งอยู่ในอันดับต้น ๆ ที่น่าสงสารของโลก
ในขณะที่เกาหลีใต้ อยู่ที่ 31,000 ดอลลาร์ คุณภาพชีวิตของพลเมืองทั้งสองประเทศนั้นช่างห่างไกลกันมากนัก
แต่ๆๆๆๆๆ เดี๋ยวก่อน.....เกาหลีเหนือไม่ได้เกิดมายากจนนะครับ
ตรงกันข้าม เกาหลีเหนือเคยร่ำรวยกว่าเกาหลีใต้ในอดีต และเรียกว่า "คู่อุตสาหกรรมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ" ที่ร่วมกับญี่ปุ่น
เหตุที่เกาหลีเหนือร่ำรวยก็เพราะได้เข้าร่วม "สมาคมเศรษฐกิจและสหการ" ที่นำโดยโซเวียตนั่นไงครับ
สมาคมเศรษฐกิจและสหการนี้เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจที่นำโดยสหภาพโซเวียต จะเห็นได้ว่าในยุคนั้น
ทุกคนล้อมรอบอย่างใกล้ชิดโดยสหภาพโซเวียต(USSR)
สหภาพโซเวียตเป็นผู้ตัดสินใจว่าประเทศใดจะ ทำอะไร ที่ไหนจะขาย และจะส่งไปขายที่ไหน
การแบ่งงานกันทำของเกาหลีเหนือในสภาเศรษฐกิจและการค้าในตอนนั้นทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มากมาย
พวกเขานำเข้า วัตถุดิบราคาถูกจากประเทศสังคมนิยมอื่น ๆ แล้วแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและจำหน่าย ไปยังค่ายสังคมนิยมอื่น ๆ ที่มีประชากร 400 ล้านคน (ไม่รวมจีน)
ตลาดขนาดใหญ่นี้ทำให้เกาหลีเหนือทำเงินได้มากมาย
เนื่องจาก คิม อิล-ซ็อง( Kim Il-sung )ในรุ่นเกาหลีเหนือขึ้นสู่อำนาจด้วยการสนับสนุนของสหภาพโซเวียต เขาจึงพูดจีน และ "รัสเซีย(ที่เน้นหนัก)" ได้คล่อง
การเรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เป็นเพราะ Kim Il Sung สามารถ พูดภาษารัสเซียและมีทักษะพิเศษ
ตั้งแต่นั้นมา เกาหลีเหนือก็ยอมรับกลายๆว่าสหภาพโซเวียตเป็นเจ้านาย และเขาสามารถทำทุกอย่างที่สหภาพโซเวียตขอให้ทำ
ในเวลานั้น ทุกคนมีความสุขที่ได้เป็นชาวเกาหลีเหนือ ได้เรียนฟรี 11 ปี มีที่พักฟรี และรับการรักษาพยาบาลฟรี
สวัสดิการเหล่านี้ได้รับการดูแลภายใต้ภูมิหลังทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของเกาหลีเหนือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ในตอนนี้ เกาหลีเหนือยังทำอยู่ แต่เศรษฐกิจก็รับไม่ได้ไปไม่ไหว
เช่น ที่เรียกว่ารักษาฟรีมีไว้โชว์เท่านั้น แต่ไม่มียารักษาใดๆเลย เหมือน สปสช. ที่ทำหลายๆโรงพยาบาลขาดทุน
แต่แก้เก้อด้วยการส่งนักบัญชีเอกชนลุยตรวจรพ.ขาดทุนมากกว่า 10 แห่ง (ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดเพื่อหากำไร) แต่กลับไม่แตะ “สปสช. หรือผู้บริหาร รพ.” ทั้งๆที่ นี่คือต้นเหตุของทุกๆปัญหา
สำหรับเกาหลีเหนือแล้ว....หากปราศจากการสนับสนุนจากเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ผลประโยชน์ทั้งหมดจึงล้วนเป็นเพียงภาพลวงตา
นี่คือสาเหตุที่ประเทศเหล่านั้นในอเมริกาใต้มักจะตกอยู่ในวงจรที่ไม่มีก้นเหล่านี้
ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามามีอำนาจ พรรคการเมืองทุกพรรคมักชอบสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์สูงมากมายแก่พลเมืองของตน
แต่พวกเขาแทบที่จะไม่มีความสามารถในการหาเงินจากเทคโนโลยีในยุโรปเหนือ
หลังจากเข้ามามีอำนาจ ก็อาศัยหนี้เพื่อขายสินทรัพย์เพื่อรักษาตัวเอง ยิ่งมีหนี้มากเท่าไหร่ หลุมพรางก็ยิ่งขุดลึกมากขึ้นเท่านั้น
อาร์เจนตินาหนาเตอะขึ้นมาก ถูกมองว่าผิดนัดชำระหนี้ถึง 9 ครั้ง และประเทศก็อยู่ในวงจรอุบาทว์ตลอดทั้งปี
ประเทศในอเมริกาใต้โดยทั่วไปทนความยากลำบากไม่ได้ แต่ก็อยากมีความสุขกับชีวิตด้วย ไม่ว่าจะมีทรัพยากรดีแค่ไหนก็ไม่สามารถทนทานได้
ดังนั้น ชีวิตที่มีความสุขของเกาหลีเหนือจึงผ่านไปไม่กี่ทศวรรษและตอนนั้นเข้าสู่ยุครุ่งเรืองในช่วง 2513 พื้นที่ชนบทมีเครื่องจักรเป็นพื้นฐาน (70%)
และ 100% ของพื้นที่ชนบทใช้พลังงานไฟฟ้า 67% ในปี 2519 ระดับอุตสาหกรรมของเกาหลีเหนือผลิตไฟฟ้าได้ถึงปีละ 33,000 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
ถ่านหิน 50 ล้านตัน เหล็ก 4 ล้านตัน เครื่องมือกล 30,000 ชิ้น รถแทรกเตอร์ 30,000 คัน ปุ๋ยเคมี 3 ล้านตัน (ที่มีมากและสำคัญ) ปูนซีเมนต์ 8 ล้านตัน
และสิ่งทอ 6 ล้านตัน ที่สามารถถักทอได้เป็นพันล้านเมตร.... และการลักลอบของผีน้อยก็เริ่มขึ้น.... Please stay tuned for the next episode.
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
