Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าเมาเมาแมน
•
ติดตาม
27 ต.ค. เวลา 11:15 • การเมือง
รูปนี้ …โคตรแพง …
แม้ว่าทรัมป์จะบอกว่ามาเป็นสักขีพยาน
ในข้อตกลงหยุดยิงของไทย กัมพูชา ในการประชุมอาเซียน
แต่หลังจากทุกอย่างจบลง
ประเด็นที่คนไทยควรสนใจ
กลับไม่ใช่เรื่องชายแดนไทยกัมพูชา
แต่เป็นเรื่องข้อตกลงทางการค้า ระหว่างไทย-สหรัฐ ต่างหาก
…ซึ่งบอกได้เลย ว่าน่าห่วง…
…มาาากกกก…..
จากข้อมูลที่ทางสหรัฐเปิดเผยมาตามเนื้อข่าว
ก็จะขอสรุปสั้นๆ เป็นรายประเด็น ส่วนเนื้อข่าวตัวเต็ม
ก็ตามลิ้งค์ข้างล่างนะครับ…
1) ไทยต้องลด(ยกเลิก) ภาษีกีดกันการค้าของสหรัฐ
แลกกับการที่สหรัฐ จะปลดล็อกภาษีสินค้าตามรายการ
ภาคผนวก3 ให้เป็น 0% ส่วนภาษีตอบโต้ของสหรัฐใน
ภาพรวมต่อไทย จะยังเป็น 19% เหมือนเดิม
2) ไทยต้องแก้ไขกฎระเบียบบางอย่าง ที่ใช้กีดกันสินค้า
สหรัฐ เช่น การตั้งมาตรฐานมลพิษรถยนต์ หรือ มาตรฐาน
ความปลอดภัย ด้านอาหาร ยา ให้สอดคล้องกับสหรัฐ
และเปิดช่องให้นำเข้าเอธานอล จากสหรัฐได้
3) ปฏิบัติตามข้อกฎหมายแรงงาน ตามหลักสากล
ในแง่เสรีภาพ สวัสดิการต่างๆ
4) จัดการอย่างเข้มงวด เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ลิขสิทธิ์
5) ไม่เก็บการบริการด้านภาษีดิจิตอลต่างๆ ต่อสินค้า
และบริการของสหรัฐ รวมถึงทบทวนแก้ไขสัดส่วนการถือหุ้น
ของบริการดิจิตอลต่างๆของสหรัฐในประเทศไทย
6) ป้องกันการบิดเบือนทางการค้าของรัฐวิสาหกิจ
ให้เป็นไปตามหลักสากล
(กรณีนี้น่าจะหมายถึง รัฐวิสาหกิจจะต้องไม่แข่งขันกับเอกชน ตามกฎ WTO ซึ่งไทยโดนเพ่งเล็งมานานแล้ว เช่นเดียวกับจีน)
7) การประกันความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปาทาน เช่น การต่อต้าน
การค้าที่ไม่เป็นธรรมของประเทศที่สาม
8) ข้อตกลงการซื้อสินค้าระหว่างกัน โดยไทยจะซื้อสินค้าสหรัฐ
เช่น ธัญพืชอาหารสัตว์ และผลผลิตทางการเกษตรบางรายการ
, พลังงาน และเครื่องบินโดยสาร 80 ลำจากสหรัฐ
1
…โดยข้อตกลงทั้งหมด จะเร่งให้มีการลงนาม เพื่อผลบังคับใช้
โดยเร็วหลังจากนี้ ซึ่งคาดว่าไม่กี่สัปดาห์จากนี้…
(จริงๆทั้งหมดมี 11 ข้อ แต่เนื่องจากบางหัวข้อ ไม่ใช่สาระอะไรนัก เช่นเรื่องสวัสดิภาพแรงงาน มาตรฐานสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำกันปกตอยู่แล้ว ผมจึงตัดออก รายละเอียด มีในลิ้งค์ข่าวครับ)
ตอนนี้ที่สังคมไทยวิจารณ์มากที่สุด คงเป็นในส่วนของ
การตกลงเรื่องแร่หายากหรือ rare earth
ซึ่งเป็นรายละเอียดย่อย จากข้อตกลงการค้าด้านการรักษา
ความมั่นคงของห่วงโซ่อุปาทาน
ซึ่งส่วนนี้ น่าจะมาจากการที่สหรัฐต้องปัองกันการผูกขาด
แร่หายากของจีน ที่มีความไม่แน่นอนสูง จากปัญหาทาง
ด้านภูมิรัฐศาสตร์ และการเมืองระหว่างประเทศ
ในสว่นประเด็นการไม่เห็นของคนไทย มีหลายเหตุผล
ทั้งแนวการเมืองนำ ว่าเกรงจะมีปัญหากับจีน
หรือห่วงว่าสหรัฐจะมากอบโกย เนื่องจากไทยไม่มีขีดความสามารถ ที่จะขุดและแยกแร่เหล่านี้ได้เอง
ไปจนถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการทำเหมืองแร่
rare earth เหล่านี้ สร้างมลพิษมาก เข่นตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้น
ในจีน และหลายแห่งในแอฟริกาปัจจุบัน
เรื่องนี้ ถ้าถามว่าน่าห่วงไหม
ส่วนตัวผมมองว่า แค่”ระดับหนึ่ง” แต่ไม่ใช่อะไรที่น่ากลัวนัก
เพราะเมื่อเราไม่มีศักยภาพในการสำรวจ ไปจนถึงการแยกแร่
มาเพื่อสร้างผลประโยชน์ของประเทศชาติได้ด้วยตัวเอง
มันก็เป็นปกติที่เราจะต้องยืมมือคนอื่น
เพื่อนำมาแปรเปลี่ยนให้เป็นเงินทองเข้าสู่ประเทศ
มาเพื่อใช้ในการพัฒนาในด้านอื่น
ขอเพียงไทยอย่าไปโง่ ทำสัญญาแบ่งปันแบบเสียเปรียบ
และรักษามาตรฐานการควบคุมมลพิษให้ดี ก็ใช้ได้
…ซึ่งถ้าพูดถึงการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม สหรัฐนั้นค่อนข้าง
ที่จะมีมาตรฐานดีกว่าจีน ที่อาจเข้ามาลงทุน โดยเราจะเห็นว่า
เหมืองจีนในแอฟริกานั้นสร้างปัญหาไว้ค่อนข้างหนัก
และโรงงานจีนในไทยเอง ก็วางมาตรฐานไว้แย่ ประวัติไม่ดี
มาตรฐานสหรัฐมันจึงพอจะไว้ใจได้มากกว่าในระดับหนึ่ง สำคัญว่าคนของเราเองนั่นแหละที่จะต้องไม่หย่อนยาน
หรือสร้างความเสียหายด้วยการคอรัปชั่น…
และการร่วมมือกับสหรัฐเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องที่ดีกว่าไปทางจีน
ซึ่งเป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว เพราะไม่งั้นเราจะไม่มีแต้มต่อรองในมือกับพวกเขาเลย …***
มันไม่ใช่การยกให้สหรัฐทั้งหมด แต่มันคือการร่วมลงทุน
ในสิ่งที่เราเองไม่สามารถทำได้ลำพัง และเมื่อมันจำเป็นต้องใช้
ไทยเองก็ต้องใช้อีกมาก มันจึงจำเป็นต้องให้เขามาช่วย
ผมจึงมองว่า มันเป็นเรื่องปกติ หากผลประโยชน์นั้นสมเหตุผล
…ที่พูดนี่คือ กรณีว่าถ้าเจอแร่จนคุ้มลงทุนในไทยนะ….
ผมไม่เห็นด้วยนัก กับการที่บางคนบอกว่า
ถ้าขุดเองหมดไม่ได้ก็ไม่ต้องขุด
เพราะเรามีบทเรียนมาแล้ว จากกรณีดึงแหล่งก๊าซมาทำเอง
แล้วไม่สามารถทำได้ตามเป้าจนถึงทุกวันนี้ จนต้องไปซื้อก๊าซ
เหลว ส่งผลให้ราคาพลังงานแพง สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบัน
และเทคโนโลยีทุกวันนี้ ไปเร็วมาก ของที่มีค่า ต้องการวันนี้
อีกไม่กี่ปี มูลค่ามันอาจลดลงอย่างรวดเร็วได้ เมื่อมีสิ่งทดแทน
ซึ่งทั่วโลก ก็วิจัยสิ่งทดแทน rare earth มาแล้วมากมาย
เพื่อรองรับความเสี่ยงด้านต่างๆ
เช่น กรณีของแบตเตอรี่ลิเธียม ทุกวันนี้ก็มีแบตเตอรี่
ประเภทอื่นขึ้นมาทดแทนมากมาย ลักษณะนี้เป็นต้น
…ขุดขาย ในวันที่มีค่า มันมีประโยชน์กว่า และระหว่างนั้น
เราก็ยังได้องค์ความรู้ด้านนี้ไว้เพื่อต่อยอดด้วย …
…เอาเงินมาพัฒนาประเทศทันที แล้วแปรเปลี่ยนเป็นการศึกษาดีๆ เหลือเป็นองค์ความรู้ คุณภาพชีวิตที่ดีไว้ให้ลูกหลาน…
…มันดีกว่าส่งมอบ หรือเก็บอะไรที่ไม่มีค่า ความเสี่ยงสูง
ไว้ให้เขาครับ ดูไอ้น้ำมัน ก๊าซนี่ก็ได้ หวงกันมาเป็นหลายสิบปีจนพอจะมาทำตอนนี้ราคามันก็แทบจะไม่คุ้มลงทุนไปแล้ว…
…อย่าให้ซ้ำรอยดีกว่าไหม?….
(รายละเอียด ข้อตกลงแร่หายาก)
bangkokbiznews.com
เปิดรายละเอียด MOU แร่สำคัญ ‘ไทย-สหรัฐ’ เราจะยกแร่ให้อเมริกา?
เปิดรายละเอียด MOU ทำความเข้าใจดีลแร่สำคัญระหว่าง ‘ไทย-สหรัฐ’ เราจะยกแร่ให้อเมริกา? ไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายแร่ธาตุที่สำคัญของโลก?
แต่สิ่งน่าเป็นห่วงที่สุด น่าจะเป็นเรื่องสินค้าเกษตรเสียมากกว่า
การตกลงเรื่องการยอมรับมาตรฐานทางการเกษตร
และอาหารของสหรัฐ ตามข้อตกลงที่สองนั้น
มันจะเปิดช่องให้เนื้อสัตว์อย่างหมู และเนื้อวัว
ที่เคยติดปัญหาสารเร่งเนื้อแดง ที่เราไม่ยอมรับ
อาจทะลักเข้าสู่บ้านเราได้ จนเกษตรกรเดือดร้อน
เรายื้อสหรัฐมานานมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่มาวันนี้ ทำท่าว่าจะเขื่อนแตกเสียแล้ว
แบบนี้ เกษตรกรเราตายแน่ๆ ทั้งรายใหญ่รายเล็ก
อีกส่วนที่ต้องระวัง เมื่อไปรับปากเขาแบบนี้
ก็คือในส่วนของพืช GMO ซึ่งทางสหรัฐนั้นยอมรับ
ในมาตรฐาน ในขณะที่เรายังไม่ได้อนุมัติแบบเต็มที่
มันอาจไม่น่าห่วง เรื่องกินแล้วเราจะกลายเป็นเอเลี่ยน
แบบที่นักทฤษฎีสมคบคิดชอบคิดกัน
แต่การมีพืชพันธุ์เหล่านี้เข้ามา ในอนาคต
มันจะทำให้พืชพันธุ์พื้นถิ่นของเรา อาจเกิดการกลายพันธุ์ได้
…ซึ่งนั่นจะเป็นหายนะทางระบบนิเวศน์ ที่ประเมินค่าเป็น
ตัวเลขเงินทองไม่ได้เลย และเมื่อมันเกิดขึ้น ก็ไม่สามารถเรียก
กลับได้อีกแล้ว เหมือนที่เกิดกับปลาหมอคางดำนั่นเอง….
ส่วนไอ้เครื่องบิน 80 ลำนั้น ผมก็ว่ารัฐบาลก็บ้าระห่ำเกินไป
ในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ เพราะมันเป็นเงินมากมาย
มหาศาลที่จะต้องกลายเป็นงบประมาณผูกพันไปอีกหลายสิบปี
…80 ลำ จะได้คืนคือ การบินไทยต้องเต็มทุกไฟลท์
และมาพร้อมค่าบำรุงรักษา อีกบานตะไทไปอีกหลายปี…
..เช่าเขา มันก็ดีอยู่แล้ว จนการบินไทยกลับมากำไร
จะไปซื้อมาให้มันเจ๊งรอบสองเหรอครับ ?….
มันควรหรือไม่ ที่รัฐบาลกึ่งรักษาการ เฉพาะกิจ
ที่ประกาศจะอยู่เพียงสี่เดือน จะมาตัดสินเรื่องนี้
….ก็ลองคิดดูกันครับ….
แม้จะยังเป็นแค่เพียงบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น
แล้วคุณอนุทินก็บอกว่า ถ้าไม่โอเค เราก็ไม่ต้องไปทำสัญญา
ให้มันมีผลทางปฏิบัติ…
แต่ ในความเป็นจริง เราคงทำแบบนั้นไม่ได้ทั้งหมด
เมื่อเรื่องดำเนินการมาถึงจุดที่ทางเขาแถลงแล้ว
การกลับคำ หักหน้าสหรัฐที่มีผู้นำบ้าๆอย่างทรัมป์
คิดว่ามันง่ายเหรอครับ ท่านนายกหนู ?
ใช่ ทำได้ แต่ผมว่าสหรัฐมันเอาคืนแน่ 19 % จะกลายเป็น
30% ได้ง่ายๆ ถ้าเราผิดคำพูดแบบนั้น
เรื่องนี้ ถ้าไม่ตกลงกันเบื้องต้นมาก่อน มันก็แล้วกันไป
แต่มาถึงตรงนี้แล้ว จะถอยคงยาก
และต้องคิดถึงสิ่งที่จะตามมาด้วย ถ้าจะเปลี่ยนแปลง
เสียหมดครับ ทีมเศรษฐกิจโปรไฟล์ดีกำลังเสี่ยงทำร้ายชาวบ้าน
โดยเฉพาะเกษตรกรตัวเล็กตัวนัอยนี่คงหนักแน่ ถ้าตามนี้หมด
…มันจะเหมือนที่เขาสังเกตตั้งแต่วันรับตำแหน่งแหละ…
…รัฐมนตรีเศรษฐี ที่มาทำงานเพื่อเศรษฐี…
…แล้วนี่เขาก็ไม่มองมาที่ชาวบ้านเลยจริงๆ…
คิดได้ไง ปลดล็อกสินค้าเกษตรแบบนั้น ทั้งที่โคตรเสียเปรียบ
แถมไอ้เอธานอลนี่ ก็มีผลกับราคาปาล์ม ราคาอ้อยอีก
…จะปลด 19% ช่วยผู้ส่งออกอย่างเดียวเลยเหรอ?….
…น่าผิดหวังครับ ดีแต่โปรไฟล์จริงๆ !!!….
(*** ที่มองว่า การตกลงเรื่อง rare earth กับสหรัฐนั้นดีกว่า
ไปทางจีน เนื่องจากว่า จีนนั้นเป็นรายใหญ่ที่แทบจะกำหนด
ตลาดได้ทั้งหมดอยู่แล้ว การไปทางเขาหรือให้เขามาลงทุน
นั่นจะทำให้เขายิ่งมีพาวเวอร์ในตลาดมากขึ้นไปอีก
การไปทางสหรัฐ ซึ่งมีแคนาดา ออสเตรเลีย ยูเครน
และรวมถึงสหรัฐเองที่มีแร่พวกนี้มากเช่นกันในมือ
จะช่วยให้เรามีอำนาจต่อรองได้มากกว่า
เพราะกับการผลิตแบบจีนแล้ว เราสู้ต้นทุนไม่ได้
แต่จะอย่างไร เราก็ผลิตได้ถูกกว่าฝรั่ง
การไปกับจีน คิดราคาแบบจีนซึ่งต้นทุนต่ำ
เราจะไม่ได้ผลประโยชน์มากเท่ากับขายฝรั่งครับ
…เรื่องนี้ก็คล้ายเหล็กแหละ อย่าซ้ำรอยดีกว่า …***)
ข่าว
https://www.tnnthailand.com/wealth/investment/215402/
สหรัฐอเมริกา
เศรษฐกิจ
ข่าวรอบโลก
บันทึก
19
2
4
19
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย