Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
30 ต.ค. เวลา 09:29 • ประวัติศาสตร์
ความฝันในหอแดง 41 แม่นางตอ
คุณหนูใหญ่ 大姐儿 (ต้าเจี่ยเอ๋อ) บุตรสาวคนโตของพี่เฟิ่งป่วย เชิญหมอมาตรวจชีพจร หมอว่า
“ขอแสดงความยินดีกับไท่ไท่และคุณนาย คุณหนูใหญ่ตัวร้อนนี้พบเรื่องดี 见喜 (เป็นหัด)ไม่มีโรคแทรกซ้อน”
(เด็กเป็นหัดสมัยนั้นอันตราย ห้ามเรียกโดยตรงว่าเป็นหัด 疹 จะเลี่ยงพูดว่า พบเรื่องดี 见喜 หมอจึงแสดงความยินดี)
หวางฮูหยิน พี่เฟิ่งส่งคนมาถามข่าว
“แล้วหายหรือไม่”
หมอว่า “อาการดูน่าเป็นห่วงแต่ไม่มีปัญหา สำคัญต้องเตรียมหนอนไหมและหางหมู”
พี่เฟิ่งรีบจัดหาของและจัดแจงเรื่องที่จำเป็น สั่งให้เก็บกวาดห้องสำหรับไหว้เจ้าแม่โต้วชาง 痘疹娘娘 (痘 (โต้ว) อีสุกอีใส, 疹 (ชาง) หัด ) ห้ามคนในบ้านทำอาหารผัดและทอด ให้ผิงเอ๋อจัดที่นอนและเสื้อผ้าให้เจี่ยเหลียน 贾琏 นอนแยกห้อง แจกผ้าแดงให้แม่บ้านสาวใช้และคนใกล้ชิดไปตัดชุดใหม่สวมใส่ เก็บห้องข้างนอกให้สะอาดสะอ้าน สำหรับหมอสองคนมาพักแรมเพื่อคอยตรวจชีพจรเป็นเวลาสิบสองวันโดยไม่ต้องกลับบ้าน เจี่ยเหลียนจึงต้องย้ายออกมานอนห้องหนังสือ พี่เฟิ่งกับผิงเอ๋อสวดมนตร์ตามหวางฮูหยินไหว้เจ้าแม่ทุกวัน
เจี่ยเหลียนพอแยกห้องนอนกับพี่เฟิ่ง ก็เริ่มอยู่ไม่สุข นอนคนเดียวอยู่สองคืนมันเหลืออด จำต้องหาบ่าวไพร่หน้าตาหมดจดมาคลายเหงา
ในจวนหยงมีพ่อครัวขี้เหล้าเมาหยำเปอยู่คนหนึ่งชื่อ ตอกวน 多官 อ่อนแอไม่เอาไหน คนจึงเรียกว่า “หนอนทึ่มตอ 多浑虫” สองปีก่อนบิดาหาสะใภ้ให้คนหนึ่งเป็นหญิงสาวอายุยี่สิบ หน้าตาหมดจด ทั้งยังปล่อยตัว มักให้ท่าผู้ชาย หนอนทึ่มตอขอเพียงมีเนื้อมีเหล้ากิน อย่างอื่นไม่สนใจ นางจะทำอะไรก็ช่าง จึงเป็นทีของหนุ่มสองจวนหนิงหยง ด้วยความเจ้าชู้ของนางจึงเรียกขานว่า “แม่นางตอ 多姑娘儿”
เจี่ยเหลียนนั้นเคยเห็นนาง และน้ำลายสอมานานแล้วแต่ยังไม่ได้โอกาส ติดขัดที่ในบ้านก็เมีย ข้างนอกก็คู่ขา แม่นางตอก็หมายตาเจี่ยเหลียนเอาไว้ เห็นมานอนห่อเหี่ยวอยู่ห้องหนังสือสองคืน จึงมาเดินโฉบไปโฉบมาอยู่หลายรอบ เจี่ยเหลียนเหมือนหนูอดอยากก็นำเงินให้บ่าวรู้ใจไปนัดแนะ บ่าวย่อมเป็นใจด้วยมักคุ้นกับนางมาก่อน
คืนนั้นหนอนทึ่มตอเมาหลับบนเตียงผิง ยามสองตามนัด เจี่ยเหลียนลอบเข้ามาหานาง พอพบหน้าก็เหมือนสติไม่อยู่กับตัว ไม่พูดพล่ามทำเพลง ถอดเสื้อผ้าปฏิบัติกิจทันที
สตรีผู้นี้มีพรสวรรค์ เข้าใกล้ชายใดเป็นกระดูกอ่อนระทดระทวย ดังนอนบนผืนนวม ทั้งยังพร่ำสวาทมิขาดปาก ตอนหนึ่งนางว่า
“คุณหนูใหญ่ของพวกท่านออกหัด ต้องไหว้ขอพรเจ้าแม่ ท่านก็ควรงดกิจกรรมสักพัก อาจมาติดจากข้า รีบไปเสียจากที่นี่เถิด”
เจี่ยเหลียนขยับไป หอบหายใจไปว่า
“เจ้าก็คือ “เจ้าแม่” จะไปสนใจ “เจ้าแม่” ไหนอีก”
เจี่ยเหลียนออกอาการน่าสังเวช ทำนบแตกแล้วยังอาลัยอาวรณ์ พร่ำเรื่องชั่วฟ้าดินสลาย ภายหน้ายังมีสัญญานัดหมาย
พิษไข้ของคุณหนูใหญ่เริ่มดีขึ้น ผิวหนังเริ่มกลับมาเป็นปกติ ครบสิบสองวันบูชาส่งเสด็จ “เจ้าแม่” กราบไหว้บรรพบุรุษ จุดเครื่องหอม เสร็จพิธีต่าง ๆ คืนนั้นเจี่ยเหลียนย้ายกลับเข้าห้องนอน พบหน้าพี่เฟิ่ง กล่าวสูตรตามธรรมเนียมว่า “แต่งงานใหม่ไม่เหมือนจำพรากไกล 新婚不如远别” แล้วจึงร่วมภิรมย์
เช้าวันรุ่งขึ้น พี่เฟิ่งไปยังเรือนใหญ่ ผิงเอ๋อ 平儿 มาเก็บเสื้อผ้าที่นอนของเจี่ยเหลียนกลับไป ไม่คาดคิด พบเส้นผมดำปอยหนึ่ง ผิงเอ๋อนึกรู้ รีบเก็บซ่อนในแขนเสื้อแล้วเดินข้ามห้องมา เอาเส้นผมออกมาให้เจี่ยเหลียนดูแล้วหัวเราะว่า “สิ่งนี้คืออะไร”
พอเจี่ยเหลียนแลเห็น ก็รีบเข้ามาแย่ง ผิงเอ๋อวิ่งหลบ เจี่ยเหลียนคว้าตัวไว้ได้จับกดลงบนเตียงผิง แล้วเอื้อมมือจะมาชิงของไปจากมือ
ผิงเอ๋อหัวเราะว่า “ท่านนี่ไม่รู้จักบุญคุณ ข้าหวังดีปิดนางเอามาถามท่าน ท่านกลับร้ายกาจนัก ไว้ข้าจะฟ้องแล้วดูว่าท่านจะทำอย่างไร”
เจี่ยเหลียนยิ้มรีบอ้อนวอนว่า “คนดี เจ้าช่วยข้าที ข้าจะไม่ร้ายกาจอีก”
ไม่ทันขาดคำ ได้ยินเสียงพี่เฟิ่งกลับมา เจี่ยเหลียนจะปล่อยก็ไม่เชิง จะกดก็ไม่ใช่ รีบว่า
“คนดี อย่าให้นางรู้”
ผิงเอ๋อจึงรีบลุกขึ้น พี่เฟิ่งเดินเข้ามา ตะโกนบอกผิงเอ๋อว่า
“รีบเปิดหีบ หาตัวอย่างให้ไท่ไท่ที”
ผิงเอ๋อรับคำรีบไป
พี่เฟิ่งเห็นเจี่ยเหลียน พลันนึกขึ้นมาได้ ถามผิงเอ๋อว่า
“วันก่อน ของที่ขนออกไป เก็บกลับมาหมดหรือยัง”
ผิงเอ๋อว่า “เก็บมาแล้ว”
พี่เฟิ่งว่า “ขาดอะไรไปบ้างไหม”
ผิงเอ๋อว่า “ตรวจดูละเอียดแล้ว ไม่มีอะไรขาด”
พี่เฟิ่งว่า “มีอะไรเกินมาบ้างไหม”
ผิงเอ๋อว่า “ไม่ขาดก็พอแล้ว ยังจะมีอะไรงอกออกมาได้”
พี่เฟิ่งยิ้มว่า “สิบกว่าวันนี่ รับประกันไม่ได้ อาจจะมีคนสนิททำของตกหล่นอย่างแหวน ผ้าเช็ดหน้า ก็ไม่แน่”
เจี่ยเหลียนฟังแล้วหน้าเจื่อน ยืนอยู่หลังพี่เฟิ่ง มองมายังผิงเอ๋อ ทำท่าเชือดคอไก่ส่งสายตามาขอร้องให้ช่วยปกปิด
ผิงเอ๋อแกล้งทำเป็นไม่เห็น ยิ้มว่า
“ข้าก็คิดเหมือนคุณนาย กลัวว่าจะมีอะไรหลง ตั้งใจค้นดูแล้ว ไม่มีช่องโหว่สักนิด คุณนายไม่เชื่อ ลองค้นดูอีกที”
พี่เฟิ่งว่า “เด็กโง่ ถ้ามีของนี่ เขาจะให้พวกเราค้นเจอหรือ”
ว่าแล้วก็เอาตัวอย่างกลับออกไป
ผิงเอ๋อเอานิ้วชี้จมูก ส่ายหัวยิ้มว่า
“เรื่องนี้ ท่านจะขอบคุณข้าอย่างไร”
เจี่ยเหลียนหน้าระรื่น วิ่งเข้ามากอดนางแล้วว่า
“ยอดยาหยีผู้หลักแหลม”
ผิงเอ๋อถือปอยผมไว้ในมือหัวเราะว่า “ความลับชาตินี้ในกำมือข้า ทำดีก็แล้วไป ไม่ดีโลกคงได้เห็น”
เจี่ยเหลียนวิงวอนว่า “เจ้าเก็บเอาไว้ให้ดี อย่าให้ใครเห็นเป็นอันขาด”
ปากว่าไป ตาเล็งว่านางไม่ทันระวังก็ชิงเอามาเสีย หัวเราะว่า
“เจ้าถือไม่ดีเอง ข้าเผาทิ้งเสียสิ้นเรื่อง”
ว่าแล้วก็เหน็บลงในช่องเก็บของที่รองเท้า
ผิงเอ๋อกัดฟันว่า “คนคิดชั่ว ข้ามน้ำแล้วรื้อสะพาน ต่อไปอย่าหวังว่าข้าจะช่วยโกหกให้”
เจี่ยเหลียนต้องใจจริตจึงกอดนางไว้ขอมีสัมพันธ์ด้วย ผิงเอ๋อสะบัดมือแล้ววิ่งออกมาจากห้อง เจี่ยเหลียนงอเอวไม่สบอารมณ์ว่า
“อีเสเพลกะล่อนสมควรตาย มาแหย่ให้ไฟติดแล้ววิ่งหนี”
ผิงเอ๋อหัวเราะอยู่นอกหน้าต่างว่า
“ข้าเสเพลของข้า ใครใช้ให้จุดติด ถ้าตามใจท่าน แล้วนางรู้ ท่านคงไม่ได้เจอข้าอีก”
เจี่ยเหลียนว่า “เจ้าไม่ต้องกลัวนาง วันไหนข้าอารมณ์ดี ตีไหน้ำส้มนี่ให้แตกจะได้รู้จักข้าบ้าง เฝ้าข้าอย่างกับเฝ้าโจร นางคุยกับผู้ชายได้ แต่ไม่ยอมให้ข้าคุยกับผู้หญิง ข้าคุยหรือเข้าใกล้ผู้หญิง นางก็ระแวง แต่ตัวนางจะคุยกับอาหลาน แก่หนุ่มล้วนได้หมด วันหลัง ข้าจะห้ามนางเจอหน้าผู้คนบ้าง”
ผิงเอ๋อว่า “นางปรามท่านนั้นถูกแล้ว แต่ท่านหึงนางไม่ถูก นางไม่เคยล่อลวงใคร จะว่านางได้อย่างไร ท่านทำอะไรก็คิดไม่ซื่อ ข้าเองยังไม่ไว้ใจ อย่าว่าแต่นาง”
เจี่ยเหลียนว่า “ออ ช่างเถอะ พวกเจ้าทำอะไรก็ถูก ข้าทำอะไรก็ว่าคิดไม่ซื่อ สักวันข้าจะให้พวกเจ้าตายในอุ้งมือข้า”
พี่เฟิ่งเดินกลับเข้ามาในลานบ้าน เห็นผิงเอ๋อยืนคุยนอกหน้าต่าง จึงถามว่า
“จะคุยกัน ทำไมไม่คุยกันในห้อง มาเอะอะข้ามหน้าต่าง มีเรื่องอะไรกัน”
เจี่ยเหลียนอยู่ในห้องต่อคำว่า “เจ้าก็ถามนางสิ อย่างกับในห้องมีเสือจะกินนาง”
ผิงเอ๋อว่า “ในห้องไม่มีใครสักคน จะให้ข้าอยู่กับเขาหรือ”
พี่เฟิ่งยิ้มว่า “ไม่มีคนก็สะดวกสิ”
ผิงเอ๋อได้ฟัง ก็ถามว่า “ที่พูดนี่ หมายถึงข้าหรือ”
พี่เฟิ่งยิ้มว่า “ไม่หมายถึงเจ้า แล้วจะหมายถึงใคร”
ผิงเอ๋อว่า “อย่าให้ข้าพูดดีกว่า”
ว่าแล้วก็ตะบึงตะบอนไปเสียอีกทาง แม้แต่ม่านก็ไม่แหวกให้พี่เฟิ่ง
พี่เฟิ่งแหวกม่านเข้าห้องมาเอง พูดว่า
“นางมารผิงเอ๋อนี่บ้าไปแล้ว แม้แต่ข้ายังคิดจะมากำราบ ท่านก็ต้องระวังตัวไว้บ้าง”
เจี่ยเหลียนเอนตัวอยู่บนเตียงผิง ปรบมือหัวเราะว่า
“ข้าไม้รู้ว่าผิงเอ๋อร้ายกาจอย่างนี้ ต่อไปยังต้องยอมนาง”
พี่เฟิ่งว่า “เป็นเพราะท่านคอยให้ท้ายนาง เดี๋ยวข้าจะคิดบัญชีกับนางเอง”
เจี่ยเหลียนว่า “พวกเจ้าสองคนไม่ถูกกัน ก็เอาข้าเป็นที่รองรับอารมณ์ ข้าหลบไปดีกว่า”
พี่เฟิ่งว่า “ท่านจะหลบไปไหน”
เจี่ยเหลียนว่า “ข้าย่อมมีที่ไปของข้า”
แล้วจะเดินออกไป
พี่เฟิ่งว่า “ท่านอย่าเพิ่งไป ข้ามีเรื่องจะคุยด้วย”
(จบบทที่ยี่สิบเอ็ด)
ตอนก่อนหน้า : คัมภีร์หนานหัว
https://www.blockdit.com/posts/68ff3ba00b2b2e31c93aa0df
ตอนถัดไป : วันเกิดเป่าไช
บันทึก
8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ความฝันในหอแดง
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย