“มาดูโรเตรียมนับวันที่เหลือได้เลย” คำข่มขู่จากสหรัฐถึงเวเนซุเอลา
ก่อนหน้านี้สหรัฐเคยวางแผนจ้างหัวหน้านักบินของมาดูโรเพื่อ “หวังจี้เครื่องบิน” และ “ลักพาตัว” เขามาแล้ว
“ถ้าผมเป็นมาดูโร ผมคงมุ่งหน้าไปรัสเซียหรือจีนตอนนี้เลย” ริค สก็อตต์ วุฒิสมาชิกสหรัฐแห่งรัฐฟลอริดากล่าวให้สัมภาษณ์รายการ 60 Minutes เขาอธิบายว่าวันเวลาของมาดูโรใกล้จะมาถึงแล้ว “ต้องมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ทั้งภายในหรือภายนอก ผมคิดว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นซักอย่าง”
วุฒิสมาชิกรายนี้ไม่เชื่อว่าอเมริกาจะบุกเวเนซุเอลา อย่างไรก็ตามเขามั่นใจว่าการโค่นล้ม “นิโคลัส มาดูโร” จะเป็น “จุดจบของคิวบา” เช่นกัน ฟังคลิปตัวอย่างไฮไลท์การให้สัมภาษณ์ของเขาได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
ในทางกลับกัน พลเอกแจ็ค คีน แห่งกองทัพบกสหรัฐฯ ได้อธิบายกลยุทธ์ต่อเวเนซุเอลาของรัฐบาลทรัมป์ไว้ว่า “ผมคิดว่าเป้าหมายที่แท้จริงคือการบ่อนทำลายระบอบการปกครองของมาดูโร เพื่อกดดันเขา การแสดงกำลังทหารก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น วอชิงตันต้องการให้คนที่สนับสนุนระบอบการปกครองนี้คิดว่า มันคุ้มค่าที่จะสนับสนุนมาดูโรต่อไปหรือไม่?”
คีนยืนยันว่าแรงกดดันกำลังถูกนำมาใช้กับเวเนซุเอลาอย่างแน่นอน สิ่งนี้เห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะจากการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปยังชายฝั่งเวเนซุเอลา
“เราเข้าใจความหมายนี้ ภารกิจหลักดังกล่าวคือการโจมตีทางอากาศ มันมาพร้อมกับขีปนาวุธร่อน เพราะเรือบรรทุกเครื่องบินได้รับการคุ้มกันโดยเรือพิฆาต และเรือพิฆาตบางลำก็ประจำการอยู่ที่ฐานแล้ว พวกมันมีขีปนาวุธโทมาฮอว์กและขีปนาวุธร่อน ดูสิ ไม่มีสัญลักษณ์ใดที่บ่งบอกถึงความเหนือกว่าทางทหารของสหรัฐฯ ได้ดีไปกว่าเรือบรรทุกเครื่องบินอีกแล้ว นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของสารที่ต้องการส่งเช่นกัน”
เครดิตภาพ: STRINGER/AFP via Getty Images
ดังนั้นการกดดันทางจิตวิทยาต่อรัฐบาลเวเนซุเอลาผ่านการแสดงกำลังทหารที่สหรัฐฯ ริเริ่มขึ้น จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อบีบให้ประธานาธิบดี “นิโคลัส มาดูโร” ลงจากตำแหน่งโดยสมัครใจ แผนการขั้นต่ำคือการแบ่งแยกรัฐบาลเวเนซุเอลา สร้างความแตกแยก และพึ่งพาฝ่ายต่อต้านมาดูโรเพื่อก่อรัฐประหารโดยได้รับการสนับสนุนจากภายนอกโดยสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามอาจสันนิษฐานได้ว่าสถานการณ์ในอุดมคติสำหรับสหรัฐฯ ในเวเนซุเอลาคงไม่มีอยู่จริง มาดูโรน่าจะไม่หนีไปรัสเซียหรือจีน แผนการสมคบคิดมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะเคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่เป็นผลสำเร็จ
อย่างไรก็ตามเวเนซุเอลาอาจต้องการความช่วยเหลือภายนอกจากรัสเซียหรือจีน เป็นไปได้ว่าได้รับความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่ได้เป็นข่าวออกสื่อมากนักก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อนปูตินออกมาประกาศเรื่องข้อตกลงสนับสนุนด้านความมั่นคงกับเวเนซุเอลาแล้ว
ที่มาภาพ: The Latin Times วันที่ 27 ตุลาคม 2025
มาต่อกันที่อีกข่าวหนึ่งเกี่ยวข้องกัน เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ พยายามจะจ้างวานนักบินคนสำคัญประจำตัวประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา ให้มาช่วยส่งตัวมาดูโรไปยังสถานที่ที่สหรัฐกำหนด เหมือนเป็นการจับกุมตัวเขา เจ้าหน้าที่สหรัฐทั้งในปัจจุบันและอดีต รวมถึงบุคคลสำคัญฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา เปิดเผยกับสำนักข่าวเอพี
แผนการจ้างวานนักบินของประธานาธิบดีเวเนซุเอลาได้รับการวางแผนเพื่อนำมาปฏิบัติเมื่อเมษายน 2024 มีการเปิดเผยโดยในขณะนั้น “เอ็ดวิน โลเปซ” เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ วัย 50 ปี ทำงานเป็นผู้ช่วยทูตประจำสถานทูตสหรัฐฯ ในสาธารณรัฐโดมินิกัน
ผู้ให้ข้อมูลบอกเขาว่า เครื่องบินส่วนตัว Dassault Falcon 2000EX และ Dassault Falcon 900EX ราคาแพงสองลำ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเครื่องบินที่ใช้ประจำของมาดูโร กำลังอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงที่สนามบินในกรุงซานโตโดมิงโก เมืองหลวงของโดมินิกัน เครื่องบินทั้งสองลำมีนักบินประจำ 5 คน รวมถึงพลอากาศเอก บิตเนอร์ วิลเลกัส หัวหน้านักบินด้วย
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐได้สอบปากคำกลุ่มนักบิน โดยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์กับมาดูโรและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นของเวเนซุเอลา พวกเขาได้พูดคุยกับวิลเลกัสเป็นคนสุดท้าย ในตอนท้ายของการสนทนาโลเปซได้เสนอให้นักบินนำมาดูโรไปยังสถานที่ที่สามารถจับกุมตัวได้ โดยแลกกับรางวัลตอบแทนอย่างงาม นักบินได้รับเลือกให้ไปจุดหมายปลายทาง ได้แก่ สาธารณรัฐโดมินิกัน เปอร์โตริโก หรือฐานทัพสหรัฐที่อ่าวกวนตานาโม
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐเข้าตรวจและยึดอายัดเครื่องบิน Dassault Falcon ที่จอดซ่อมบำรุงในสนามบินของโดมินิกัน และสอบปากคำกลุ่มนักบินรวมถึงหัวหน้านักบิน “บิตเนอร์ วิลเลกัส” ที่มาภาพ: X, Marco Rubio
นักบินเวเนซุเอลาไม่ได้ให้คำตอบหรือรับปากอย่างชัดเจน แต่เขาได้ให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขาแก่โลเปซ เจ้าหน้าที่ถือว่านี่เป็นสัญญาณที่ดี นักบินได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับเวเนซุเอลา แต่เครื่องบินถูกยึดอายัดไว้ และต่อมาเครื่องบินถูกยึดภายใต้มาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศต่อเวเนซุเอลา
โลเปซติดต่อกับวิลเลกัสเป็นเวลา 16 เดือน เพื่อพยายามโน้มน้าวให้เขาส่งตัวมาดูโรมาให้สหรัฐตามแผน เขายังคงติดต่อกับนักบินคนดังกล่าวแม้หลังจากเกษียณอายุไปแล้วเมื่อกรกฎาคม 2025 และในเดือนสิงหาคมหลังจากที่สหรัฐฯ เพิ่มรางวัลสำหรับความช่วยเหลือในการจับกุมประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเป็น 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาก็ส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้กับหัวหน้านักบินคนดังกล่าว แต่ในที่สุดนักบินก็หยุดตอบกลับข้อความของโลเปซ (บ่งบอกว่า เขาไม่ต้องการทรยศมาดูโร)
แหล่งข่าวของหน่วยงานระบุว่า เมื่อเห็นได้ชัดว่าแผนดังกล่าวล้มเหลว เจ้าหน้าที่และสมาชิกคนอื่นๆ ของกลุ่มต่อต้านมาดูโรจึงตัดสินใจหันไปพยายามยั่วยุมาดูโรผู้นำเวเนซุเอลาแทน
เมื่อ 19 กันยายน 2025 “มาร์แชลล์ บิลลิงสลี” อดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสมัยแรกของทรัมป์ และมีความใกล้ชิดกับฝ่ายค้านเวเนซุเอลา ได้อวยพรวันเกิดให้กับวิลเลกัสบนโซเชียลมีเดีย เขายังโพสต์รูปภาพที่ถ่ายระหว่างการสนทนาระหว่างหัวหน้านักบินคนดังกล่าวกับโลเปซในสาธารณรัฐโดมินิกัน โดยตัดรูปเจ้าหน้าที่โลเปซออกไป ตามรูปด้านล่าง
ที่มาภาพ: X, Marshall S. Billingslea
สำนักข่าวเอพีอ้างว่าโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่หนึ่งนาทีก่อนเครื่องบินของมาดูโรขึ้นบินจากการากัส 20 นาทีต่อมา เครื่องบินก็บินวนกลับมายังสนามบินอย่างไม่คาดคิด
โพสต์ของบิลลิงสลีก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลของเวเนซุเอลา ฝ่ายตรงข้ามของมาดูโรคาดเดาว่าหัวหน้านักบินคนดังกล่าวได้รับคำสั่งให้ถูกเค้นสอบปากคำหาความจริงโดยทางการเวเนซุเอลา ขณะที่คนอื่นๆ เกรงว่าเขาอาจถูกจำคุก
ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับวิลเลกัสเป็นเวลาหลายวัน แล้วเมื่อ 24 กันยายน 2025 เขาก็ปรากฏตัวในรายการโฆษณาชวนเชื่อทางโทรทัศน์ ซึ่งพวกเขาพูดถึงความภักดีและความซื่อสัตย์ของกลุ่มนักบินชาวเวเนซุเอลา
ที่มาภาพ: https://x.com/Arr3ch0/status/1969128547026407474
ในบทความข่าวต้นเรื่อง สำนักข่าวเอพีเปรียบเทียบความพยายามในการจ้างวานนักบินคนนี้กับภาพยนตร์สายลับระทึกขวัญ “โดยภาพใหญ่แล้ว แผนการนี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาได้ทำงานอย่างขยันขันแข็งก็จริง และบ่อยครั้งก็ประมาทเลินเล่อมาหลายปีเพื่อโค่นล้มมาดูโร (แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ)” สำนักข่าวเอพีระบุ
เรียบเรียงโดย Right Style
29th Oct 2025
- ■อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: AP>
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
