Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BSbP
•
ติดตาม
23 พ.ย. เวลา 08:22 • บันเทิง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง:EP.5 การพุ่งชนครั้งสุดท้าย: 1918 และมรดกที่ถูกทิ้งไว้
(The Final Collision: 1918 and the Legacy Left Behind)
การเดิมพันทั้งหมด
ในปีคริสตศักราช 1918... มันคือช่วงเวลาที่โลกแห่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งได้ถูกบีบอัด... ถูกย่อส่วนให้กลายเป็น การเดิมพันครั้งสุดท้าย
เยอรมนีได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา: รัสเซีย ได้ออกจากสงครามแล้ว... ทหารกว่าล้านนายจากแนวรบตะวันออกถูกลำเลียงกลับไป... เข้าสู่แนวรบด้านตะวันตกที่กลายเป็นทางตันมานานหลายปี...
แต่เยอรมนีก็รู้ดีว่าพวกเขากำลัง แข่งกับเวลา... การมาถึงของ ชาวอเมริกัน ที่มีทรัพยากรที่สดใหม่และไม่มีวันหมด... คือการลงโทษที่กำลังจะมาถึง... หากไม่สามารถชนะสงครามได้อย่างเด็ดขาดภายในปีนี้... เยอรมนีก็จะถูกบดขยี้ภายใต้น้ำหนักที่เหนือกว่าของพันธมิตร
ดังนั้น... นายพล เอริค ลูเดนดอร์ฟ จึงตัดสินใจทำสิ่งเดียวที่ทำได้: โจมตี
นี่ไม่ใช่แค่การรุกทั่วไป... มันคือ ปฏิบัติการมิคาเอล (Operation Michael) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยุทธการฤดูใบไม้ผลิ (Spring Offensive)... มันคือการระดมกำลังครั้งสุดท้ายที่รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างที่เยอรมนีเหลืออยู่... เข้าสู่การพุ่งชนที่รุนแรงและรวดเร็ว... โดยหวังจะทำให้ฝ่ายพันธมิตรล่มสลายก่อนที่อเมริกาจะพร้อมรบอย่างเต็มที่
การรุกของ "พายุ" และการล่มสลายของสนามเพลาะ
ยุทธการฤดูใบไม้ผลิ ที่เริ่มต้นในเดือนมีนาคมปีคริสตศักราช 1918... เป็นการโจมตีที่แตกต่างไปจากทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นในสนามเพลาะ...
เยอรมนีไม่ได้ส่งทหารจำนวนมากเดินเข้าไปหาปืนกลอีกแล้ว... พวกเขาได้พัฒนากลุ่มทหารพิเศษที่เรียกว่า "สะตอร์มทรูปเปอร์ " หรือ "กองกำลังจู่โจม"
ทหารเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนให้แทรกซึมเข้าสู่แนวหน้าอย่างรวดเร็ว... หลีกเลี่ยงจุดแข็งของศัตรู... และมุ่งโจมตี จุดอ่อน และ ศูนย์บัญชาการ... พวกเขามาพร้อมกับอาวุธเบาและปืนกลมือที่ทันสมัย...
การโจมตีได้ผลอย่างน่าทึ่งในช่วงแรก! แนวรบด้านตะวันตกที่หยุดนิ่งมานาน... พังทลายลง... กองทัพอังกฤษถูกผลักดันกลับไปหลายสิบกิโลเมตร...
มันเป็นการเคลื่อนที่ของกองทัพที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปีคริสตศักราช 1914... เยอรมนีเข้าใกล้กรุงปารีสอีกครั้ง... แม้กระทั่งสามารถยิงปืนใหญ่พิสัยไกลใส่ตัวเมืองได้...
มันคือช่วงเวลาแห่ง ความหวังอันลวงตา ของเยอรมนี... และ ความตื่นตระหนก ครั้งสุดท้ายของฝ่ายพันธมิตร...
แต่การรุกในครั้งนี้... ก็มี จุดอ่อน ที่ไม่อาจแก้ไขได้…
ความเหนื่อยล้า: แม้ว่าจะเป็นกองกำลังจู่โจม... แต่ทหารเยอรมันที่เดินทางมาไกลจากรัสเซียก็เหนื่อยล้า... พวกเขาแทบจะไม่มีเสบียง... เมื่อยึดสนามเพลาะของอังกฤษได้... สิ่งที่พวกเขาพบคือ อาหาร และ บุหรี่... ซึ่งทำให้การรุกช้าลงอย่างมาก
การป้องกันที่ลึก: ฝ่ายพันธมิตรได้เรียนรู้ที่จะไม่รวมกำลังพลไว้ในแนวหน้า... เมื่อแนวหน้าพัง... กองกำลังหลักจะล่าถอยไปแนวหลังที่มั่นคงกว่า... ทำให้การรุกของเยอรมนีต้องใช้กำลังมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเข้าสู่เดือนกรกฎาคม... คลื่น ของการโจมตีห้าครั้งของเยอรมนีก็ หมดแรง... พวกเขาได้ยึดดินแดนมามาก... แต่พวกเขาไม่สามารถทำลาย กองทัพหลัก ของฝ่ายพันธมิตรได้... และที่สำคัญที่สุด... พวกเขาสูญเสียทหารไปกว่า 800,000 นาย... เป็นการสูญเสียที่พวกเขาไม่สามารถทดแทนได้อีกแล้ว
การโต้กลับของร้อยวันและจุดจบของสงคราม
เมื่อการรุกของเยอรมนีหยุดลง... ฝ่ายพันธมิตร... โดยมี กองทัพอเมริกาที่สดใหม่ เข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง... ก็ได้เปิดฉาก การโต้กลับ ที่ดุดัน... ที่รู้จักกันในนาม "การรุกร้อยวัน" (The Hundred Days Offensive)
(เสียงรถถังวิ่ง, ผสมกับเสียงพลั่วที่ขุดรวดเร็วและเสียงวิ่งของทหาร)
นี่คือสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในรูปแบบใหม่: รถถัง... ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น... ถูกนำมาใช้เป็น กองกำลังบุกเบิก เพื่อทำลายปืนกลและลวดหนาม... กองทัพอเมริกาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น และพลังงานที่ไม่เคยผ่านสนามเพลาะมาก่อน... ทำให้แนวรบเยอรมันที่อ่อนแออยู่แล้ว แตกเป็นเสี่ยงๆ
มันกลายเป็นการล่าถอยอย่างต่อเนื่องของเยอรมนี...
การล่มสลายภายใน: ไม่ใช่แค่ในสนามรบ... แต่ในบ้านเกิด... ชาวเยอรมันเริ่มอดอยาก... กองทัพเรือก่อการกบฏ... จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 ถูกบีบให้ สละราชสมบัติ... และเยอรมนีกลายเป็น สาธารณรัฐ ที่อ่อนแอในชั่วข้ามคืน...
นายพลลูเดนดอร์ฟยอมรับความพ่ายแพ้ในที่สุด... และในวันที่ 11 พฤศจิกายน ปีคริสตศักราช 1918... เวลา 11:00 น.... การสงบศึก ก็มีผลบังคับใช้
สงครามที่ดำเนินมาสี่ปี... ได้จบลงแล้ว... ทหารต่างออกมาจากสนามเพลาะ... ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย: ความโล่งใจ, ความสับสน, และความรู้สึกผิดที่รอดชีวิต... โลกนี้คงไม่มีใครจินตนาการถึงความเงียบที่น่าขนลุก... หลังจากเสียงปืนใหญ่ที่ดังต่อเนื่องมานานนับพันวัน
ความผิดพลาดครั้งใหม่ – สนธิสัญญาแวร์ซายส์ (The Versailles Treaty)
สงครามจบลงแล้ว... แต่ สันติภาพ ที่ตามมา... ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขที่แท้จริง...
ในปีคริสตศักราช 1919... ผู้ชนะสงครามได้มารวมตัวกันที่พระราชวัง แวร์ซายส์ เพื่อร่าง สนธิสัญญา ที่จะกำหนดอนาคตของเยอรมนี... แต่สนธิสัญญานี้... กลับเต็มไปด้วย ความขมขื่น และ ความแค้น
หลักการที่สำคัญที่สุดของสนธิสัญญาแวร์ซายส์คือ "ข้อกล่าวหาว่าด้วยความผิดในสงคราม" (War Guilt Clause)... ที่บังคับให้เยอรมนีต้อง ยอมรับความรับผิดชอบทั้งหมด ในการเริ่มต้นสงคราม...
ตามมาด้วย:
ค่าปฏิกรรมสงครามมหาศาล: เยอรมนีต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาลให้กับฝ่ายพันธมิตร... ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวได้
การสูญเสียดินแดน: เยอรมนีเสียดินแดนไปหลายส่วน... รวมถึงอาณานิคมทั้งหมด
การจำกัดกองทัพ: กองทัพเยอรมนีถูกจำกัดจำนวนไว้เพียง 100,000 นาย... และถูกห้ามไม่ให้มีอาวุธหนักเช่น รถถังและเครื่องบินรบ
สนธิสัญญาแวร์ซายส์ไม่ได้ถูกมองว่าเป็น ข้อตกลงสันติภาพ... แต่เป็น การลงโทษ... มันสร้างความรู้สึก อัปยศอดสู และ ถูกทรยศ ในหมู่ชาวเยอรมัน... โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มทหารผ่านศึก... ที่ไม่เคยเชื่อว่ากองทัพของพวกเขาถูกเอาชนะในสนามรบจริงๆ...
นักประวัติศาสตร์หลายคนมองว่า สนธิสัญญาแวร์ซายส์ ไม่ได้ยุติสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง... แต่เป็นเพียง การสงบศึกชั่วคราวเป็นเวลา 20 ปี... เป็นการวาง เมล็ดพันธุ์ ชุดใหม่... ที่จะงอกเงยเป็น ความขัดแย้งที่โหดร้ายยิ่งกว่า ในอนาคต
บทสรุป: มรดกของคนรุ่นที่หายสาบสูญ
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งจบลงด้วยการสูญเสียชีวิตทหารและพลเรือนไปกว่า 20 ล้านคน... มันได้ทำลาย สี่จักรวรรดิ อันยิ่งใหญ่: เยอรมนี, ออสเตรีย-ฮังการี, รัสเซีย, และออตโตมัน... มันได้สร้างประเทศใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย... และที่สำคัญที่สุด... มันได้ทำลาย ความคิดของมนุษย์
ความเชื่อที่ว่า ความก้าวหน้า จะนำมาซึ่ง สันติภาพ นั้นได้ตายลง... คนรุ่นที่รอดชีวิตมาได้ถูกเรียกว่า "คนรุ่นที่หายสาบสูญ"... พวกเขาแบกรับบาดแผลทางร่างกายและจิตใจที่ไม่อาจรักษาได้... ความเป็นมนุษย์ได้ถูกลดคุณค่าลงเหลือเพียง ตัวเลข...
มรดกที่สำคัญที่สุดของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งคือ ความก้าวร้าวอันบ้าคลั่ง ที่ถูกปลดปล่อยออกมา... ซึ่งได้กลายเป็น บรรทัดฐาน ใหม่ของการเมืองโลก... นำไปสู่ลัทธิอำนาจนิยม, สงครามโลกครั้งที่สอง, และสงครามเย็น…
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งคือจุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและเลือด... มันคือ การพุ่งชนครั้งสุดท้าย ของยุคเก่า... ที่ทำให้โลกต้องเดินเข้าสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความมืดมิดและไม่แน่นอน
ขอบคุณที่ติดตามซีรีส์ Big Story ว่าด้วยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง... และคำถามสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้คิด... ถ้าสนธิสัญญาแวร์ซายส์ถูกร่างขึ้นด้วย ความเมตตา แทนที่จะเป็น ความแค้น... ประวัติศาสตร์โลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน?
ภาพยนตร์
ประวัติศาสตร์
เรื่องเล่า
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย