Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชตระกูล ศรีสวัสดิ์
•
ติดตาม
13 พ.ย. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา
อินเดียจะหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ทหารเยอรมันกำลังอดอยาก แต่ทหารอเมริกันยังคงมีโคคา-โคล่าไว้ดื่ม....เหมือนกับว่าสงครามจะเป็นเรื่องของทรัพยากรล้วนๆ...
1
ขณะนี้ เศรษฐกิจของรัสเซียกำลังอยู่บนขอบเหวแห่งการล่มสลายหรือไม่?...
ต้นทุนของสงครามมักจะตกอยู่กับประชาชนทั่วไปเสมอ ในที่สุดชาวรัสเซียคงต้องอาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายว่าแนวคิดเรื่อง "ร่ำรวยขึ้นจากสงคราม" ว่าเป็นมุกโกหกเก่าๆ
เนื่องจากสภาพการเงินที่ตึงเครียดอย่างหนักของสหพันธรัฐรัสเซีย ทำให้ตอนนี้ปูตินจึงใช้แนวทางสามทาง
ได้แก่ การขึ้นภาษี การขึ้นราคาสินค้า และการลดสวัสดิการ เพื่อกระจายภาระของสงครามไปยังทุกครอบครัว
1
การแบ่งปันต้นทุนสงครามรอบใหม่กำลังดำเนินอยู่ แต่ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ข่าวร้ายก็มาถึงอีกครั้ง
ครั้งเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่านายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดียได้ให้คำมั่นกับเขาว่า...
"อินเดียจะหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักพักในการเปลี่ยนผ่าน และกระบวนการจะรวดเร็วขึ้น"
แม้ว่าความน่าเชื่อถือของคำแถลงนี้จะเป็นที่น่าสงสัย(เนื่องจากมันมาจากปากของทรัมป์) แต่มันก็สร้างความวิตกกังวลอย่างมากในหมู่ชาวรัสเซีย
อินเดียเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย....น่ะนายจ๋าาาาาา โดยใช้น้ำมันถึง 40% ของการผลิต
หากรายได้นี้ถูกตัดขาด แนวทางสามทางที่ผมกล่าวข้างต้น(ของปูติน)ก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น ทำให้สถานการณ์ของพวกเขายากลำบากมากยิ่งขึ้น
1
แล้ววววว....สถานการณ์ของรัสเซียตอนนี้ยากลำบากแค่ไหน?
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ รัสเซียได้ขึ้นอัตราภาษีเกือบทั้งหมด ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3% ภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 20% เป็น 25%
และภาษีทรัพยากรจาก 4.8% เป็น 6.7%
นอกจากนี้ ภาษีท่องเที่ยว ภาษีทรัพย์สิน และภาษีเศษเหล็กก็ถูกปรับขึ้นเช่นกัน ที่หนักคือค่าปรับจราจรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.5 เท่า
และแม้แต่ค่าธรรมเนียมการหย่าร้างก็เพิ่มขึ้นจาก 650 รูเบิลเป็น 5,000 รูเบิล
2
2
แม้แต่การหย่าร้างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่มีเงินอย่างน้อย 5,000 รูเบิล (ประมาณ 2,000 บาท)นอกเสียจากยิง หรือล้างตู้เย็นชู้เท่านั้นที่ทำสามารถได้...ซี๊ดดดด.
4
การขึ้นภาษีรอบนี้ช่วยให้รัสเซียเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติขึ้น 12.7% ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งนั่นก็ช่วยบรรเทาปัญหาได้บ้าง
อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลัง รัสเซียไม่สามารถยื้อเวลาได้อีกต่อไป จึงประกาศขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 20% เป็น 22%
โดยครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ซึ่งเท่าที่ผ่านมาในก่อนหน้านั้น บริษัทขนาดเล็กที่มีรายได้ต่อปีต่ำกว่า 60 ล้านรูเบิลจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
แต่ปัจจุบันเกณฑ์ภาษีได้ถูกปรับลดลงเหลือ 10 ล้านรูเบิล เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มทุกกรณี
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ภาษีเหล่านี้จะเป็นภาระของประชาชนทั่วไป
จากการคำนวณของกระทรวงการคลังรัสเซีย
การขึ้นภาษีครั้งนี้จะทำให้ครอบครัวชาวรัสเซียโดยเฉลี่ยต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 45,000 รูเบิลต่อปี หรือประมาณ 18,000 บาท
สิ่งที่รุนแรงยิ่งกว่าการขึ้นภาษีนี้คือต้นทุนสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น อีกทั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา รัสเซียได้ขึ้นราคาน้ำ ไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติตามมาอีกเช่นเดียวกัน
ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 9.4%
ค่าไฟ(ฟ้า)เพิ่มขึ้น 10.9%
และแม้แต่ค่าบำบัดน้ำเสียก็เพิ่มขึ้น 9.5%
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขึ้นราคาก๊าซ
ด้วยประเทศรัสเซียตั้งอยู่ในละติจูดที่สูงมาก ทั้งหมดนั่นจะทำให้ชาวรัสเซียรู้สึกถึงความหนาวเย็นของฤดูหนาวได้โดยตรงโดยผ่านภาษีนี้
1
และยังมีฤดูร้อนยาวนานถึงหกเดือนที่รออยู่ แต่ในฐานะประเทศที่อุดมด้วยพลังงาน โดยก่อนหน้านี้รัสเซียไม่ได้ใช้จ่ายมากนักในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากการปรับขึ้นราคาครั้งนี้ บ้านขนาด 100 ตารางเมตรจะต้องจ่ายค่าน้ำมัน(พลังงาน)เพียงอย่างเดียวปีละ 67,000 รูเบิล หรือประมาณ 3,000 บาท
แม้ว่าค่าใช้จ่ายครัวเรือนจะเพิ่มขึ้น(อย่างมาก) แต่รายได้ที่แท้จริงของชาวรัสเซียกลับลดลง
การเติบโตของค่าจ้างกำลังซบเซา สวัสดิการสังคมกำลังลดลง และพวกเขากำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรง
1
จากข้อมูลอย่างเป็นทางการของรัสเซีย อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงถึง 8% ในเดือนตุลาคมปีนี้ และสูงกว่า 10% ในช่วงต้นปี
แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงจะสูงถึง 21% ก็ตาม ราคาขนมปังในซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มขึ้นสามเท่า และไข่เพิ่มขึ้น 40% อำนาจซื้อของรูเบิลลดลงอย่างมาก
ทำให้ประชาชนตระหนักถึงต้นทุนของสงคราม ส่วนเหตุผลที่เศรษฐกิจรัสเซียในช่วงสงครามกำลังยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ
ก็คือเสาหลักสองต้นของรัสเซียได้พังทลายลง
1
เสาหลักแรกคือน้ำมัน ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางการเงิน กำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง
มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกประกอบกับราคาน้ำมันดิบโลกที่ตกต่ำ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบของรัสเซียลดลง
ในช่วงเก้าเดือนแรกของปีนี้ รายได้จากน้ำมันและก๊าซของรัสเซียลดลงถึง 21% ยิ่งไปกว่านั้น
ยูเครนยังได้เปลี่ยนกลยุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอาโดรนเพื่อทิ้งระเบิดโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซีย ส่งผลให้กำลังการกลั่นของรัสเซียหยุดชะงักถึง 38%
ประเทศที่ร่ำรวยน้ำมันแห่งนี้กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเบนซิน โดยมีปริมาณน้ำมันเบนซินขาดแคลนถึง 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สถานการณ์เช่นนี้ก่อให้เกิดสถานการณ์ที่ไร้เหตุผลอย่างยิ่ง สถานีบริการน้ำมันในหลายพื้นที่ของรัสเซียเริ่มแบ่งปันสัดส่วนน้ำมันเบนซิน
ประชาชนต้องต่อแถวยาวเหยียด และราคาน้ำมันเบนซินในตลาดมืดก็พุ่งสูงถึงประมาณ 60-70บาท
1
ทำให้บางช่วงจังหวะเราจะเห็นว่ารัสเซีย(ยังคงถูกบังคับให้)นำเข้าน้ำมันเบนซินจากจีน
1
เสาหลักที่สองคืออุตสาหกรรมการทหาร นี่ก็กำลังพังทลายลงเช่นกัน
มีข่าวลือมานานแล้วว่ารัสเซียกำลังร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่สงครามดำเนินไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่รัสเซียมีกำลังทหารเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเริ่มต้นของความขัดแย้ง
ซึ่งส่งผลให้ GDP พุ่งสูงขึ้นและสร้างภาพลวงตาของความมั่งคั่งที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการทหารไม่ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสักเท่าไหร่นัก
ปืนใหญ่ที่ผลิตได้จะถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร เปรียบเสมือนจุดดอกไม้ไฟในแนวหน้า
1
แม้ว่าอุตสาหกรรมการทหารที่เฟื่องฟูในช่วงแรกจะสร้างงานและสร้างมูลค่าเชิงบวก แต่ผลกระทบระยะยาวของรูปแบบเศรษฐกิจนี้กลับส่งผลเสียมากขึ้นเรื่อยๆ
ค่าจ้างในอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซียลดลงอย่างมาก โดยลดลง 10% ในช่วงฤดูร้อนนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ตำแหน่งงานว่างก็ลดลงหนึ่งในสาม ซึ่งบ่งชี้ว่าผลประโยชน์เบื้องต้นจากสงครามเหล่านี้ใกล้หมดลงแล้ว
รายได้ภายในประเทศกำลังลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในแนวหน้ากลับเพิ่มขึ้นทุกวัน
ค่าใช้จ่ายทางทหารของรัสเซียในปีนี้พุ่งสูงถึง 13.5 ล้านล้านรูเบิล คิดเป็น 40% ของรายได้ทางการคลัง
แม้จะมีการขึ้นภาษีและราคาสินค้าจำนวนมากในปีนี้ แต่กลับสร้างรายได้เพียง 3 ล้านล้านรูเบิล
ซึ่งแทบจะไม่เพียงพอที่จะชดเชยรายได้จากน้ำมันและก๊าซที่ลดลง
เอาล่ะๆๆๆ ...หากคำกล่าวของทรัมป์เป็นจริง และอินเดียหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซียจริง ๆ รายได้ทางการคลังของรัสเซียจะลดลงประมาณ 5 ล้านล้านดอลลาร์
ซึ่งการคลังของรัสเซียจำเป็นจะต้องขึ้นภาษีเกือบสองเท่าของต้นปีนี้ เพียงเพื่อให้พอประทังต้นทุน
นอกจากนี้ สถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซีย ทำให้เกิดการว่างงานมหาศาลและรายได้ภาคเอกชนลดลงอีก
นี่อาจเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับปูติน
ในอนาคตเขาอาจต้องเลือกระหว่างการหยุดยิงหรือทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอินเดียไว้ มิฉะนั้น ประเทศจะเผชิญกับความเป็นไปได้สูงที่จะล่มสลายอย่างกะทันหัน
2
ไม่ว่าอินเดียจะซื้อน้ำมันจากรัสเซียหรือไม่
ชาวรัสเซียย่อมเข้าใจดีว่าพวกเขาไม่ได้เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ในสงครามครั้งนี้ แต่เป็นผู้จ่ายเงินที่แท้จริง
1
เงินทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไปในสงครามต้องมาจากกระเป๋าของพวกเขา ไม่มีใครหนีพ้นต้นทุนของสงครามครั้งนี้ไปได้.
สหรัฐอเมริกา
รัสเซียยูเครน
อินเดีย
1 บันทึก
12
14
8
1
12
14
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย