22 พ.ย. เวลา 02:06 • บันเทิง

สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง:EP.4 การล่มสลายของยักษ์: ปี 1917 และขอบเหวของรัสเซีย

(The Collapse of the Giant: 1917 and the Russian Brink)
สงครามที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
ถ้าแนวรบด้านตะวันตกคือ นรกของปืนใหญ่และโคลน... แนวรบด้านตะวันออกคือ นรกของพื้นที่ว่างเปล่าและน้ำแข็ง
เราพูดถึงเส้นแบ่งที่กินอาณาเขตตั้งแต่ทะเลบอลติกไปจนถึงทะเลดำ... ระยะทางยาว
กว่า 1,600 กิโลเมตร... ที่นี่ไม่มีทางตันแบบสนามเพลาะที่มั่นคง... แต่เป็นสงคราม
แห่ง การเคลื่อนที่... ที่มีขนาดใหญ่โตจนน่าประหลาดใจ... และมี ความตาย ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป
ทหารที่แนวรบตะวันตกตายเพราะ กระสุนปืนใหญ่ และ ก๊าซพิษ... แต่ทหารรัสเซียและเยอรมันที่แนวรบตะวันออก... หลายคนตายเพราะ โรคระบาด, ความหนาวเย็นสุดขั้ว, ความอดอยาก... และที่สำคัญที่สุด... เพราะ การบริหารจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ ของกองทัพจักรวรรดิรัสเซีย
สองปีแรกของสงคราม... จักรวรรดิรัสเซีย... ยักษ์ใหญ่ที่ดูเหมือนจะล้มไม่เป็น... ได้เผชิญหน้ากับความสูญเสียที่ไม่มีใครในโลกสามารถทนได้... ในขณะที่ชาติตะวันตกนับความสูญเสียเป็นแสน... รัสเซียเริ่มนับเป็น ล้าน...
และเมื่อกองทัพและรัฐบาลเริ่มล้มเหลวในการดูแลประชาชนและทหารของตนเอง... นั่นคือจุดที่ เชื้อโรคที่แท้จริง ของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มออกฤทธิ์... เชื้อโรคแห่งการปฏิวัติ
1: การสังหารหมู่ในพื้นที่เปิด
กองทัพรัสเซียเริ่มต้นสงครามด้วยจำนวนที่เหนือกว่าใคร... แต่พวกเขาขาด การฝึกฝน, การสื่อสาร, และ อาวุธยุทโธปกรณ์
ลองจินตนาการถึงทหารที่ถูกส่งเข้าสู่แนวหน้า... โดยบางคนมีเพียงแค่ กระสุนสามนัด... หรือบางครั้ง... ต้องรอให้เพื่อนร่วมรบตายไปก่อนถึงจะได้ปืนมาถือไว้ในมือ...
นี่ไม่ใช่เรื่องแต่ง... มันคือความเป็นจริงอันโหดร้ายของ จักรวรรดิซาร์
เยอรมนี... ถึงแม้จะต้องแบ่งทัพไปทางตะวันออก... แต่ด้วยวินัยที่แข็งแกร่งกว่าและเทคโนโลยีที่เหนือกว่า... พวกเขาสามารถสร้างความเสียหายต่อรัสเซียได้อย่างมหาศาล
ยุทธการที่ทันเนนเบิร์ก ในปีคริสตศักราช 1914... ทัพเยอรมันได้โอบล้อมและทำลายกองทัพรัสเซียไปกว่า 120,000 นาย ภายในไม่กี่วัน... มันเป็นชัยชนะที่สวยงามทางยุทธวิธีของเยอรมนี... แต่สำหรับรัสเซีย... มันเป็นเพียง สัญญาณเริ่มต้น ของโศกนาฏกรรมที่ไม่รู้จบ
ตลอดปีคริสตศักราช 1915 และ 1916... การล่าถอยของรัสเซียเป็นไปอย่างต่อเนื่อง... พวกเขาเสียโปแลนด์, เสียบอลติก... พวกเขาสูญเสียผู้คนไปอย่างต่อเนื่อง... ผู้ชายที่ถูกเกณฑ์เข้าสู่กองทัพแทบจะไม่มีที่สิ้นสุด... แต่การสูญเสียครั้งใหญ่เหล่านั้นกลับทำลาย ขวัญกำลังใจ และ ความเชื่อมั่น ในรัฐบาล
ซาร์ นิโคลัสที่ 2 ตัดสินใจทำสิ่งที่ดูเหมือนกล้าหาญแต่โง่เขลา... นั่นคือการ เข้า
บัญชาการทัพด้วยตนเอง... ซึ่งทำให้เมื่อใดก็ตามที่กองทัพพ่ายแพ้... ความรับผิดชอบทั้งหมด ก็ตกอยู่กับพระองค์แต่เพียงผู้เดียว... มันทำให้บัลลังก์ของโรมานอฟ... ที่สั่นคลอนอยู่แล้ว... ยิ่งพังทลายลงอย่างรวดเร็ว
2: ปีคริสตศักราช 1917 – จุดเปลี่ยนของสงคราม
เมื่อเข้าสู่ปีคริสตศักราช 1917... สงครามก็ดำเนินเข้าสู่ สามปีเต็ม... ทุกฝ่ายต่างเหนื่อยล้า... แต่ปีนี้กลับกลายเป็นปีที่ พลิกผัน ชะตาของโลกไปตลอดกาล ด้วยสองเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นแทบจะพร้อมๆ กัน…
การปฏิวัติในรัสเซีย (The Russian Collapse)
ความอดอยาก, ความหนาวเย็น, และความสูญเสียในสนามรบ... ได้ทำให้ชาวรัสเซีย หมดความอดทน ต่อระบอบซาร์... ในเดือนกุมภาพันธ์ (ตามปฏิทินรัสเซียเก่า) เกิด การประท้วง ในเปโตรกราด... ทหารที่เคยภักดีต่อซาร์กลับ เข้าร่วมกับผู้ประท้วง... บัลลังก์ของซาร์นิโคลัสที่ 2 ล่มสลายลงอย่างรวดเร็ว...
รัฐบาลชั่วคราวที่ขึ้นมาแทน... พยายามจะสานต่อสงคราม... แต่สายเกินไป... ทหารรัสเซียส่วนใหญ่ ทิ้งปืนหนีกลับบ้าน เพื่อไปเข้าร่วมการปฏิวัติและแย่งชิงที่ดิน...
เยอรมนีได้มองเห็นโอกาสทอง... และได้ทำในสิ่งที่น่าประหลาดใจ... พวกเขาตัดสินใจ ส่งตัววลาดิมีร์ เลนิน นักปฏิวัติคอมมิวนิสต์ที่ถูกเนรเทศอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์... กลับเข้าไปในรัสเซีย... โดยหวังว่าเขาจะนำพาความวุ่นวายมาสู่จักรวรรดิ...
นี่คือหนึ่งใน การแทรกแซง ที่มีผลกระทบมากที่สุดในประวัติศาสตร์... ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน... พวกบอลเชวิคภายใต้การนำของเลนินก็ยึดอำนาจ... และในที่สุด... รัสเซียก็ ถอนตัวออกจากสงคราม อย่างเป็นทางการด้วยสนธิสัญญาเบรสต์-ลีตอฟสก์ ที่ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียดินแดนจำนวนมหาศาล
การล่มสลายของยักษ์รัสเซีย... ทำให้เยอรมนีสามารถนำกำลังทหารกว่า 1 ล้านนาย... กลับไปสู่แนวรบด้านตะวันตกได้
3: "ทำให้โลกปลอดภัยสำหรับประชาธิปไตย" – อเมริกามาถึง
ในขณะที่ยักษ์ใหญ่ตัวหนึ่งกำลังล้มลง... ยักษ์ใหญ่อีกตัวหนึ่งก็กำลังก้าวเท้าเข้ามา... นั่นคือ สหรัฐอเมริกา
ตลอดสามปีแรก... อเมริกาภายใต้ประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน พยายามรักษาความเป็นกลาง... แต่การรักษานั้นทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ…
เพราะแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดสองอย่างนี้:
1.สงครามเรือดำน้ำแบบไม่จำกัด (Unrestricted Submarine Warfare): เยอรมนีประกาศว่าจะจมเรือทุกลำที่เข้าสู่เขตสงคราม... ซึ่งรวมถึงเรือสินค้าและเรือโดยสารของอเมริกา... การจมเรือ ลูซิทาเนีย ไปก่อนหน้านี้ได้จุดประกายความโกรธแค้นไปแล้ว... แต่การกระทำซ้ำๆ ของเรือดำน้ำ U-boat ทำให้วิลสันแทบจะไม่มีทางเลือก
2.โทรเลขซิมเมอร์มันน์ (Zimmermann Telegram): ในเดือนมกราคมปีคริสตศักราช 1917... หน่วยข่าวกรองอังกฤษสกัดและถอดรหัสโทรเลขที่รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมันส่งถึงเม็กซิโก... เสนอว่าถ้าเม็กซิโกเข้าร่วมกับเยอรมนีในการทำสงครามกับสหรัฐฯ... เยอรมนีจะช่วยให้เม็กซิโกทวงคืนดินแดนที่เสียไปให้อเมริกาได้ (เช่น เท็กซัส, นิวเม็กซิโก, แอริโซนา)
และนี่คือ ฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้วิลสันสามารถกล่าวต่อสภาคองเกรสได้อย่างเต็มปากว่า... สงครามนี้คือสงครามที่ต้องสู้เพื่อ “ทำให้โลกปลอดภัยสำหรับประชาธิปไตย”
ในเดือนเมษายนปีคริสตศักราช 1917... อเมริกาประกาศสงครามกับเยอรมนี
การมาถึงของอเมริกาไม่ได้มีผลกระทบต่อแนวรบในทันที... เพราะอเมริกาต้องใช้เวลาในการระดมพลและฝึกทหาร... แต่ผลกระทบทาง จิตวิทยา นั้นยิ่งใหญ่กว่ามาก... มันหมายถึง... เงิน, อาหาร, และที่สำคัญที่สุด... คนหนุ่มสาว ที่ไม่มีวันหมดสิ้น... กำลังจะหลั่งไหลข้ามมหาสมุทรมาช่วยเหลือฝ่ายพันธมิตร
สำหรับเยอรมนีที่เพิ่งชนะสงครามกับรัสเซียมาอย่างเลือดเย็น... นี่คือ การแข่งกับเวลา ครั้งใหม่... พวกเขาต้องเอาชนะฝ่ายพันธมิตรให้ได้ ก่อนที่กองทัพอเมริกาจะมาถึงอย่างเต็มตัว
บทสรุป: ชะตากรรมที่แขวนอยู่
ปีคริสตศักราช 1917 จึงเป็นปีที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด:
ทางตะวันออก... เกิด การปฏิวัติครั้งใหญ่... ที่จะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของศตวรรษที่ 20 ไปตลอดกาล... เมื่อจักรวรรดิโรมานอฟที่ดำรงมาสามร้อยปีล่มสลายลง...
และโลกได้รู้จักกับ คอมมิวนิสต์ ที่พร้อมจะนำรัสเซียออกไปจากสงคราม
ทางตะวันตก... ยักษ์ที่หลับใหล อย่างอเมริกาได้ตื่นขึ้น... และนำ ความหวัง มาสู่ฝ่ายสัมพันธมิตร... และ นำความหวาดกลัว มาสู่ฝ่ายมหาอำนาจกลาง
เยอรมนีในตอนนี้ มีโอกาสทอง และ ภัยคุกคามที่ถึงตาย อยู่ในมือพร้อมกัน...
พวกเขามีกองทัพทั้งหมดที่จะทุ่มเข้าสู่แนวรบด้านตะวันตก... แต่พวกเขาก็รู้ดีว่า... ถ้าพวกเขาไม่สามารถยุติสงครามในปี 1918 ได้... ชะตากรรมของพวกเขาจะถูกกำหนดโดย ความแข็งแกร่งทางอุตสาหกรรม ที่เหนือกว่าของอเมริกา
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งกำลังเข้าสู่ องก์สุดท้าย... เป็นการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์…
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับตอนนี้ หวังว่าทุกท่านจะได้รับความเพลิดเพลินและความรู้ความเข้าใจบางอย่าง เกี่ยวกับสงครามเพิ่มมากขึ้น ในตอนหน้า... เราจะไปดูการโจมตีครั้งสุดท้ายของเยอรมนีในปีคริสตศักราช 1918... ยุทธการฤดูใบไม้ผลิ (Spring Offensive)... ซึ่งเป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดที่บ้าคลั่ง... เราจะเห็นว่าสงครามที่เคยเป็นทางตันนั้น... ถูกขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความสิ้นหวังอย่างไร... และเราจะมาสรุปถึง จุดจบที่โหดร้าย และ มรดก ที่สงครามครั้งนี้ทิ้งไว้ให้แก่โลก…
คุณคิดว่าการตัดสินใจของเยอรมนีที่ส่งเลนินกลับรัสเซีย... เป็น ความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในสงครามนี้หรือไม่?
โฆษณา