28 ต.ค. เวลา 06:10 • หนังสือ

เจ้าชายน้อย The Little Prince

เจ้าชายน้อย The Little Prince
เขียนโดย อ็องตวน เดอ แซงเต็กซูเปรี (Antoine de Saint-Exupéry)
ในโลกกว้างใหญ่แห่งจินตนาการ มีเรื่องราวหนึ่งที่ไม่เคยเก่าไปตามกาลเวลา “เจ้าชายน้อย” วรรณกรรมอมตะที่ดูเหมือนนิทานสำหรับเด็ก แต่เมื่ออ่านจริง ๆ กลับพูดถึงชีวิต ความเหงา และความหมายของความรักอย่างลึกซึ้ง
เรื่องราวเริ่มต้นจาก “นักบิน” ที่เครื่องบินตกกลางทะเลทรายในซาฮารา ขณะที่เขากำลังซ่อมเครื่องบินอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเด็กชายผมทองคนหนึ่งมาปรากฏตัวตรงหน้า เขาแต่งกายเรียบง่ายและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เด็กคนนั้นขอให้นักบิน “วาดรูปแกะให้หน่อย” นั่นคือ เจ้าชายน้อย ที่มาจากดาวเล็ก ๆ ชื่อว่า B-612
การเดินทางของเจ้าชายน้อย
เจ้าชายน้อยเล่าว่า เขาอาศัยอยู่บนดาวเล็ก ๆ เพียงลำพัง ดูแลภูเขาไฟสามลูก และดอกกุหลาบแสนสวยหนึ่งดอกที่เขารักและเอาใจใส่ แต่เพราะดอกกุหลาบชอบอวดดีและพูดจาเย่อหยิ่ง เจ้าชายน้อยจึงรู้สึกสับสนในความรัก และตัดสินใจออกเดินทางไปยังดวงดาวอื่น ๆ เพื่อค้นหาคำตอบของหัวใจ
ดาวดวงที่ 1 – ดาวของกษัตริย์
เจ้าชายน้อยพบ กษัตริย์ ที่อ้างว่ามีอำนาจเหนือทุกสิ่ง เขาสั่งสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่มีใครฟัง เพราะไม่มีใครอยู่บนดาวนั้นเลย เจ้าชายน้อยจึงได้เรียนรู้ว่า อำนาจที่แท้จริงต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงคำสั่ง
ดาวดวงที่ 2 – ดาวของคนหลงตัวเอง
ที่นี่ เขาพบชายผู้ชอบให้คนปรบมือและชมตนเองไม่หยุด ชายคนนั้นไม่สนใจใคร นอกจากเสียงชื่นชมของคนอื่น เจ้าชายน้อยจึงเห็นว่า คนที่ต้องการคำชมตลอดเวลา มักไม่เข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของตนเอง
ดาวดวงที่ 3 – ดาวของคนติดสุรา
เจ้าชายน้อยพบคนขี้เมา เขาดื่มเหล้าเพื่อลืมความอายที่ตัวเองดื่มเหล้า เป็นวงจรที่ไม่มีทางออก เจ้าชายน้อยได้เรียนรู้ว่า การหลบหนีปัญหาไม่ทำให้หายเศร้า แต่ยิ่งทำให้เราหลงทางในใจตัวเอง
ดาวดวงที่ 4 – ดาวของนักธุรกิจ
ชายบนดาวนี้เอาแต่จดตัวเลข เขาคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของดาวทั้งหมดบนฟ้า แต่ไม่เคยได้ดูดาวอย่างแท้จริง
เจ้าชายน้อยเข้าใจว่า การครอบครองโดยไม่รู้จักคุณค่า เป็นเพียงการนับของที่ไม่มีความหมาย
ดาวดวงที่ 5 – ดาวของคนจุดโคมไฟ
ชายคนนี้มีหน้าที่จุดและดับโคมไฟตามเวลา เขาทำงานหนักมาก เพราะดาวหมุนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องจุดไฟและดับไฟแทบไม่หยุด แม้เหนื่อยแต่เขาไม่เคยละเลยหน้าที่ เจ้าชายน้อยจึงชื่นชมเขามาก เพราะนี่คือคนเดียวที่ทำสิ่งมีประโยชน์ให้คนอื่นจริง ๆ
แสงไฟนั้นเปรียบเหมือนหัวใจของคนที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์และเสียสละ
ดาวดวงที่ 6 – ดาวของนักภูมิศาสตร์
นักภูมิศาสตร์บนดาวนี้จดแผนที่ของโลกต่าง ๆ แต่เขาไม่เคยออกไปสำรวจด้วยตัวเอง เขาเพียงฟังคำบอกเล่าของผู้อื่น เจ้าชายน้อยจึงตระหนักว่า ความรู้ไม่ใช่ทุกอย่าง การได้สัมผัสและเรียนรู้ด้วยตนเองสำคัญกว่า
นักภูมิศาสตร์แนะนำให้เจ้าชายน้อยไปเยี่ยม “โลก” เพราะเป็นดาวที่น่าสนใจที่สุด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่เปลี่ยนหัวใจของเขาไปตลอดกาล
ดาวดวงที่ 7 – โลก
โลกเป็นดาวที่ใหญ่และซับซ้อนกว่าทุกที่ที่เขาเคยเห็น เขาพบผู้คนมากมาย ทั้งคนเร่งรีบ คนหลงทาง และผู้ใหญ่ที่ไม่รู้ว่ากำลังมองหาอะไร
ในทะเลทราย เขาได้เจอ “งู” ที่พูดเป็นปริศนา งูบอกว่า “ข้าสามารถพาเจ้าให้กลับไปที่เดิมได้” งูเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ “ความตาย” หรือ “การกลับบ้าน” ที่ไม่ได้น่ากลัว แต่เป็นการกลับไปหาสิ่งที่รัก
ต่อมา เจ้าชายน้อยเดินไปจนพบ “สวนดอกกุหลาบ” ที่มีดอกไม้มากมายเหมือนกับดอกกุหลาบบนดาวของเขา เขารู้สึกเศร้า เพราะเคยคิดว่าดอกกุหลาบของตนพิเศษเพียงหนึ่งเดียว แต่ตอนนี้กลับพบว่ามีอยู่เต็มไปหมด
จนกระทั่งเขาได้พบกับ “สุนัขจิ้งจอก” ที่กลายมาเป็นเพื่อนคนสำคัญที่สุดของเขา
สุนัขจิ้งจอกสอนเขาว่า
“สิ่งสำคัญนั้น มองไม่เห็นด้วยตา แต่เห็นได้ด้วยใจ”
และยังบอกอีกว่า
“เจ้าจะต้องรับผิดชอบตลอดไป ต่อสิ่งที่เจ้าทำให้เชื่องแล้ว”
คำสอนนี้ทำให้เจ้าชายน้อยเข้าใจว่า ดอกกุหลาบของเขายังคงพิเศษที่สุดในจักรวาล เพราะเขา “ใช้เวลา” ดูแลมันด้วยหัวใจ นั่นคือความรักแท้จริง
การกลับบ้านของเจ้าชายน้อย
หลังจากอยู่กับนักบินในทะเลทรายและซ่อมเครื่องบินสำเร็จ เจ้าชายน้อยก็ตัดสินใจกลับดาวของตน งูช่วยเขาให้ “กลับบ้าน” ด้วยการกัดหนึ่งครั้ง นักบินเห็นเพียงร่างเล็ก ๆ ล้มลง และเมื่อเช้ามา เขาก็ไม่พบร่างของเจ้าชายน้อยอีกเลย
นักบินจึงเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน และเห็นดาวระยิบระยับ เขาคิดเสมอว่า เจ้าชายน้อยคงอยู่บนดาวของเขา และเสียงหัวเราะของเขาคงเดินทางมาถึงโลกผ่านแสงดาวเหล่านั้น
แง่คิดจากวรรณกรรม “เจ้าชายน้อย”
1. ความรักคือความรับผิดชอบ
เมื่อเรารักใครหรือสิ่งใด เราต้องดูแลและยอมรับในความไม่สมบูรณ์ของเขา เหมือนเจ้าชายน้อยกับดอกกุหลาบ
2. ผู้ใหญ่หลายคนลืมความเป็นเด็กในใจ
ผู้ใหญ่ในเรื่องแต่ละคนสะท้อนสังคมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ละเลยความรู้สึกแท้จริงของตน
1
3. สิ่งสำคัญมองไม่เห็นด้วยตา
คุณค่าที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์หรือสิ่งภายนอก แต่อยู่ที่ความผูกพันและความเข้าใจที่เกิดจากหัวใจ
บทส่งท้าย
“เจ้าชายน้อย” เป็นเรื่องราวที่อบอุ่น เศร้า และงดงามในเวลาเดียวกัน มันสอนให้เรากลับมามองโลกด้วยสายตาเด็ก สายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ความซื่อสัตย์ และหัวใจที่พร้อมจะรักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
เพราะบางที...
สิ่งที่เรามองหา อาจอยู่ในใจเรามาตลอด เพียงแต่เรา “โตเกินไป” จนลืมมองเห็นมันเท่านั้นเอง
โฆษณา