22 ต.ค. เวลา 18:52 • ปรัชญา
เรื่องราวของจิต ที่จะไปไปเรียนรู้จัก เรื่องราวของอารมณ์ นั่น มันต้องอาศัยการประพฤติปฏิบัติธรรม เคยลงไว้ เรื่องราวของที่ว่า จิตเหนืออารมณ์ไว้ เค้าทำอย่างไร ที่เอามาลงไว้ เป็นเรื่องราวที่พระท่านแนะนาบอกให้ https://www.blockdit.com/posts/5f3f591a44419911479308c0
1
จิตนั้นอยู่ภายในกาย เมื่อมาศึกษา เรียนรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้นที่กาย เค้าก็ตองอาศัย ทำให้จิตนั้นมีแสงเกิดขึ้น เหมือนมีไฟฉาย ส่ิองดู อารมณ์ที่เกิดขึ้นภายในกายตน เช่น อารมณ์โลภโกรธหลง ทำอย่างไร จะให้จิตเรา มีแสงขึ้นมา เพราะ อารมณ์นั้นก็เป็นนามธรรม จิตก็เป็นนามธรรม เราจึงภาวนา ให้รู้จัก จิตที่ เป็นหนึ่ง ทำให้กายนิ่ง จิตนิ่งให้ได้ เมือทำได้ มีขันติเกิดขึ้น
1
ตรงนี้ที่กายนี้ พระท่านว่า จะเกิดสิ่งหนึ่ง ตรงนี้ก็ช่วยใหจิตนั้นมีแสงสว่างเกิดขึ้น จิตก็ค่อยเรียนรู้เรื่องอารมณ์ ที่จะแสดงมาออกมาเกิดขึ้นที่กาย มีทั้งสีต่างๆเกิดขึ้น ที่เค้า เรียก จิตรู้จักกรรม ที่เป็นสีดำสีม่วง สีกรม สีเชือดเเฉือน ไปจนสื่งที่เรียกว่า ตัวกระทำ ทที่เค้าเรียกว่า จิตเดินตามอารมณ์กรรมตัวกระที่เกิดขึ้นที่กาย แล้วก็จะมีเรื่องราว ที่ว่า กายสอนจิต กายบิดามารดา สอนจืตลูกที่อาศัยอยู่ในกายของบิดามารดา เรื่องราว ธรรมสอนจิตให้รู้จักอารมณ์
1
เรื่องหนึ่ง เรื่อง..ธรรม สอน รูป ..กับ รูป สอน ธรรม จิตเราต้องมีกำลังด้วย หากจิตอ่อน หนอนมันไชเอา ..ก็อารมณ์ทิฐิ ตัวไม่ยอมต่าง เรื่อวโลกธรรมจะไหลเข้ามา ห้อมล้อมจิต ดีใจ เสียใจ
3
เมื่อเรา ไปเจอะเจอ คนที่ใช้อารมณ์กรรมตัว กระทำต่างๆ น้ำเสียง ที่ออกมาจากกิริยาท่าทาง กายวาจาใจ ที่ผู้นั้นแสดง คนใกล้ชิด แสดงออกมา เมื่อเราสามารถ ทำกายให้นิ่งได้ จิตนิ่งได้ เราก็อยู่นิ่ง ทำจิตนิ่ง ระมัดระวังวิญญาณตาหู ที่เราไปสัมผัส ให้นิ่ง ที่เค้าเรียกว่า สำรวมอินทรีย์ ..ต้องไม่เห็นเค้าผิดเลย เพราะเค้าไม่รู้จักอารมณ์กรรมตัวกระทำ
1
เมื่อเราทำจิตนิ่งได้ เหมือนที่เราฝึกหัด นั่งสมาธิ กายนิ่ง จิตเฉย เราก็นำมาใช้ .เหมืิอน สมมติ ตัวเราเป็นธรรม อยู่นิ่่งๆ เฉยๆ เหมือนพระปฏิมากร ..ภาวนาพุทโธ ในใจ ประคองจิตให้อยู่กับพระ แล้วเราก็ดู เค้าเรียกว่า ตัวกระทำ ที่เค้าแสดงออกมา เนื่องด้วยอารมณ์กรรมตัวกระทำ
เค้าจะแสดง ตัวเป็น อะไร ..ตัวตำหนิติเตียน ตัวอิจฉา ตัวเห็นแก่ได้ ตัวเห็นแก่ตัว ตัวเยอยิ่งจองหอง ตัวปั่นป่วน ตัวกระแนะกระแหน ตัวเห็นตัวเองดีแล้ว ตัวประจบสอพลอ .ตัวข่มแหงรักแก ตัวสับสนวุ่นวาย ..ตัวรัก ตัวหลง ตัวราคะ ตัวตัณหา ตัวอยาก . เราก็ต้องทำจิตให้เที่ยง ฝึกหัด อ่านอารมณ์กรรมตัวกระทำ ที่คนเค้าแสดง .
1
คราวนี้ ในการดู เราก็ต้องมีการ มาประพฤติปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ กายนิ่ง จิตนิ่ง เพื่อทบทวนตัวเอง ว่าสิ่งที่เราดู นั่นมันเรื่องราวของอารมณ์ที่เกิดขึ้น ..แล้วตัวเราเอง ใช้อารมณ์กรรมตัวกระทำ พฤติกรรมกายวาจาใจเยี่ยงเค้า ที่แสดงให้เราดูมั้ย เราเห็นว่า ดีหรือไม่ดี ก็ใคร่ครวญพิจารณา ว่า เค้ามีสติสัมปชัญญะมั้ย ในขณที่ใช้กายวาจาใจไปตามอารมณ์ เค้ามีความรู้สึกตัวมั้ย จิตเค้ารู้จักกรรมมั้ย ที่ใช้อารมณ์ ..สิ่งที่เค้าใช้ หรือเราใช้ ก็มีการบันทึกลงไปที่ธาตทั้งสี่ .เป็นหลักฐานกรรม
1
คนที่ใช้อารมณ์มาก ก็กรรมมาก คนที่มีอารมณ์โกรธ ขุ่นมัวหงุดหงิด ..เราก็ลงไป นั่งใกล้ นั่งนิ่ง จิตเฉยดู ..ดูกายที่กายเรานิ่ง มีความรู้สึกอย่างไร มันทุกข์หรือสุข ทดลองดู .แต่นั่นแหละ สิ่งสำคัญ เราต้อง..เอาอารมณ์นั่น..ที่เราสัมผัสรับมา เอามันออกจากตัวเราเป็น หากเปรียบเทียบ ก็นเหมือนผ้าขาว ไปคลุกฝุนคลุกโคลน ต้องมาซักทำความสะอาด เราก็ต้องทำให้เป็น ทำได้ด้วย ไม่เข่นนั้น ผ้ามันก็สกปรกอยู่อย่างนั้น เหมือนผ้าขี้ริ้วไม่ได้ซักทำความสะอาด
1
เรื่องของการดูจิต ศึกษาอารมณ์ ในตัวตนนั้น เค้าต้องทำให้จิต นั่น ..เค้าเรียกว่า จิตมีสติสัมปชัญญะ นิ่งได้ จิตเป็นมัชฌิมาได้ หากเรา ฝึกสมาธิ ทำจิตเป็นเอกกัคคตาจิตได้ จิตมีแสงขึ้น มักำลังขึ้น แล้วก็สร้างบุญกุศล เป็นนิจสิน ให้บุญหนุนนำ ธาตทั้งสอง พระแม่ทั้งสี่ ขึ้นมา เราก็จะค่อยๆ เรียนรู้เรื่องราวของอารมณ์ได้ชัดเจนขึ้น
1
โฆษณา