23 พ.ย. เวลา 00:10 • หุ้น & เศรษฐกิจ
นครนิวยอร์ก

📝 บทที่ 24: Journaling is King: อาวุธลับเดียวที่ทำให้คุณเป็น 1% ได้จริง! (วิธีบันทึกแบบมือโปร)

🔥 เปิดฉาก: คุณมีความรู้ระดับเทพ... แต่ทำไมพอร์ตยังไม่โต?
เราเรียนมาเกือบครบแล้วครับ ทั้ง Market Structure, S&R, Fibo, และล่าสุดคือวิชาลับอย่าง SMC (บทที่ 23)
แต่เชื่อมั้ยครับ? ต่อให้คุณรู้ทฤษฎีพวกนี้เป๊ะๆ คุณก็ยังอาจจะ "ล้างพอร์ต" ได้อยู่ดี!
เพราะปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ "ความรู้" แต่มันอยู่ที่ "พฤติกรรม"
เทรดเดอร์ 99% "ขี้เกียจ" จดบันทึก พวกเขาเทรดด้วยความจำ (ซึ่งมักจะเข้าข้างตัวเอง)
แต่เทรดเดอร์ 1% ปฏิบัติต่อการเทรดเหมือน "ห้องแล็บวิทยาศาสตร์" พวกเขาจดบันทึกทุกผลลัพธ์ เพื่อหาข้อผิดพลาดและแก้ไข
วันนี้ GhostAlpha Institute จะมาสอนวิธีทำ Trading Journal ที่ไม่ได้มีไว้แค่เขียนระบายอารมณ์ แต่มีไว้เพื่อ "ปั้นพอร์ต" ครับ!
1️⃣ ทำไมต้องจด? (Don't Trust Your Memory)
สมองมนุษย์ถูกออกแบบมาให้ "ลืมความเจ็บปวด" และ "จำแต่ชัยชนะ"
* วันที่คุณได้กำไร คุณจะจำว่าคุณเก่ง ("ฉันอ่านขาด!")
* วันที่คุณขาดทุน คุณจะโทษตลาด ("กราฟมันโกง!", "ข่าวแรงไป!")
Trading Journal คือกระจกวิเศษ ที่จะสะท้อนความจริงว่า:
* คุณเข้าตามระบบจริงไหม?
* หรือคุณแค่มือซน?
* Order Block ที่คุณเข้า มันแหกเพราะอะไร? (นี่คือจุดที่เชื่อมโยงกับบทที่แล้ว)
2️⃣ องค์ประกอบของ Journal ฉบับมือโปร (The Data Set)
เลิกจดแค่ว่า "Buy ทอง ได้กำไร $50" ... อันนั้นเด็กๆ ทำกันครับ!
เทรดเดอร์ 1% ต้องบันทึก "Data" เพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ ดังนี้:
A. Technical Data (ข้อมูลเชิงเทคนิค)
* Setup ที่ใช้: (เช่น SMC Sweep, Breakout, MA Crossover)
* Timeframe: เข้าที่ M5 หรือ M15?
* Confluence: มีอะไรยืนยันบ้าง? (เช่น ชน OB + มี Divergence)
* Risk & Reward: R:R เท่าไหร่? (เช่น 1:3)
* Screenshot: สำคัญที่สุด! แคปภาพกราฟ "ก่อนเข้า" และ "หลังจบไม้" เก็บไว้เสมอ
B. Emotional Data (ข้อมูลเชิงอารมณ์ - จุดตายของวัยรุ่น)
* อารมณ์ก่อนเข้า: มั่นใจ? กลัวตกรถ (FOMO)? หรือแค่อยากเอาคืน?
* อารมณ์ระหว่างถือ: ทนกำไรไหวไหม? หรือรีบปิดหนี? มือสั่นไหม?
C. The "WHY" (การวิเคราะห์หลังเกม)
* ถ้าชนะ: ชนะเพราะฝีมือ หรือเพราะฟลุค?
* ถ้าแพ้ (สำคัญมาก):
* แพ้เพราะระบบ (ทำตามแผนแล้วแต่กราฟไม่เป็นใจ \rightarrow ไม่ผิด!)
* แพ้เพราะวินัย (เลื่อน Stop Loss, Overtrade \rightarrow ผิดมหันต์!)
* แพ้เพราะกับดัก (SMC Trap): โดนหลอกว่าเป็น OB แต่จริงๆ เป็นแค่ Inducement หรือเปล่า? (นี่คือวิธีเรียนรู้เรื่องความเสี่ยงที่ดีที่สุด)
3️⃣ The Weekend Review: พิธีกรรมของคนรวย
การจดแล้วไม่กลับมาอ่าน = เสียเวลาฟรี!
เทรดเดอร์ 1% จะใช้เวลาช่วง เสาร์-อาทิตย์ (ตลาดปิด) ในการทำ Weekend Review:
* ดู Win Rate: สัปดาห์นี้ชนะกี่ไม้ แพ้กี่ไม้?
* หา Pattern ความผิดพลาด: เช่น "เฮ้ย! สัปดาห์นี้เสียเพราะเข้าเทรดช่วงพักเที่ยงตลอดเลย" หรือ "เสียเพราะสวนเทรนด์ตอนข่าวออกตลอด"
* ปรับปรุงแผน (Optimize): เมื่อเห็นจุดอ่อน ก็เพิ่มกฎเข้าไปใน Trading Plan (บทที่ 21) เพื่ออุดรอยรั่วนั้น
4️⃣ เครื่องมือที่แนะนำ (Tools)
ไม่จำเป็นต้องซื้อโปรแกรมแพงๆ ครับ เริ่มต้นง่ายๆ ได้เลย:
* Basic: สมุดโน้ต หรือ Google Sheets/Excel (ฟรีและปรับแต่งง่ายที่สุด)
* Pro: Notion (วัยรุ่นชอบ ใช้เก็บรูปง่าย), Evernote
* Advance: แอปฯ บันทึกเทรดโดยเฉพาะ (เช่น TradeZella, TraderSync - เสียเงิน แต่มี Analytics โหด)
📔 Trading Journal: XAUUSD - The Judas Swing (Counter-Trend)
วันที่: 21 พ.ย. 2025
คู่เงิน: XAUUSD (Gold)
Session: Pre-London / London Open
1. The Context (บริบทตลาด)
* HTF Structure: ขาลง (Bearish) ใน H1/H4
* Fundamental: มีข่าวแรง (Flash PMI) รออยู่ช่วงตลาด New York (20:30-21:45) คาดว่าตลาดจะวิ่งแรงช่วงนั้น
* Narrative: ตอนนี้ราคายังไม่พร้อมลงจริง เพราะ Liquidity ด้านบน (Buy-side Liquidity) ยังไม่ถูกกวาด รายใหญ่จำเป็นต้องลากราคาขึ้นไปเอาของก่อนทุบ
2. The Logic (เหตุผลในการเข้า)
* Setup: Discount to Premium Run (วิ่งจากของถูกไปหาของแพง)
* SMC Logic:
* ราคาลงมาแตะโซน Discount PD Array (ของถูก) ด้านล่าง
* เกิดการปฏิเสธราคา (Rejection) ไม่สามารถทำ New Low ได้
* "Liquidity Run": ผมมองว่าราคาต้องขึ้นไป Sweep High ด้านบน เพื่อหลอกล่อให้คน Buy (Inducement) และเก็บ SL ของขา Sell ก่อนที่ "ของจริง" จะมา
* Trade Type: Counter-Trend (สวนเทรนด์หลัก เพื่อกินระยะ Retracement)
3. Execution (การเข้าทำ)
* Entry: ทยอยเข้า (Layering) ด้วย Lot size เล็ก (0.01) เมื่อเห็นราคาเริ่มยกตัวออกจาก Discount Zone
* Stop Loss: วางไว้ใต้ Low ล่าสุด (Invalidation Point) ถ้าราคาหลุดตรงนี้แปลว่า SM ทุบเลย ไม่รอเก็บของ
* Take Profit: เป้าหมายคือโซน Premium ด้านบน หรือ Asian High ที่เป็นกอง Liquidity
* อารมณ์ตอนเข้า: รู้สึกเสียวเล็กน้อยเพราะสวนเทรนด์ใหญ่ แต่มีความมั่นใจใน Logic ว่า "เขายังลงไม่ได้ถ้ายังไม่ได้ของ"
4. Post-Trade Review (บทสรุปหลังจบเกม)
* ผลลัพธ์: [ กำไร / ขาดทุน / เสมอตัว ]
* สิ่งที่ทำได้ดี: อ่านเกมขาดเรื่องการ Hunt Liquidity ก่อนเลือกทาง, ใจนิ่งพอที่จะสวนเทรนด์
* สิ่งที่ต้องปรับปรุง: (เช่น) การซอยไม้เยอะเกินไปอาจทำให้จัดการความเสี่ยงยากในครั้งหน้า หรือ การออกเร็วไป/ช้าไป?
💡 จุดเด่นของ Journal หน้านี้:
* รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร: ระบุชัดเจนว่า "เข้าเพราะสวนเทรนด์" (รู้ความเสี่ยง)
* รู้เป้าหมายของเจ้ามือ: "ขึ้นไปล้าง Liquidity เพื่อเตรียมทุบ" (อันนี้แพงมากครับ คือรู้ Story ไม่ใช่แค่ดูกราฟ)
* มีเหตุผลรองรับ: เข้าที่ Discount Zone (ซื้อของถูก) ไม่ใช่ไล่ราคา
🎯 Next Step: ความจริงที่เจ็บปวดแต่สวยงาม
คุณมีครบทุกอย่างแล้ว... ความรู้, แผนการเทรด, และสมุดบันทึก
คำถามสุดท้ายที่ค้างคาใจหลายคนคือ: "แล้วต้องเทรดนานแค่ไหนถึงจะรวย? เดือนละ 100% ทำได้จริงไหม?"
ในบทความหน้า เราจะมาปรับจูน Expectation (ความคาดหวัง) ให้ตรงกับ Reality (ความจริง) เพื่อไม่ให้คุณท้อไปซะก่อน
➡️ กดติดตาม GhostAlpha Institute! บทที่ 25 กำลังจะมา: จัดการ Expectation: เลิกหวังรวยข้ามคืน แล้วคุณจะรวยยั่งยืนตลอดไป!
#GhostAlpha Institute
โฆษณา