Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดร.น้ำใจคุยกับพ่อ
•
ติดตาม
13 พ.ย. เวลา 03:36 • สิ่งแวดล้อม
วัดอมฤตสิทธาราม
เมื่อ “คำถามตรง ๆ” ต้องการคำตอบที่ซื่อตรงพอ ๆ กัน
ตอนที่ 4/12
ช่วงที่น้ำเริ่มเต็มทุ่ง บทสนทนาบนเฟซบุ๊กก็เริ่ม “เข้มขึ้น” ตามสถานการณ์ หลายคนถามด้วยความสงสัยจริง หลายคนถามด้วยความกังวล หลายคนถามด้วยความค้างคาใจมาหลายปี
วันนั้นพี่ป้อมเปิดมือถือ เห็นคำถามหนึ่งขึ้นมาแบบชัดเจนและตรงไปตรงมา
“ระดับกักเก็บที่ปลอดภัย 85–90% แล้วทำไมตอนฝนทั้งช่วงไม่เพิ่มการระบายออกมาก่อน ทำไมต้องเก็บน้ำจนล้น เกิดผลเสียกับคนใต้เขื่อน?”
เป็นคำถามที่ดี เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ และเป็นคำถามที่ถ้าตอบไม่ดี อาจทำให้คนรู้สึกว่าถูกอธิบายแบบ “ทางการเกินไป” จนไม่เกิดความเข้าใจร่วม
ตอนที่อ่าน พี่ป้อมหยุดนิ่งอยู่พักหนึ่ง
— เพราะรู้ทันทีว่านี่คือบทสนทนาที่ ต้องตอบด้วยความจริงทั้งหมด
แต่ต้องตอบแบบที่คนอ่านรู้สึกว่า “เราเคารพความเดือดร้อนของเขา”
1) สิ่งที่อยู่เบื้องหลังคำว่า 85–90%
พี่ป้อมเริ่มต้นอธิบายว่า “ระดับกักเก็บปลอดภัย” ไม่ใช่เพดานสูงสุด
มันคือค่าที่ชลประทานและผู้จัดการเขื่อนใช้ “เป็นกรอบ” เพื่อรักษาความเสี่ยงในช่วงที่ยังพอประเมินอัตราน้ำเข้า–น้ำออกได้
แต่เมื่อฝนชุดใหญ่เดินทางเข้ามาต่อเนื่องหลายวัน
ความท้าทายไม่ใช่ตัวเลข 90%
แต่คือ “ปริมาณน้ำเข้าใหม่” ที่สูงมากจนการระบายตามหลังไม่ทัน
ตัวเลขจริงในช่วงนั้น
น้ำเข้าเขื่อนหลัก มากกว่า 80 ล้าน ลบ.ม./วัน
แม้เร่งระบายเต็มที่ ก็ยัง “ระบายได้น้อยกว่าน้ำที่เข้า”
จุดนี้ พี่ป้อมเลือกตอบแบบตรงไปตรงมา
ไม่โทษใคร ไม่ลดความเดือดร้อน
เพียงแต่ให้ข้อมูลตามจริงว่า
ในวันที่น้ำเข้า > น้ำออก การแก้ปัญหาต้องจัดลำดับความเสี่ยงใหม่ทุกวัน
2) ทำไมไม่ระบายมากกว่านั้น “ตั้งแต่แรก” ?
นี่คือคำถามที่ละเอียดอ่อนที่สุด
เพราะมันเกี่ยวกับความรู้สึกของคนที่ถูกกระทบโดยตรง
พี่ป้อมจึงอธิบายอย่างนุ่มนวลว่า…
การระบายน้ำไม่ใช่ “โยกก๊อก”
แต่เป็นการตัดสินใจที่เกี่ยวกับ
พื้นที่ลุ่มน้ำตอนล่าง
ความพร้อมของคลองรอง–คูส่งน้ำ
พื้นที่รับน้ำ (paddy fields)
เมือง–ชุมชน–โครงสร้างพื้นฐาน
และต้องคำนึงถึง “ระลอกน้ำถัดไป”
หากเร่งระบายมากเกินไปก่อนฝนลูกใหญ่ชุดถัดมา
ผลกระทบจะย้อนกลับมาทันที
ทั้งต่อลุ่มน้ำตอนล่างและเขื่อนเอง
3) คำตอบที่พี่ป้อมตั้งใจสื่อ
พี่ป้อมเขียนตอบแบบตรงไปตรงมา และตั้งใจให้ไม่เกิดความขัดแย้งว่า…
“ผู้จัดการน้ำไม่ได้ละเลย และไม่ได้ปล่อยให้ล้นเขื่อนโดยไม่คิด
แต่หลายครั้ง น้ำเข้าเร็วกว่าโครงสร้างที่เรามีจะรองรับทันจริง ๆ
นโยบาย–ระบบคาดการณ์–และพื้นที่รับน้ำยังต้องพัฒนาอีกมาก”
คำตอบนี้ทำให้คนอ่านเข้าใจว่า
เราไม่ได้แก้ตัวให้ใคร
แต่พยายามอธิบายให้เห็น “ข้อจำกัดเชิงระบบ”
4) ความรู้สึกตอนตอบ
ในใจลึก ๆ พี่ป้อมคิดเพียงว่า…
“อย่าให้คำตอบเราไปทำร้ายใคร
แต่อย่าปิดบังความจริง เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะรู้”
นี่คือประเภทของบทสนทนา ที่พี่ป้อมอยากเก็บไว้ในความทรงจำ
เพราะมันทำให้เห็นว่า แม้ในวันที่น้ำท่วม
เรายังสามารถคุยกันด้วยเหตุผล เคารพกัน และเรียนรู้ร่วมกันได้
สังคม
ปรัชญา
วิทยาศาสตร์
บันทึก
1
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บันทึกคุยกับเพื่อนใหม่–เพื่อนเก่าในวันที่น้ำเต็มทุ่ง 10–12 พ.ย. 2568
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย