19 ต.ค. เวลา 03:23 • ปรัชญา
กรุงเทพ Bangkok
วิมุตติ VS สมมุติ
.. คำแนะนำในการอ่านต่อไปนี้ ให้ทำจิตอยู่ ภายในกาย .มีสติสัมปชัญญะ อยู่นิ่งๆเฉย หายใจลึก กั้นลมหายใจ เปล่าลมออกแรงๆ สักสองสามหน เอาตัวทิฐิในตัวตนออกไปก่อน แบ้วค่อยอ่านๆ หากวุ่นว่ายกับอารมณ์ อย่าอ่านต่อไป หยุดมันซะ อย่าอ่าน.ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย .เอาจิตมาอ่าน ..อย่าอ่านด้วยอารมณ์ทิฐิ ..เราอ่านจิตอ่านใจเราเอง
..มีกายที่เค้าสมมุติให้มาอาศัย ก็ไม่สามารถ รู้จักอารมณ์นึกคิด ที่ปรุงแต่ง .ที่ว่าอยู่กับอารมณ์กรรมตัวกระทำ ก็ไม่รู้จักอารมณ์ได้เลย..ก็หลงยึดสิ่งแรุงแต่งที่อารมณ์อุปโลกน์ให้ .สมุมติให้จิตยึด ..ก็ยึดถืออยู่ในกาย ยึดอยู่อย่างนั้น .เพราะจิตยังไม่เกิดปัญญา รู้จักสิ่งสมมุติ มันก็ทุกข์ ยึดทุกข์ ยึดกรรม ..มันก็หาวิมุตติไม่ได้ .
เมือ่กายเคลื่อนที่ไป วิญญาณทั้งหกเคลื่อนที่ไป ก็มีอารมณ์ ปรุงแต่งไปตลอดเวลา ไม่เคยว่างเว้นจากอารมณ์ได้เลย เดี๋ยวอารมณ์นั้นเข้ามา อารมณ์โน้น เข้ามาเยี่ยมเยียนที่กายนี้ แสดงตัวกระทำ พฤติกรรมของอารมณ์ปรุงแต่งออกมา ทั้งวันมีอารมณ์อะไรบ้างที่เกิดขึ้น..มาย่ำยีจิตที่อาศัยอยู่ในกายที่พ่อแม่ให้มา . ทั้งวันนี้ ใช้กายวาจาใจอย่างไร ที่จะไม่มีกรรม
เรื่องราวของอารมณ์ คนเรามันอยู่กับอารมณ์ ใช้ชีวิต กายเคลื่อนไหว ในสิ่งที่กายเคลื่อนที่ไป สัมผัสสิ่งนั้นสิ่งนี้ กระทบ ตา ..ตาก็ดึงภาพนั้น ส่งไปที่สมอง สมองส่งไปที่ จิต ..จิตส่งไป ธาตุทั้งสี่ . ไปสะกิดเอาสิ่งที่เคยเก็บเคยยึด .เข่น ไม่ชอบคนนี้ .สิ่งที่สะสมมา ก็ลอยขึ้นไปส่งไปให้จิต จิตก็สางไปที่สมอง มีอารมณ์อะไรต่าง ปรุงแต่ง เรื่องราวที่ไม่ชอบคนนี้ อารมณ์ก็อุปโลกน์ปรุงแต่ง จิตก็มึนเมา ไม่มีสติ .ไหลไปตามอารมณ์ที่ปรุงแต่ง แล้วก็ยังปรุงแต่ง โยงเรื่องนั้นเรื่ิงนี้เข้ามา นั้นเค้า เรือกว่า จิตอ่อนหนอนไช
คราวนี้ อยู่เฉย ..นั่ง ทำงาน .แต่พอนึกถึง เอ. ไอ้คนนี้มา ตำหนิมาว่าเราได้ไง ..แค่นี้ อารมณ์ก็ไปคว้า .มาปรุงแต่ง อุปโลกน์เรื่องราวต่างๆ เผลอสติ ..ไปกับอารมณ์ บางที่ก็นึกไปถึงเรื่อง ที่ใข้กายไปสนุกสนาน ..กามตัณหา .อารมณ์ก็ไปคว้ามา ยึดมาปรุงแต่ง เพลิดเพลินไปกับอารมณ์ ..เค้าเรียกว่า เป็นสมมุติ
บางเรื่องราว คุยกัน กับคนสนิท แต่ก็เห็นไม่ตรงกัน อารมณ์ไม่พอใจก็เกิดขึ้น หงุดหงิด มาค่อยๆไหลมา ..ก็โยง ดึงอารมณ์โมโห .ลงมาที่กาย เป็นตัวโมโห เหมือนยักษ์ขมูขี ..มีน้องคนหนึ่ง ..มักหงุดหงิดบ่อยๆ อารมณ์โมโห ..มาบ่อย . เรามองดูหน้าน้องคนนี้ ..ที่คิว .ก็เหมือนคิวยักษ์ ที่เค้าเขียนในภาพ นางยักษ์ .แต่เค้าไม่รู้ตัว นั้นก็เป็นเรื่องราวของอารมณ์ เหมือนที่ว่า ธรรมท่านช่วย แสดงภาพให้ดู .ว่าเค้าใช้อารมณ์อะไร มันจึงกลายเป็นนางยักษ์ เรื่ิองนี้ เค้าก็เรียกว่า เป็นมะโนทะศึกษา
เรื่อวราว ของอารมณ์ นั้น เราก็พยายามมีสติสัมปชัญญะ พอเราสร้างบุญกุศล ให้วิญญาณทั้งหก เป็นบุญ ตาเรามันก็ไม่ค่อยไปเห็นใครเค้าผิด เห็นเป็นเรื่องราวคนมีกรรม ต่างคนต่างมีกรรม
เคยมีคนอยู่ดี ตะโกนลั่น เข้ามาที่ทำงาน .เค้าก็ตรงมาที่โต๊ะเรา เราก็อยู่นิ่ง..จิตอสูร ..มันมา .เหมือนทดสอบ เราก็อยู่นิ่งทำใจอยู่กับพระ .พูดในใจ ..คำว่า นี่อสุรกาย ..พอเรารู้จักเค้า เค้าก็ถอยออก คนนี้ก็หัวเราะ เดินออกไปจากที่ทำงาน น้องๆในที่ทำงาน เค้าก็มาถาม เราก็ได้แต่บอกว่า พวกจิตอสุรกาย ก็เป็นแบบนี้ เพราะบอกไปมาก เค้าก็ไม่เข้าใจ เพราะเค้าไม่สร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรมกัน ..
เคยทำงานหัวหน้า เป็นฝรั่ง เดินออกจากห้องเค้า พูดจาเสียงดัง ..เราก็เผลอไปมองหน้า แค่นั่นแหละ เค้าเดินมาทุบโต๊ะ ..เราก็นั่งนิ่งเฉยๆ ท่องพุทโธของเราไป .เค้าแสดง โขนเป็นตัวอสุร อารมณ์เกี้ยวกราด เราก็บอก ..เรารู้จักท่านน่ะ ไปแอบซ่อนในกายหุ่นที่เป็นมนุษย์ ..เค้าแสดงให้ดู แล้วก็กลับไป .ทุกอย่างก็เป็นปกติ . พวกอสุรกาย นี่ไม่ได้เขียว ..มองหน้านิดเดียว เป็นอันธพาล .หาว่าท้าทาย .แล้วเราก็ไปดูได้ ..เรื่องราวของการมิงหน้านิดเดียว โอ้ย ..มันเข่นฆ่ากันตายได้ .จะว่าน่าสงสาร หรือ น่าสมเพชดีน่ะ
..เวลามีการประชุม ในที่ทำงาน .บางคนพูดจาด้วยอารมณ์ เราก็อยู่นิ่ง .ไม่เอาตาไปมองเค้าเลย หัวหน้าเราก็น่าจะเป็นคนมีกรรมมาก สะสมตัวอารมณ์เยอะ .พออารมณ์ไม่พอใจเกิดขึ้น เสียงดัง ดังเหมือนอสูญ ..เราก็ก้มหน้า ไม่มองหน้า ..ท่องพุทโธๆ อสุรมันแสดงตัว .กำลังเล่นโขน .ออกโรง..ต้องแสดงให่สมบทบาทง.
คราวนี้ เราก็ดูลิเก ดูโขน ..เวลาประชุมสภา มีตัวอะไรออกมา มองดูหุ่นตุ๊กตาปั้นมาด้วยกรรม. แสดงละคร..เวลาดูก็ทำใจนิ่งๆ แบบตาชั่ง อย่าเอียง ..เอียงเมื่อไหร่ อารมณ์ก็จะปรุงแต่ง ก็เสียอารมณ์ที่ย่องเข้ามาในกายตนทุกทีไป ที่ดู .โขนเค้าเล่นกันในสภา .เราดูเพื่อจับตนค้นตน จับผิดอารมณ์นึกคิดในกายที่จิตอาศัย จะได้เอาออกมาหงาย ..มาพิจารณา อารมณ์ที่เกิดขึ้นในกาย มันเป็นทุกข์หรือเป็นสุข มันทำให้ต้องมีกรรมอย่างไร มีความยึดถืออย่างไร ดูให้ยาวไกล ถึงเรื่องราว เหตุที่ทำให้ต้องมาเกิดแก่เต็มตาย ..สมมุติ กับ วิมุตติ .
มีพระท่านเล่า เรื่องหลวงพ่อคงให้ฟัง ท่านเป็นหัวหน้าโจร สมัย ร ๕ พาสมุนเดินมา ถึงภูเขา แถวท่าวุ้ง ลพบุรี ท่านก็บอกลูกน้องให้แยกย้าย ท่านทิ้งปืนทิ้งมีด เงินทอง ไปบวข .อธิษฐานไม่ขอลืมตาดูโลกอีกเลย ท่านก็เป็นพระองค์หนึ่งเป็นพระวิมุตติ
..มีพระอีกองค์หนึ่ง เป็นคนจีน หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ๕๐๐ปี. ท่านก็ไปดู คนจน ทำไมถึงรวย อ้อ..เค้ามีขันติอดทน ทำมาหากิน ก็ร่ำรวย ไปดูลูกคนรวย ไม่มีขันติอดทน ต่อไปก็จน .ท่านก็บอกว่าที่เค้าทำอะไรสำเร็จเพราะขันติอดทน ..ท่านก็หลบออกมา อยากจะพ้นทุกข์ ท่านก็ทำด้วยความขันติอดทน นั่งนิ่งๆ กายมันหิว ท่านก็เดินไปหาน้ำ ดื่มมันอึกเดียว ระยะทางร่วมสิบกิโล แล้วกลับมานั่งที่เดิม
..ท่านก็ทำอยู่อย่างนี้ ด้วยความขันติอดทนของจิตท่าน ความทุกข์มันเกิดขึ้น จิตท่านไม่ยึดทุกข์ แม้ตัวอยากพ้นทุกข์ ที่เป็นอารมณ์ ก็ไม่ให้เกิด ท่านขันติอดทน เพียรพยายาม ขัดสี จนกายนั่นเป็นแก้ว จิตเป็นแก้ว ธาตุทั้งสี่ บริสุทธิ์เป็นแก้วเจียระไน .จนวันหนึ่ง ท่านก็ได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เคยคุยกัยพระเรื่องการปฏิบัติธรรม คนจีนเค้ามีความอดทนสูง แต่เค้่าไปติดยึดเรื่องราวอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ก็เลยไปไหนไม่ได้ .ก็เพลิดเพลินในอิทธิฤทธิ์โลกีย์ ชำระสะสางจิตให้พ้นทุกข์ไม่ได้ .
ก็ขอนอบน้อมอาราธนาเรื่องพระศรีอริยะเมตตไตรย ท่านเกิดมาดูเรื่องราวของโลก พอท่านบวช ท่านก็เดินจงกรม ท่านบอกว่า ท่านจงกรม ไปมา ขึ้นสวรรค์วิมานไปเลย .นั่นคือ จิตของผู้ที่มีบุญบารมีอันสูงส่ง ที่จะเกิดมาเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ ส่องสว่างให้แก่จิตที่ สะสมบุญกุศลเกิดมาทันยุคต้นสมัย ศาสนาองค์พระศรีอริยะเมตตไตรย . มีจิตดวงใด จะได้คัดสรรสะสมบุญบารมี ได้เกิดพบท่าน ต้นศาสนาของท่านบ้างหนอ ใครจะตามท่าน ก็ทำตาม ตามรอยพระพี่ชายท่านไป ก็จะได้ไปเกิดในยุคของท่าน
ที่เล่าเขียนมาทั้งหมด เป็นเรื่องสมมุติทั่งนั้นเลย .ต้องกลั่นกรอง เหตุผล ที่จิตของตัวเอง .ไม่มีใครแก้ไขไห้กันได้ ในคำว่า จิต .อาศัยในกายมนุษย์ชั่วขณะหนึ่ง
จิตมาอาศัยกายมนุษย์.ที่เค้าให้สติปัญญามา มาแก้ไขเรื่องราวความยึดถืออารมณ์ต่างๆ สลัดทิ้งไป ด้วยการใช้สติสัมปชัญญะ มาเรียนรู้ ปฏิบัติธรรมตามรอยพระ . ที่ต้องหมั่นตรวจตัวเอง พิจารณาทั้งเห็นผล ทำความเข้าใจ ต้องลงมือปฏิบัติขึ้นมา .ในธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เช่นนั้น เราก็ได้แค่สิ่งที่อารมณ์สมมุติให้ อุปโลกน์ให้ ..ธรรมะท่านต้องการคนจริง ทำให้มันจริงๆขึ้นมา ในคำว่า อาศัยกายมนุษย์ สร้างบุญกุศลบารมี คัดเอ้าท์กรรม หนีเวรกรรม
โฆษณา