Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
12 พ.ย. เวลา 09:24 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
🧟 "Zombie Agile" เมื่อองค์กร “แกล้งคล่อง” แต่ไม่เปลี่ยนจริง?
ทำไม Agile ถึงล้มเหลวในองค์กรไทย แม้มี Squad, Sprint, Coach, Jira, Daily, Planning, Review, และ Retro ครบทุกพิธีกรรม
💥 ปรากฏการณ์ “Zombie Agile” กำลังระบาดในองค์กรไทย คือ ภายนอกดูเหมือนเปลี่ยน แต่ภายในยังยึดแนวคิดแบบเดิมทุกอย่าง
* เช่น ทุกทีมมีบอร์ดหรือ Jira เต็มไปด้วย Task, backlot มีการประชุม Stand-up ทุกเช้า และมี Sprint Review ทุก 1-2 สัปดาห์ “ทว่าความเร็วงานกลับไม่ดีขึ้น ผลลัพธ์ไม่เปลี่ยน และความเหนื่อยล้าของทีมกลับพุ่งสูงขึ้น” นี่คือ Agile ที่เหลือเพียง “พิธีกรรม” แต่ขาด “จิตวิญญาณของการเรียนรู้”
* องค์กรที่ล้มเหลวไม่ใช่เพราะ “ไม่ทำ Agile” แต่เพราะ “ทำโดยไม่เข้าใจ” ทำแบบ Copy เครื่องมือมา แต่ไม่เปลี่ยนวิธีคิดที่อยู่ข้างใต้ระบบ
* Agile ที่แท้จริงไม่ได้วัดจากจำนวน Sprint หรือ Ticket, รูปแบบ ceremonies แต่มาจาก “ความเร็วในการตัดสินใจ” และ “การเรียนรู้จากลูกค้าจริง”
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่องค์กรจำนวนมากที่อ้างว่า “Transform แล้ว” กำลังกลายเป็น Zombie Organization หรือ เดินได้ แต่ไร้วิญญาณแห่งการปรับตัว
⸻
🎯 ศัตรูที่แท้จริงไม่ใช่ Waterfall แต่คือ “Command & Control”?
* องค์กรไทยจำนวนมากเข้าใจผิดว่า Agile คือ “การล้ม Waterfall” ทั้งที่ความจริง Waterfall ไม่ใช่ศัตรู มันยังจำเป็นกับงานที่คาดเดาได้ เช่น ระบบบัญชี ระบบการเงิน ระบบ HR หรือโครงการที่ต้องมี Compliance รัดกุม เป็นต้น
* แต่ศัตรูที่แท้จริงของ Agile คือ “วัฒนธรรมแบบ Command & Control” หรือ ระบบรวมศูนย์อำนาจที่ทุกอย่างต้องรออนุมัติ ต้องผ่านคณะกรรมการ/ผู้บริหาร และต้องมีเอกสารรองรับทุกขั้นตอน
* ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ “ควบคุมความผิดพลาด” แต่ไม่เคยสร้าง “ความเร็ว” หรือ “นวัตกรรม” ได้เลย
ดังนั้น การเอาเครื่องมือ Agile มาติดตั้งในระบบแบบนี้ก็เหมือนเอาเครื่องยนต์ Ferrari ไปใส่ในรถถัง เครื่องแรงแต่เคลื่อนไหวช้า ทีมจึงเหนื่อยกับการ “ทำให้ดูเหมือนเร็ว” ทั้งที่จริง “ไม่ได้ไปไหนเลย”
⸻
⚠️ กับดักที่ฆ่า Agile ในองค์กรไทย?
1. กับดักเจ้าของ (The Ownership Trap)
* หลายองค์กรตั้ง Product Owner (PO) แต่เป็นเพียง “ผู้รวบรวม Requirement” จากผู้บริหาร/users ไม่ใช่เจ้าของผลิตภัณฑ์จริง ไม่มีอำนาจตัดสินใจ ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธสิ่งที่ไม่สร้างคุณค่า และไม่มีอิสระในการจัดลำดับความสำคัญ
* ผลลัพธ์คือ Product ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของจริง "มีแต่คนรับผิด แต่ไม่มีคนรับผิดชอบ"
2. กับดักระบบวัดผล (The Incentive Trap)
* หลายองค์กรบอกว่าทำ Agile แล้ว แต่ระบบ KPI ยังขัดแย้งในตัวเอง เช่น ทีม Business ถูกวัดด้วย “ยอดขาย” ซึ่งผลักให้ต้องการฟีเจอร์ใหม่ตลอดเวลา แต่ทีม IT ถูกวัดด้วย “Uptime 99.9%” ซึ่งผลักให้หลีกเลี่ยงความเปลี่ยนแปลง เป็นต้น
* ผลคือทั้งสองทีม “พายเรือคนละทิศ” และ Agile ก็กลายเป็นเพียงภาพลวงตาแห่งความร่วมมือ
3. กับดักวัฒนธรรม (The Cultural Trap)
* หัวใจของ Agile คือ “Feedback จากลูกค้าจริง” แต่ในองค์กรไทย เสียงที่ดังที่สุดกลับเป็นเสียงของ “ผู้บริหาร” หรือ “User ที่เสียงดังในองค์กร”
* ทีมจึงผลิตงานเพื่อเอาใจคนเหล่านี้มากกว่าผู้ใช้ Feedback Loop จึงเป็นเพียง “วงจรภายใน” ไม่ใช่ “วงจรเรียนรู้จากตลาด”
“และนั่นคือเหตุผลที่ Agile ในองค์กรไทยจำนวนมากกลายเป็นเพียง Waterfall ที่ใส่เสื้อใหม่”
⸻
🧭 ทางออก คือ ต้องหยุดติดตั้งพิธีกรรม แล้วเริ่มที่ Value Chain
* องค์กรที่ Transform ได้จริง ไม่ได้เริ่มจากการทำ Sprint หรือพิธีกรรม แต่เริ่มจาก “จุดเจ็บที่สุดใน Value Chain”
* องค์กรต้องกล้าถามตัวเองว่า “คอขวดของเราคืออะไร?” เช่น การอนุมัติงบที่ใช้เวลาหลายเดือน?, การรอตัดสินใจจากหลายฝ่าย?, หรือการที่ทุกอย่างต้องผ่านคณะกรรมการก่อนเริ่ม? เป็นต้น
* เมื่อรู้จุดอุดตัน จึงใช้หลักการ Agile เจาะลงไปตรงนั้น เช่น ตั้งทีมข้ามสายงานที่มีอำนาจตัดสินใจได้เอง หรือทดลองรอบสั้นๆ เพื่อลดเวลาและต้นทุนก่อนลงมือจริง
⸻
🧩 Waterfall กับ Agile อยู่ร่วมกันได้น่ะ = "ถ้าเข้าใจ Ownership และ System Design"
* ในบางบริบทของไทย Waterfall ยังมีประโยชน์ โดยเฉพาะงานที่มี Scope ชัดเจนและต้องการความถูกต้อง แต่เมื่อองค์กรต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการ “ออกแบบระบบให้เรียนรู้ได้”
* การ Transform ที่แท้จริงจึงไม่ใช่การเปลี่ยนเครื่องมือ แต่คือการ “แตะระบบ” หาก KPI, Budget Cycle และ Governance ยังติดอยู่ในแนวคิดเดิม Agile ก็ไม่มีวันยั่งยืน
“Agile ที่แท้จริงคือ Agility ของระบบคิด” คือความสามารถขององค์กรในการเปลี่ยนทิศเมื่อข้อมูลใหม่ปรากฏ ไม่ใช่ความสามารถในการจัดประชุมรูปแบบใหม่ๆ ทุกวัน
⸻
💬 จุดเปลี่ยนที่แท้จริง คือ "เปลี่ยนวัฒนธรรม ไม่ใช่เครื่องมือ
* สิ่งที่แพงที่สุดไม่ใช่ค่าที่ปรึกษา Agile หรือค่า License ของเครื่องมือที่จะซื้อเข้ามา แต่คือ “ต้นทุนของการไม่เปลี่ยน”
* องค์กรที่ยังยึดติดกับ Waterfall Mindset กำลังสูญเสียโอกาสเรียนรู้ทุกครั้งที่ต้องรอการอนุมัติจากบนลงล่าง คือสร้าง “วัฒนธรรมแห่ง Trust และ Empowerment”
* หัวหน้ากล้าปล่อยให้ทีมตัดสินใจ ทีมกล้าทดลองโดยไม่กลัวผิดพลาด และระบบรางวัลให้คุณค่ากับ “การเรียนรู้” มากกว่า “ความสมบูรณ์แบบ”
เพราะสุดท้าย Agile ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ใน Framework ใดๆ แต่ใน “วัฒนธรรมที่คนกล้าคิด กล้าลอง และกล้ารับผิดชอบร่วมกัน”
⸻
✨ ดังนั้น Agile ทำแล้ว work ไหม...วัดได้จาก “ความเร็วในการตัดสินใจ”?
อย่าเริ่มจากเครื่องมือ/กระบวนการเฉพาะใด แต่เริ่มจากการเปลี่ยน “ระบบคิดและพฤติกรรมผู้นำ” เพราะหากผู้นำยังสั่งจากบนลงล่าง ไม่มีเครื่องมือใดในโลกช่วยให้ Agile สำเร็จได้
“Agile ไม่ใช่พิธีกรรม แต่คือปรัชญาแห่งการเรียนรู้ การทดลอง และการตัดสินใจร่วมกันอย่างมีความหมาย”
ทีมที่มีอำนาจตัดสินใจใกล้ลูกค้าที่สุด จะสร้างคุณค่าได้เร็วที่สุด และนั่นคือหัวใจที่ทำให้ Agile “ยังมีชีวิตอยู่จริง” ในองค์กรนั้นได้
“Being Agile” not only “Doing Agile” ครับ
#วันละเรื่องสองเรื่อง #Agile #DigitalTransformation #CorporateCulture #Leadership #CommandAndControl #วัฒนธรรมองค์กร #ภาวะผู้นำ
วัฒนธรรมองค์กร
ผู้นำ
agile
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย