Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Vate's Pharma Scope
•
ติดตาม
24 ต.ค. เวลา 13:30 • สุขภาพ
เบาหวานทำ "สมองเสื่อม" นักวิจัยไขปริศนาครั้งใหญ่ พบเสี่ยงสูงกว่าคนปกติ 2 เท่า
ผมพบว่ามีภาพจำอย่างหนึ่งที่ฝังแน่นอยู่ในความคิดของผู้คนส่วนใหญ่เกี่ยวกับโรคเบาหวานนั่นคือภาพของภาวะแทรกซ้อนที่มักจะเกิดขึ้นกับ "ตา ไต และเท้า" ควบคู่ไปกับความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นความจริงที่ถูกต้องและน่ากังวลอย่างยิ่งครับ
แต่ถ้าผมจะบอกว่า มีภัยเงียบอีกชนิดหนึ่งที่กำลังคืบคลานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวนี้ และมันโจมตีอวัยวะที่ล้ำค่าที่สุดของเรา นั่นคือสมองและความทรงจำ เราจะทำอย่างไร
วันนี้ ผมมีเรื่องราวจากการประชุมครั้งสำคัญของสมาคมโรคเบาหวานแห่งยุโรปมาแบ่งปันครับ
มันคือการปะติดปะต่อชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์จากงานวิจัยขนาดใหญ่หลายชิ้น ที่กำลังจะวาดภาพความสัมพันธ์อันน่าตกใจระหว่างเบาหวานกับภาวะสมองเสื่อม (Dementia) ให้ชัดเจนขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา และภาพที่ปรากฏออกมานั้นก็ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยดังลั่นไปทั่ววงการแพทย์ มันคือหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าโรคเบาหวาน ไม่ว่าจะชนิดที่ 1 หรือชนิดที่ 2 ล้วนมีความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งกับการเสื่อมถอยของสมอง และอาจเป็นตัวเร่งให้เราสูญเสียความทรงจำไปเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
เรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มต้นขึ้นจากการสังเกตเห็นแนวโน้มที่น่าสนใจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วครับ รูปแบบของภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่เคยเป็นแบบเดิมๆ กำลังค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป ปัญหาใหม่ๆ อย่างมะเร็ง, โรคตับ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะสมองเสื่อม ได้กลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบได้บ่อยขึ้นอย่างน่าประหลาดใจในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน
เพื่อที่จะพิสูจน์ข้อสังเกตนี้ นักวิทยาศาสตร์จึงได้ริเริ่มการศึกษาข้ามชาติครั้งใหญ่ที่กินเวลายาวนานถึง 20 ปี รวบรวมข้อมูลจากประชากรหลายสิบล้านคนใน 6 ประเทศ
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นชัดเจนและน่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะมันแสดงให้เห็นว่า หลังจากอายุ 80 ปีขึ้นไป อัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับภาวะสมองเสื่อมในกลุ่มผู้ที่เป็นเบาหวานนั้น สูงกว่ากลุ่มคนที่ไม่เป็นเบาหวานอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือหลักฐานชิ้นแรกที่ตอกย้ำว่าเบาหวานและสมองเสื่อมอาจไม่ได้เป็นเพียงแค่โรคที่เกิดขึ้นพร้อมกันโดยบังเอิญ แต่มันอาจเป็นเพื่อนร่วมทางที่ส่งผลกระทบซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง
แม้ว่าเราจะพอทราบกันมาบ้างแล้วว่าเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมได้ราว 1.5 ถึง 2 เท่า แต่ความสัมพันธ์ในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งมักจะเริ่มเป็นตั้งแต่อายุยังน้อย ยังคงเป็นปริศนาที่ต้องการคำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ และการศึกษาชิ้นล่าสุดจากประเทศสวีเดนก็ได้มอบคำตอบนั้นให้กับเราอย่างน่าตกใจครับ
จากการติดตามผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 กว่า 43,000 คน เป็นระยะเวลานานกว่า 14 ปี นักวิจัยพบว่าคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมจากทุกสาเหตุสูงกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า เลยทีเดียว และเมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียด ก็พบว่าความเสี่ยงของสมองเสื่อมจากหลอดเลือด (Vascular dementia) นั้นพุ่งสูงขึ้นเกือบ 4 เท่า ซึ่งเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง เพราะเราต่างรู้ดีว่าเบาหวานคือตัวการสำคัญที่ทำลายหลอดเลือดทั่วร่างกาย และแน่นอนว่าหลอดเลือดฝอยที่บอบบางในสมองก็ย่อมหนีไม่พ้นชะตากรรมนี้เช่นกัน
ที่สำคัญไปกว่านั้น การศึกษายังได้ยืนยันความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างระดับ "น้ำตาลสะสม" (A1c) กับความเสี่ยงของสมองเสื่อม ซึ่งเป็นข้อความที่ดังและชัดเจนว่า ยิ่งเราควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดีเท่าไหร่ สมองของเราก็ยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
แล้วอะไรคือกลไกที่เชื่อมโยงจุดสองจุดนี้เข้าด้วยกัน หนึ่งในผู้ต้องสงสัยคนสำคัญที่นักวิทยาศาสตร์กำลังให้ความสนใจคือการอักเสบเรื้อรัง เป็นที่ทราบกันดีว่าโรคเบาหวานมักจะทำให้ร่างกายตกอยู่ในสภาวะอักเสบในระดับต่ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
แต่ล่าสุด การศึกษาที่ชื่อว่า REVADIAB ได้ทำการทดลองที่น่าสนใจโดยการวัดระดับ สารบ่งชี้การอักเสบในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ควบคู่ไปกับการทดสอบความสามารถทางปัญญาอย่างละเอียด
และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่หายไป พวกเขาพบว่าผู้ป่วยที่มีระดับของ เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดมอนอไซต์ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ ต่ำกว่า กลับมีคะแนนความสามารถทางปัญญาสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือหลักฐานชิ้นแรกๆ ที่บ่งชี้ว่าการอักเสบที่เกิดจากเบาหวาน อาจไม่ได้ทำร้ายแค่หลอดเลือด
แต่ยังอาจเข้าไปรบกวนการทำงานของเซลล์สมองของเราโดยตรง และอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าที่บอกถึงความเสื่อมถอยของสมองที่กำลังจะเกิดขึ้นได้
แม้ว่าภาพรวมทั้งหมดจะดูน่ากังวล แต่ในความมืดมิดก็ยังคงมีแสงสว่างแห่งความหวังอยู่ครับ เพราะการค้นพบเหล่านี้ได้ย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ผู้ป่วยเบาหวานทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้
การควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมายยังคงเป็นหัวใจที่สำคัญที่สุด แต่มันไม่ใช่เพียงเรื่องเดียวอีกต่อไป เราต้องหันมาใส่ใจกับการควบคุมความดันโลหิต ไขมัน และน้ำหนักตัวอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพสมองตั้งแต่เนิ่นๆ
หากคุณหรือคนในครอบครัวเป็นเบาหวานและเริ่มสังเกตเห็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับความจำหรือการคิด อย่าได้ลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ เพราะการตรวจพบปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ อาจช่วยให้เราสามารถชะลอความเสื่อมและวางแผนการดูแลในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้นครับ
แหล่งอ้างอิง:
Raffier, N. (2025, October 23). Is Diabetes Linked to Dementia? Latest Evidence Revealed. Medscape.
เภสัชกรรม
การแพทย์
สุขภาพ
บันทึก
6
1
1
6
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย