สุกี้พระนายกอง นายกองผู้ใช้สมองมากกว่าดาบ
หลังจากพม่าแพ้ชาวบ้านค่ายบางระจันไปถึง 7 รอบเต็ม ๆ ใช่ค่ะ เจ็ดรอบ จนแม่ทัพพม่าทุกคนเริ่มถามตัวเองว่า “เรารบกับทหารหรือกับตำนาน Marvel อยู่กันแน่?”
เนเมียวสีหบดีถึงขั้นเครียด เพราะตอนนี้ชาวบางระจันกลายเป็นเหมือน “Boss Final” ที่ใครก็ไม่อยากสู้ด้วย
จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งโผล่มา...
สุกี้ พระนายกอง เขาคือมอญที่อยู่ในไทยมานานจนพูดไทยได้คล่อง พูดพม่าก็ได้อีก เรียกว่า bilingual แห่งยุคอยุธยา!
เขาอาสามารบเอง พร้อมทหาร 2,000 นายและม้าเต็มยศ แต่แทนที่จะบุกโจมตีแบบคนอื่น สุกี้กลับเลือกใช้ “กลยุทธ์แบบสุกี้” —
คือ ตั้งค่ายทีละชั้น ขยับไปเรื่อย ๆ แบบคนมีสมอง ไม่ใช่คนมีแรง
เรียกว่าไม่ใช่รบด้วยบู๊ แต่รบด้วย “สมองและเวลา”
หลังจากขยับค่ายอยู่ครึ่งเดือน ก็เข้าใกล้ค่ายบางระจันได้สำเร็จ
แต่เขาก็ยังไม่ออกมาสู้ตรง ๆ นะ เพราะรู้ว่า “ใจคนบางระจันมันใหญ่กว่าปืนใหญ่”
พอพวกบางระจันบุกออกไปเอง ก็โดนยิงสวนกลับด้วยปืนใหญ่แบบจุก ๆ
ฝ่ายไทยเลยคิดว่า “เอาวะ งั้นขอปืนใหญ่มาบ้างดีกว่า!” แล้วก็ส่งใบบอกไปอยุธยา
แต่...อยุธยาตอบกลับมาประมาณว่า
ไม่ส่งนะ กลัวพม่าแย่งไป หรือถ้าแพ้ พม่าจะใช้ยิงเรากลับอีก
พระยารัตนาธิเบศร์เลยคิดว่า “ถ้ารัฐไม่ช่วย เราช่วยกันเอง!”
เลยเรี่ยไรทองเหลืองมาหลอมเป็นปืนใหญ่ด้วยน้ำพักน้ำแรงของชาวบ้าน
แต่พอทำเสร็จ… ปืนร้าว! ใช้ไม่ได้
ตอนนั้นคือเหมือนตั้งใจสอบแต่ดินสอหักตอนเข้าห้องสอบนั่นแหละ
สุดท้ายพระยารัตนาธิเบศร์ต้องกลับกรุง ทิ้งค่ายบางระจันไว้ให้ต่อชะตาเอง
พอไม่มีปืนใหญ่ ขวัญกำลังใจก็เริ่มตก คนเริ่มหนีบ้าง จนค่ายอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ
และในที่สุด...
สุกี้ พระนายกอง ก็สามารถตีค่ายบางระจันแตกได้ในปี พ.ศ. 2304
เรียกว่า “ชัยชนะของสมองเหนือแรง”
แต่หลังจากนั้นไม่นาน กรุงศรีอยุธยาก็แตก...
พม่าก็เข้ามาเผา ปล้น ล้างบาง เหมือน “กด reset” เมืองทั้งเมือง
สุกี้กลายเป็นผู้รักษาเมืองในช่วงที่บ้านเมืองพังพินาศ
จนกระทั่ง... พระเจ้าตากสิน ยกทัพมากู้ชาติ
สุกี้ส่งคนไปตั้งรับ แต่คนไทยในกองทัพพม่ากลับหนีไปร่วมกับพระเจ้าตาก
(พูดง่าย ๆ คือ “ทีมกลับใจแห่งปี”)
สุดท้าย พระเจ้าตากบุกค่ายโพธิ์สามต้น
สุกี้สู้สุดใจ แต่ก็แพ้ในที่สุด และเสียชีวิตในสนามรบ
💭 ข้อคิดจากเรื่อง “สุกี้พระนายกอง”
- 1.ชนะได้ ไม่จำเป็นต้องบู๊เสมอไป สุกี้ชนะเพราะใช้ “กลยุทธ์” ไม่ใช่ “กำลัง”
- 2.การช่วยกันของคนไทยคือพลังสุดท้ายของค่ายบางระจัน แม้จะพัง แต่ก็เต็มไปด้วยใจ
- 3.ไม่มีใครชนะได้ตลอด วันหนึ่งสุกี้ชนะ วันหนึ่งก็แพ้ เหมือนชีวิตเราที่ขึ้นลงได้เสมอ
- 4.อย่ามัวแต่รอความช่วยเหลือจากคนอื่น ถ้าอยากได้ “ปืนใหญ่” ของตัวเอง ต้องลงมือทำเองก่อน
- 5.แม้พ่ายแพ้ ก็ยังทิ้งตำนานไว้ให้คนรุ่นหลังจำได้ เพราะทุกความพยายามไม่เคยสูญเปล่า
#ประวัติศาสตร์ไทย #ค่ายบางระจัน #สุกี้พระนายกอง #อยุธยา #เรื่องเล่าประวัติศาสตร์ #คิดแบบนักรบ #บทเรียนจากอดีต #อ่านสนุกได้สาระ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
