เมื่อวาน เวลา 07:13 • สุขภาพ

🤯ยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่งกับการเกิดภาวะสับสนเฉียบพลัน (Delirium) ในผู้สูงอายุ

การศึกษาแบบภาคตัดขวางขนาดใหญ่ (Crosssectional study) ที่ตีพิมพ์ใน Journal of the American Geriatrics Society เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ชี้ให้เห็นว่า ผู้สูงอายุที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีการสั่งจ่ายยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่ง (First-Generation Antihistamines) บ่อยครั้ง มีแนวโน้มที่จะประสบกับภาวะสับสนเฉียบพลัน (delirium) ในโรงพยาบาลสูงกว่า
การศึกษานี้ใช้ข้อได้เปรียบจากการที่ผู้ป่วยถูกจัดสรรไปยังแพทย์เจ้าของไข้แบบกึ่งสุ่ม (quasirandomized) ซึ่งช่วยลดอคติของการบ่งชี้ (confounding by indication) ที่พบได้ในการศึกษาเชิงสังเกตอื่น ๆ
▶️ภูมิหลัง
งานวิจัยขนาดเล็กก่อนหน้านี้ได้รายงานความสัมพันธ์ระหว่าง ยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่ง กับภาวะสับสนเฉียบพลัน แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ายาเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเกิด Delirium ที่มีความสำคัญทางคลินิกในผู้ป่วยสูงอายุในโรงพยาบาลหรือไม่
▶️วัตถุประสงค์: เพื่อประเมินความสัมพันธ์ระหว่างยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่ง กับภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้ป่วยสูงอายุที่เข้ารับการรักษาในแผนกอายุรกรรมทั่วไป
▶️วิธีการ: ศึกษาข้อมูลผู้ป่วยในจากฐานข้อมูล GEMINI ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ถึง 31 มีนาคม 2565 จากโรงพยาบาล​ 17 แห่ง​ ในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
⏩ตัวแปรหลัก: แบ่งผู้ป่วยออกเป็น 4 กลุ่ม ตามสัดส่วนการรักษาที่มีการสั่งจ่ายยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่ง
⏭️ผลลัพธ์หลัก: การเกิดภาวะสับสนเฉียบพลันในโรงพยาบาล ซึ่งระบุโดยใช้เครื่องมือช่วยการประเมินประเภท machine learning tool
⭕ผลลัพธ์สำคัญ:
จากการเข้ารักษาทั้งหมด 328,140 ครั้ง ภายใต้การดูแลของแพทย์ 755 ท่าน มีการสั่งจ่ายยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่ง คิดเป็น 3.5%
แพทย์ในกลุ่มที่สั่งจ่ายต่ำสุด (Q1) สั่งจ่ายยา 2.1% ของการรักษา เทียบกับกลุ่มที่สั่งจ่ายสูงสุด (Q4) ที่สั่งจ่าย 5.4%
ในกลุ่มที่รักษาโดยแพทย์ที่สั่งจ่ายต่ำสุด เกิดภาวะสับสนเฉียบพลัน 32.3% ซึ่งต่ำกว่าในกลุ่มที่สั่งจ่ายสูงสุดที่เกิดภาวะสับสนเฉียบพลัน 36.6%
ผลการวิเคราะห์ระบุว่า การเพิ่มขึ้นทุก​ 1% ของอัตราการสั่งจ่ายยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่ง สัมพันธ์กับโอกาสเกิด Delirium ที่เพิ่มขึ้น 8% (aOR: 1.08)
ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโดยแพทย์ในกลุ่มที่สั่งจ่ายสูงสุด มีโอกาสเกิดภาวะสับสนเฉียบพลัน เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่สั่งจ่ายยาต่ำสุด
🚨 ข้อสรุป: ผู้สูงอายุที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ได้รับยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่งบ่อยครั้ง มีแนวโน้มที่จะประสบกับภาวะสับสนเฉียบพลันในโรงพยาบาลมากขึ้น
⭕ประเด็นสำคัญ (Key Points)
การศึกษาในผู้ป่วยสูงอายุ 328,140 ราย ภายใต้แพทย์เจ้าของไข้ 755 ท่าน พบว่าผู้ป่วยที่เข้ารักษาในกลุ่มที่สั่งจ่ายยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่งสูงสุด มีโอกาสเกิดภาวะสับสนเฉียบพลันเพิ่มขึ้นถึง 41% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่สั่งจ่ายต่ำสุด
🟥ความสำคัญของงานวิจัย (Why does this paper matter?)
ผู้ป่วยสูงอายุที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลที่ได้รับยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่งในปริมาณสูง มีความเสี่ยงต่อภาวะสับสนเฉียบพลันเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าการสั่งจ่ายยานี้อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ในการดูแลผู้ป่วยสูงอายุในโรงพยาบาล การสั่งจ่ายยาเหล่านี้จึงควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยสูงอายุ
🟦บริบทเพิ่มเติม
ยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่ง (เช่น diphenhydramine) ถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาที่ควรหลีกเลี่ยงในผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอันตรายที่เกี่ยวข้องกับยา และ ยาดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่ายาต้านฮิสตามีนรุ่นที่สอง​ ที่ไม่ทำให้ง่วงนอน ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่า
ภาวะสับสนเฉียบพลัน เป็นภาวะที่พบบ่อยและสามารถป้องกันได้ในผู้ป่วยสูงอายุ ซึ่งสัมพันธ์กับผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง เช่น อัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น การต้องพึ่งพิงผู้อื่นในระยะยาว และความบกพร่องทางสติปัญญาในระยะยาว
⭕ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย:
* นักวิจัยชี้ให้เห็นว่า ยาเหล่านี้มักถูกสั่งจ่ายเพื่อจัดการอาการคัน เช่น ผื่นแพ้ยา แต่ยาเหล่านี้มักจะไม่ได้ผลและอาจเป็นอันตรายได้
* หากมีความจำเป็นต้องใช้ยาต้านฮิสตามีน ควรเลือกใช้ยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่สองที่ไม่ทำให้ง่วง เพราะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าและมีความปลอดภัยกว่า
* นอกจากภาวะสับสนเฉียบพลันแล้ว ยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่ง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มในผู้สูงอายุอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญอีกท่านได้ให้ความเห็นว่า ผลลัพธ์นี้สอดคล้องกับการวิจัยก่อนหน้านี้ ที่เชื่อมโยงยากลุ่มนี้กับอาการอื่นๆ เช่น การทำงานของความคิดที่ช้าลง ความตื่นตัวลดลง และความเสี่ยงการหกล้มที่เพิ่มขึ้น และแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่หนึ่งในผู้สูงอายุ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการศึกษาที่ใช้ machine learning ในการระบุภาวะสับสนเฉียบพลันก็ตาม
😀มีปัญหา​เ​รื่องก​ารใช้ยา​ เชิญ​ปรึกษา​เภสัชกร
.
.
💢Association of Inpatient Prescribing of First-Generation Antihistamines With Delirium in Older Adults: A Cross-Sectional Study, Journal of the American Geriatrics Society, 22 October 2025
Prescribing Older Antihistamines Tied to Delirium in Older Patients, October 28, 2025
.
.
BETTERCM 2025.10.31
🤯ยากับอาการสับสนเฉียบพลัน (Delirium)
⛔ห้ามใช้ยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่1ในเด็กอายุต่ำกว่า2ปีทุกกรณี⛔
Experts Warn Antihistamines Can be Dangerous for Infants When Used Improperly
การใช้ยาต้านฮิสทามีนรุ่นที่สอง (second generation antihistamine) ในกรณีที่เป็นโรคตับหรือโรคไต
ยาห้ามใช้ในคนสูงอายุ​ BEER CRITERIA
รายชื่อยาที่เสี่ยงต่อการหกล้มในผู้สูงอายุ
ยาที่ควรระวังในหญิงตั้งครรภ์​ เด็ก​ และผู้สูงอายุ
แนวทางการป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาในผู้สูงอายุ​ 2565
โฆษณา