18 ต.ค. เวลา 07:26 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

"Itaewon Class: ธุรกิจปิดเกมแค้น กับนิยามความรัก"

ถ้านึกถึงหนัง-ซีรีส์เกาหลี
ซึ่งเป็นท็อปลิสต์ในใจคุณ
จะยกให้เรื่องไหนติดอันดับ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด?
.
.
.
สำหรับผมเรื่องแรกๆ ที่นึกถึง
และยังตราตรึงอยู่เสมอ
ก็คือ "Itaewon Class"
หรือธุรกิจปิดเกมแค้น
เรื่องราวของ "พัคแซรอย"
ชายหนุ่มซื่อตรง รักความยุติธรรม
ที่เข้ามาเรียน รร. ใหม่วันแรก
ก็สวมบทฮีโร่ไปช่วยปกป้องโฮจิน
เพื่อนร่วมชั้นที่ตกเป็นเหยื่อ
ถูก "ชางกึนวอน" ทายาทชางกา
แบรนด์อาหารอันดับ 1 ของเกาหลี
ด้วยการประเคนกำปั้นใส่มันเต็มๆ
เกิดเป็นจุดเริ่มต้นปมแค้นระหว่าง
ชายหนุ่มหัวเกาลัดและท่าน ปธ.ชางแดฮี
แม้จะถูกอำนาจบีบให้ก้มหัวขอโทษ
ก็ไม่ยอมเอนอ่อนต่อความอยุติธรรม
ซ้ำยังต้องเสียพ่อผู้เป็นที่รักและเป็น
ดั่งความหมายมากมายในชีวิตไป
จากอุบัติเหตุรถชนเพราะความประมาท
ของเจ้ากึนวอนคนเดิมที่เมาแล้วขับ
ชนแล้วดันหนีความผิด ให้คนอื่นมารับแทน
กลัวเป็นรอยหม่นต่อตระกูลนักธุรกิจผู้สูงศักดิ์
ด้วยความโกรธแค้นเป็นไฟ
พุ่งเข้าใส่กึนวอน ประเคนหมัด
อัดหน้ากะให้กะโหลกยุบคามือ
เป็นเหตุให้เด็กมัธยมอนาคตไกล
ต้องไปใช้ชีวิตในคุก กลับมาไม่นาน
ก็ออกไปลุยต่อที่เรือประมง
วางแผนธุรกิจปิดเกมแค้นอย่างเบ็ดเสร็จ
ทั้งในเชิงธุรกิจ การเงิน และ
การเติบโตทางจิตวิญญาณ
ด้วยระยะเวลานานนับทศวรรษเลยทีเดียว
ซึ่ง​หากชีวิตของพัคแซรอย
คือบทละครแห่งการต่อสู้
เพื่อทวงศักดิ์ศรีและความยุติธรรม
พื้นที่แห่ง "Itaewon Class"
ก็คงมีฉากรักเป็นองค์ประกอบสำคัญ
ที่ขับเคลื่อนและเจียระไนตัวตนเขา
ให้สมบูรณ์ขึ้นอย่างรอบด้านจริงๆ
และบนเส้นทางนั้นเอง
ก็ได้มีสตรีสองคนยืนอยู่
ภายใต้แสงไฟที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
คนหนึ่งคือ "รักแรก" ภาพฝันในวันวาน
เป็นต้นและปลายทางที่รอคอย
ส่วนอีกคนคือความรักระหว่างทาง
ที่จับมือพากันเติบโตตั้งแต่ Day1
​น่าคิดเหมือนกันถ้าในชีวิตจริง
เราจะเลือกใครระหว่าง
"โอซูอา" หรือ "โชอีซอ"
ซึ่งว่ากันเต็มจริง หากไม่มีทั้งสองคน
แซรอยไม่มีทางโค่นล้มชางกา
และพาบริษัทไอซีประสบความสำเร็จ
มากขนาดนี้ได้เลย
1. "รักต้นทาง: ​โอซูอา"
- เปรียบเสมือนบทเพลงเก่าที่พัคแซรอยเคยฟังในวันวาน เป็นท่วงทำนองที่เรียบง่ายแต่งดงามและฝังลึกในความทรงจำ
เธอคือแสงสว่างแรกในชีวิตมัธยมที่มืดมน คือตัวแทนของ "ชีวิตปกติ" ที่เขาเคยปรารถนา ความรักที่เขามีต่อซูอาจึงไม่ใช่แค่ความหลงใหลฉันหนุ่มสาว แต่เป็นเสมือน "หมุดหมาย" แรกเริ่มของทุกสิ่งที่เข้ามาเติมเต็มความหมายในชีวิตเลย
ขณะเดียวกัน ด้วยปมแค้นที่มีต่อชางกา ทำให้ทั้งคู่ไม่อาจร่วมทางชีวิตปกติได้ดั่งใจปอง แซรอยที่ต้องใช้เวลาศึกษาเรียนรู้ ปธ.ชาง และสร้างตัวเองขึ้นมาจากสถานะติดลบ ย่อมไม่อาจอยู่เคียงข้างและมอบอนาคตดีๆ ที่ซูอาต้องการได้ ส่วนเธอเองก็จำต้องกินต้องใช้ เมื่อมีข้อเสนอใหญ่จากชางกาเข้ามาก็ต้องรับไว้ แม้จะฝืนใจ รู้สึกผิดต่อคุณลุงพัคและแซรอย แต่นี่แหละชีวิตจริง คนเราย่อมต้องเลือกดูแลตัวเองให้ดีก่อนใคร แซรอยเองก็เข้าใจจุดนี้ดี ไม่เคยตัดสินหรือโกรธเธอเลย
​ความรักของเขาที่มีต่อเธอจึงผูกติดอยู่กับคำสัญญาและความแค้น โดยมองว่าการโค่นชางกาให้สำเร็จ คือหนทางที่จะปลดปล่อยเธอจากบุญคุณที่ค้ำคอ และพาเธอกลับมายืนเคียงข้างเขาได้อย่างสง่างาม ในสายตาของเขา ซูอาคือ "รางวัล" ที่รออยู่ ณ เส้นชัย
​"ฉันจะทำให้เธอไม่ต้องทำงานอีกต่อไป"
​ประโยคนี้ของแซรอยที่วิ่งไล่รถเมล์ในคืนนั้น สะท้อนทุกอย่างมาถึงช่วงท้าย เขาไม่ได้มองซูอาเป็น "คู่ชีวิต" ที่จะมาล้มลุกคลุกคลานด้วยกัน แต่เป็น "เจ้าหญิง" ที่เขามีหน้าที่ต้องไปช่วยเหลือออกมาจากหอคอยของประธานชาง ความรักของเขาจึงเจือปนด้วยภาระหน้าที่และความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มันเป็นความรักที่มองย้อนกลับไปยังอดีต เป็นความพยายามที่จะปะติดปะต่อเศษเสี้ยวของความสุขที่เคยแตกสลายไป
แต่มองอีกมุมซูอากลับเป็นกระจกที่สะท้อนความโดดเดี่ยวของตัวเธอเอง เธอเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย ยอมรับการอุปถัมภ์จากศัตรูของคนที่เธอรัก และรอคอยให้เขาเป็นฝ่ายชนะเกมนี้แทบจะฝ่ายเดียว ความรักของเธอจึงเป็น "ความรักแบบมีเงื่อนไข" ที่ต้องรอให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย
แม้ตอนท้ายจะทนไม่ได้ที่เห็นแซรอยต้องลำบาก โดน ปธ.ชางเหยียบย่ำสารพัดสิ่ง จนทิ้งเงื่อนไข ขอให้เขาหนีตามไปด้วยกัน รวมถึงการนำหลักฐานทั้งหมดที่รวมความทุจริตของชางกาไปแจ้งความ จนท่าน ปธ. ล้มไม่เป็นท่า เปิดทางให้ไอซีของแซรอยชนะอย่างหมดจดและเร็วกว่าที่คาดไว้
มันก็แอบสายเกินไป เมื่อใจของแซรอยค่อยๆ เข้าใกล้จุดหมายและหลอมละลายไปกับอีซอที่ร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกัน บางทีชีวิตมันก็เป็นเช่นนี้เอง คนที่เคยใช่ ใครที่เคยชอบ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมอบใจให้เขาเสมอไป ไม่ได้แปลว่าถึงวันหนึ่งเขาจะยังใช่ไปถึงปลายทาง
ไม่มีใครถูกหรือผิดเลย เมื่อทุกคนต่างมีเหตุผล ปัจจัย ที่ส่งให้เราเติบโต เปลี่ยนแปลง คนที่เคยใช่ วันนี้อาจไม่ใช่ หรือต่อให้ยังใช้ แค่วันนี้มีคนที่ "ใช่กว่า" เข้ามาพากันเติบโตและดีขึ้นไปด้วยกัน ส่วนรักในวันวานนั้นก็ยังคงงดงามอยู่ในความทรงจำ มองกลับไปกี่ครั้งก็ยังแอบรู้สึกขอบคุณที่เธอทำให้เราเข้าใจ เติบโตมาได้ถึงวันนี้เช่นกัน
​หากเปรียบชีวิตเป็นการเดินทาง ซูอาคือ "บ้าน" หลังเก่าที่แซรอยตั้งใจจะกลับไป แต่ระหว่างทางเขาได้พบกับแรงบันดาลใจครั้งใหม่ที่เปลี่ยนทิศทางการเดินทางไปตลอดกาล
2. ​โชอีซอ: ความรักระหว่างทาง
- หากมองไปยังวันแรกๆ ที่พบกัน ทั้งคู่เริ่มต้นได้ไม่ดีรักในความสัมพันธ์ ออกแนวคู่กัดต่างวัยกันด้วยซ้ำไป แต่ก็เพราะตัวตนความซื่อตรงจริงใจของแซรอยที่เข้ามาสะกิดใจอีซอให้เห็นถึงอะไรบางอย่างที่ต่างจากคนอื่นๆ ในชีวิตเธอ จนแอบทนไม่ได้ที่จะเห็นชายผู้แสนอบอุ่นคนนี้ ต้องทนทุกข์และสู้ต่อไปเพียงลำพัง รู้ตัวอีกทีก็รักเขาไปแล้วทั้งใจ อยากจะเปลี่ยนให้รสชาติชีวิตสุดขมให้หวานขึ้นมา
อีซอเข้ามาในฐานะ "ผู้จัดการ" ร้านทันบัม ผู้มองเห็นเพชรที่ยังไม่ถูกเจียระไน เธอคือคนที่เดินเข้ามาตบหน้าแซรอยด้วยความจริงอันโหดร้ายว่า "ความมุ่งมั่น" เพียงอย่างเดียวไม่สามารถเอาชนะโลกธุรกิจได้ หากไม่เข้าใจกลไกตลาด โซเชียลมีเดีย และพฤติกรรมผู้บริโภคเอาเสียเลย
ซึ่ง​ความรักของอีซอไม่ใช่การรอคอยเมื่อพร้อม
แต่เราจะพร้อมขึ้นไปด้วยกัน เธอไม่ได้แค่เชื่อในตัวแซรอย แต่ "เดิมพัน" ทั้งชีวิตของเธอกับความฝันของเขาจริงๆ
​"ฉันจะทำให้คุณเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ให้ได้"
​คำพูดของอีซอไม่ใช่คำปลุกใจเพ้อฝัน แต่คือ "คำมั่น" ที่จะสู้ไปพร้อมกับเขา เธอคือคนที่เปลี่ยนร้าน "ทันบัม" จากบาร์ธรรมดาให้กลายเป็นบริษัท "I.C. Inc." ที่ยิ่งใหญ่ เธอเติมเต็มในสิ่งที่แซรอยขาด ทั้งไหวพริบด้านการตลาด ความเข้าใจในโซเชียลมีเดีย และความเลือดเย็นในการตัดสินใจทางธุรกิจ
​ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ก่อร่างจากความทรงจำอันหอมหวาน แต่หลอมรวมขึ้นจากหยาดเหงื่อ คราบน้ำตา และบาดแผลที่ได้รับร่วมกันในสนามรบที่เรียกว่า "อิแทวอน"
อีซอเห็นทุกด้านของแซรอย ทั้งความหัวโบราณ ดื้อรั้น ความอ่อนแอ และความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ใต้รอยยิ้ม เธอจึงเปรียบเสมือนเซฟโซนที่เขาหันกลับมามองหาเมื่อต้องการคำปรึกษาและกล้าที่จะเผยอีกด้านให้เห็น จากเดิมที่เห็นเป็นเพียงน้องสาวและพาร์ทเนอร์ธุรกิจ มาถึงวันที่เห็นเธอเป็น "หญิงสาว" ที่อยากปกป้องจริงๆ ไม่ใช่เพราะหน้าที่ แต่เพราะหัวใจมันเรียกร้องอยู่ลึกๆ ด้วย
แม้​ช่วงแรกแซรอยอาจยังมองไม่เห็นความรู้สึกของตัวเอง เพราะหัวใจของเขายังคงถูก "ภาพเงา" ของโอซูอาบดบัง แต่ร่างกายและการกระทำของเขานั้นซื่อสัตย์เสมอ ทุกครั้งที่อีซอลำบาก เขาพร้อมจะทิ้งทุกอย่างเพื่อไปหาเธอ ความเจ็บปวดของเธอกลายเป็นความเจ็บปวดของเขาโดยไม่รู้ตัว
ทำให้เห็นว่าทั้งคู่ต่างเป็นส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกัน แซรอยทำให้อีซอได้เห็นอีกหลายด้านของชีวิต โดยเฉพาะ soft skill และความเข้าอกเข้าใจคนรอบตัว มองธุรกิจไม่ใช่แค่ตัวเลขกำไร แต่เป็น "ผู้คน" และทีมงานที่คอยเรียนรู้ คอยเติบโตไปด้วยกัน รวมถึงความมุ่งมั่นหัวชนฝาแม้โลกจะโหดร้ายยังไง ทางแก้ย่อมมี แค่เราเชื่อและมองหาหนทางจนเจอ
ส่วนอีซอมาเติมทั้งในส่วนธุรกิจและแง่มุมความรักแท้ที่แซรอยไม่เคยเจอ เธอเผยใจชัดเจน ตรงไปตรงมาเสมอ ไม่ว่าเขาจะบ่ายเบี่ยงยังไง สิ่งสำคัญคือแม้อีซอจะถูกปฏิเสธ เสียใจแค่ไหน เธอก็ไม่เคยปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกมาอยู่เหนืองานเลย ในเมื่อเลือกแล้วว่าจะไม่เรียนต่อมหาลัย เลือกด้วยใจว่าจะฝากชีวิตไว้กับแซรอย ว่าจะคอยผลักดันเขาไปให้สุดทาง ก็จะทำอย่างสุดหัวใจ
มันต่างกันมากนะครับ ระหว่างคนที่บอกถ้าสำเร็จร่ำรวยแล้วค่อยมาหากัน กับอีกคนบอกฉันจะทำให้คุณรวยและเรามาเติบโตไปด้วยกัน ตั้งแต่วันที่ยังไม่มี จนมั่งมีเงินทองและความสุขทั้งใจ
​การเลือกซูอาคือภาพในฝันที่จะจบภารกิจแค้นเพื่อกลับไปยังจุดเริ่มต้นในภารกิจรัก เป็นความผูกพันที่ตั้งอยู่บนฐานของความทรงจำและภาระหน้าที่
​แต่การเลือกอีซอคือ.การเลือกที่จะเดินหน้าสู่อนาคตที่พวกเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยกัน มันคือการยอมรับว่าตัวตนของเขาในวันนี้ได้ถูกหล่อหลอมขึ้นมาใหม่โดยมีเธอเป็นส่วนสำคัญที่สุด เป็นความรักที่ค้นพบระหว่างการเดินทาง และก้าวต่อไปยังจุดหมายปลายทางด้วยกัน
​พัคแซรอยตระหนักได้ในที่สุดว่า ความรักที่แท้จริงไม่ใช่การครอบครอง "รางวัล" ที่ปลายทาง แต่คือการมี "เพื่อนร่วมทาง" ที่พร้อมจะจับมือเขาฝ่าฟันพายุที่โหมกระหน่ำซูอาคือรักแรกที่สวยงามและตราตรึง แต่อีซอคือ "คู่ชีวิต" ที่ทำให้ชีวิตของเขามีความหมายอย่างแท้จริง
​ชัยชนะเหนือชางกาอาจทำให้การแก้แค้นของเขาสิ้นสุดลง แต่การได้มีอีซออยู่เคียงข้างต่างหาก คือชัยชนะที่แท้จริงของ "ชีวิต" พัคแซรอย
แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ไม่ว่าความรักต้นทางหรือระหว่างทาง ก็ยังคงมีความหมายต่อใจ ตราบใดที่รักนั้นทำให้เราเติบโตเป็นคนที่ดีกว่าเดิม,,,🥢🍻🇰🇷
แล้วคุณล่ะจะเลือกใคร?
โฆษณา