Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
24 พ.ย. เวลา 09:57 • ประวัติศาสตร์
ความฝันในหอแดง 48 แม่หมอกับผีหน้าคราม
เสี่ยวหงสะดุ้งตื่น ที่พบเจี่ยหยุนแล้ววิ่งหนีจนสะดุดล้ม ที่แท้เป็นเพียงความฝัน พอตื่นแล้วจึงได้แต่พลิกตัวไปมา นอนไม่หลับอีกตลอดทั้งคืน
ฟ้าสางวันรุ่งขึ้น เพิ่งลุกขึ้นมาก็มีสาวใช้มาตามไปกวาดบ้านตักน้ำ เสี่ยวหงผมเผ้าไม่สนใจหวี เพียงส่องกระจกเกล้ามวยลวกๆ ล้างหน้าล้างมือ เอาผ้าคาดเอวแล้วมากวาดบ้าน
เป่าวี่พบเสี่ยวหงเมื่อวานแล้วรู้สึกสนใจ ครั้นจะเรียกมารับใช้ก็เกรงอยู่สองข้อคือ หนึ่งพวกสีเหยินจะไม่พอใจ สองยังไม่รู้นิสัยใจคอนาง จึงได้แต่นั่งซึม เช้าขึ้นมา ยังไม่ล้างหน้าหวีผม นั่งเหมือนถูกมนต์สะกดอยู่ริมหน้าต่าง เอาชั้นกระดาษลงเหลือชั้นผ้ามุ้งโปร่ง แล้วมองออกไปข้างนอก เห็นพวกสาวใช้กำลังกวาดลานบ้านอยู่ แต่ละนางแต่งหน้าทาปากแซมดอกไม้ทัดผม แต่ไม่เห็นสาวใช้คนเมื่อวาน
เป่าวี่ลากรองเท้าแตะเดินออกมาข้างนอก ทำทีเป็นชมดอกไม้ เหลียวซ้ายแลขวา พอเงยหน้ามองมาทางหรดีเห็นมีคนยืนพิงลูกกรงระเบียงอยู่ แต่ต้นไห่ถังบังไว้ไม่เห็นหน้า จึงเดินใกล้เข้ามาดูให้ชัด ก็เห็นว่าคือสาวใช้คนเมื่อวานยืนซึมอยู่ตรงนั้น เป่าวี่จะเดินเข้าไปหาก็คงไม่เหมาะ กำลังคิดอยู่ ปี้เหินก็มาตามให้ไปล้างหน้า จึงต้องกลับมาที่ห้อง
เสี่ยวหงยืนซึมอยู่นั้น พลันเห็นสีเหยินกวักมือเรียกจึงเดินมาหา สีเหยินยิ้มว่า
“บัวรดน้ำของเราเสีย เจ้าไปหาคุณหนูหลิน ขอยืมมาใช้ที”
เสี่ยวหงเดินมาทางเรือนเซียวเซียง พอถึงสะพานชุ่ยเอียน 翠烟桥 มองเห็นเขาจำลองมีผ้าม่านล้อมบังไว้ จึงนึกถึงว่าวันนี้จะมีพวกคนสวนเข้ามาปลูกต้นไม้ มองดูก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังขุดดินอยู่แต่ไกล มีเจี่ยหยุนนั่งคุมงานอยู่บนก้อนหิน ครั้นจะเดินเข้าไปหาก็ไม่กล้า ได้แต่เดินมายืมบัวรดน้ำที่เรือนเซียวเซียงแล้วนำกลับ จากนั้นก็เดินใจลอยกลับไปนอนที่ห้อง คนคิดว่านางคงไม่สบาย จึงไม่ใส่ใจ
วันนั้นผ่านไป วันถัดมาเป็นวันเกิดฮูหยินของหวางจื่อเถิง 王子腾 ซึ่งได้มาเชิญแม่เฒ่าเจี่ยและหวางฮูหยินไปร่วมงาน แม่เฒ่าเจี่ยไม่สะดวกไป หวางฮูหยินจึงพลอยไม่ไปด้วย คงมีแม่น้าเซวีย พี่เฟิ่ง สามสาวพี่น้องบ้านเจี่ย เป่าไช เป่าวี่ไปร่วมงาน ตอนเย็นจึงจะกลับ
หวางฮูหยินอยู่บ้านเห็นเจี่ยหวนเลิกเรียนกลับมา จึงสั่งให้ไปคัด 《บทสวดมนต์จินกัง 金刚经咒》 พร้อมสวดออกเสียง เจี่ยหวนมานั่งยังเตียงผิงข้างหวางฮูหยิน สั่งคนจุดตะเกียง แล้วทำทีว่าตั้งอกตั้งใจคัด แต่เดี๋ยวก็เรียกไฉ่หยุนให้เทน้ำชาให้ เดี๋ยวก็เรียกวี่ช่วนให้ขลิบไส้ตะเกียง เดี๋ยวก็บอกว่าจินช่วนบังแสงตะเกียง พวกสาวใช้ปกติก็รำคาญเจี่ยหวนอยู่แล้ว จึงไม่สนใจ มีเพียงไฉ่สยา 彩霞 ที่ยังคงเข้ากันได้ จึงรินน้ำชามาให้และกระซิบบอกว่า
“ท่านอยู่เฉยๆ บ้าง อย่ามัวแต่จะเอานั่น จะเอานี่”
เจี่ยหวนมองหน้านางแล้วว่า “ข้ารู้ ไม่ต้องมาขู่ข้า พวกเจ้าเป็นพวกเป่าวี่ ไม่สนใจข้า ข้าก็ดูออก”
ไฉ่สยากัดริมฝีปาก เอานิ้วจิ้มหัวเจี่ยหวนว่า
“คนไม่มีน้ำใจ เจ้าเหมือนหมาที่ไล่กัดหลวี่ต้งปิน ไม่รู้ดีชั่ว”
พี่เฟิ่งกลับจากงานมาคารวะหวางฮูหยิน หวางฮูหยินสอบถามถึงงานว่ามีแขกสตรีกี่คน การแสดงดีไหม อาหารเป็นอย่างไร สักพักหนึ่ง เป่าวี่ก็กลับมาถึง คารวะหวางฮูหยิน พูดคุยตามธรรมเนียม จากนั้นให้คนมาช่วยถอดผ้าโพกหน้าผาก ชุดคลุมและรองเท้า แล้วซุกในอ้อมอกหวางฮูหยิน หวางฮูหยินลูบคลำด้วยเอ็นดู เป่าวี่โน้มคอมารดาพูดคุยไปเรื่อยเปื่อย
หวางฮูหยินว่า “ลูกแม่ เจ้าดื่มเหล้ามากไป ใบหน้าจึงร้อน หากยังมัวแต่ถูอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวเหล้าก็ขย้อนออกมา ไปนอนตรงนั้นสักพัก”
แล้วบอกให้คนนำหมอนมา
เป่าวี่ล้มตัวนอนด้านหลังหวางฮูหยิน เรียกไฉ่สยาให้มาช่วยตบหลัง แล้วคุยเล่นกับไฉ่สยา แต่ไฉ่สยาไม่ค่อยสนใจ สองตาจับจ้องแต่เจี่ยหวน
เป่าวี่ดีงมือไฉ่สยาไว้แล้วว่า “พี่คนดี สนใจข้าหน่อย”
แล้วกุมมือนาง
ไฉ่สยาบิดมือไม่ยอมแล้วว่า “ถ้ายังวุ่นวาย ข้าจะร้อง”
สองคนโต้เถียงกันอยู่ เจี่ยหวนได้ยินชัด ปกติก็ไม่ชอบหน้าเป่าวี่อยู่ คอยหาทางเล่นงานแต่ไม่สบโอกาส ยิ่งเห็นมาล้อเล่นกับไฉ่สยา ยิ่งสะกดอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ตรองสักพักคิดหาวิธีได้ ตั้งใจเล่นงานให้ถึงตาบอด โดยแกล้งทำเป็นพลั้งมือ ปัดถ้วยตะเกียงที่เต็มไปด้วยน้ำมันใส่หน้าเป่าวี่
เป่าวี่ร้อง “ไอ้หยา”
คนทั้งห้องสะดุ้งตกใจ คว้าโคมตั้งพื้นมาส่องดูเห็นน้ำมันเต็มหน้าเป่าวี่ หวางฮูหยินทั้งโกรธทั้งร้อนใจ สั่งให้คนช่วยเช็ดหน้าให้เป่าวี่ และด่าว่าเจี่ยหวน
พี่เฟิ่งขึ้นบนเตียงผิงอย่างฉับไวช่วยเช็ดหน้าให้เป่าวี่ ปากก็เอ็ดว่า
“เจ้าสามนี่ซุ่มซ่าม 慌脚鸡 จริง ถึงเข้ากับใครไม่ได้ น้าหญิงเจ้า 赵姨娘 ต้องหมั่นอบรมเสียบ้าง”
(เจี่ยหวน เป็นน้องชายเป่าวี่ เกิดจากน้าหญิงเจ้า 赵姨娘 ซึ่งเป็นเมียบ่าวของเจี่ยเจิ้ง)
คำนี้ทำให้หวางฮูหยินฉุกคิดได้ จึงให้คนไปตามน้าหญิงเจ้า 赵姨娘 มาดุด่าว่า
“เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นคนใจไม้ไส้ระกำ ไม่รู้จักอบรมสั่งสอน หลายครั้งหลายหนแล้วที่ข้าไม่สนใจ พวกเจ้าเลยยิ่งได้ใจ ก่อเรื่องใหญ่”
น้าหญิงเจ้าจำกล้ำกลืนไปช่วยเช็ดล้างให้เป่าวี่ เห็นหน้าซีกซ้ายเป็นตุ่มพองขึ้นมา โชคดีที่ไม่ถูกลูกนัยน์ตา
หวางฮูหยินเห็นแล้วยิ่งปวดใจ หากแม่เฒ่าเจี่ยถามไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงด่าว่าน่าหญิงเจ้าอีกยกใหญ่ แล้วให้นำยาผงไป้ตู๋ส่าน 败毒散 มาพอกแผลให้เป่าวี่
เป่าวี่ว่า “ยังปวดอยู่ แต่ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ท่านย่าถาม ข้าจะบอกว่าซุ่มซ่ามทำลวกใส่ตัวเอง”
พี่เฟิ่งว่า “ถึงจะบอกว่าลวกใส่ตัวเอง ท่านก็ยังคงถามว่าใครไม่ค่อยดูแล คงงานเข้าอีกฉากใหญ่”
หวางฮูหยินให้คนส่งเป่าวี่กลับไปพักที่ห้อง พวกสีเหยินเห็นสภาพเข้าต่างกระวนกระวายใจ ทางด้านไต้วี่เห็นเป่าวี่ออกไปทั้งวัน จึงส่งคนมาคอยถามสองสามรอบ พอรู้ว่าถูกลวก จึงรีบมาดูด้วยตัวเอง เห็นเป่าวี่ถือกระจกส่องหน้า ใบหน้าซึกซ้ายมียาพอกอยู่เต็ม น่าจะเป็นแผลฉกรรจ์ จึงรีบเข้ามาขอดู
เป่าวี่เอามือปิดหน้า แล้วโบกมือให้นางออกไป รู้ว่านางจู้จี้เรื่องความเรียบร้อย จึงไม่ยอมให้ดูแผล ไต้วี่จึงต้องยอมแล้วถามว่า
“ปวดมากไหม”
เป่าวี่ว่า “ปวดไม่เท่าไร พักวันสองวันก็คงหาย”
ไต้วี่นั่งสักพักก็กลับไป
วันรุ่งขึ้น เป่าวี่มาเยี่ยมคารวะแม่เฒ่าเจี่ย ถึงจะบอกไปว่าไม่ระวังลวกใส่ตัวเอง แม่เฒ่ายังอดไม่ได้ต้องตามคนมาดุด่าอีกยก
วันถัดมา แม่หมอหม่า 马道婆 ผู้ได้ชื่อว่าเป็นแม่อุปถัมภ์ 干娘 ของเป่าวี่เข้าจวนมาเยี่ยม พอเห็นเป่าวี่ก็สะดุ้งตกใจ ถามว่าทำไมจึงถูกลวก พอรู้แล้วก็พยักหน้าถอนหายใจ แล้วใช้นิ้ววาดบนหน้าของเป่าวี่พร้อมร่ายคาถางึมงึมงำงำ เสร็จแล้วก็บอกว่า
“รับรองว่าหายสนิท นี่เป็นคราวเคราะห์ที่ลอยมา”
จากนั้นก็หันมาทางแม่เฒ่าเจี่ยว่า
“บรรพชน พระโพธิสัตว์ ท่านควรรู้ว่าพระพุทธคัมภีร์กล่าวถึงเคราะห์กรรมซึ่งติดตัวลูกท่านหลานเธอของเจ้าคนนายคนมาแต่กำเนิดว่า มีเจ้ากรรมนายเวรคอยตามหลอกหลอน พอสบช่องก็คอยตอดเล็กตอดน้อย กินข้าวอาจแกล้งคว่ำชาม เดินเหินอาจคอยขัดขาให้หกล้ม ลูกท่านหลานเธอจึงมักเลี้ยงไม่โต อายุไม่ยืน”
แม่เฒ่าเจี่ยพอได้ฟังจึงถามว่า “แล้วนี่พอมีทางแก้ไขในวิถีพุทธหรือไม่”
แม่หมอหม่าว่า “เรื่องนี้ไม่ยาก เพียงหมั่นทำบุญทำทานอุทิศส่วนกุศลให้ก็พอ ในพระคัมภีร์ว่า เบื้องประจิมมีพระโพธิสัตว์ต้ากวงหมิงผู่เจ้า 大光明普照 ผู้คอยขจัดมารและสิ่งชั่วร้าย สาวกชายหญิงที่บูชาด้วยศรัทธา สามารถคุ้มครองลูกหลานให้แข็งแรงปลอดภัยจากหมู่มารผจญ”
แม่เฒ่าเจี่ยว่า “ไม่ทราบว่าจะบูชาพระโพธิสัตว์อย่างไร”
แม่หมอหม่าว่า “ไม่มากมายกระไร นอกจากจุดธูปเทียนบูชาแล้ว แต่ละวันก็หมั่นเติมน้ำมันตะเกียงสมุทร 海灯 ตะเกียงสมุทรนี้คือรูปจำแลงของพระโพธิสัตว์ ทั้งวันคืนไม่เคยดับ”
แม่เฒ่าเจี่ยว่า “เติมน้ำมันหนึ่งวันหนึ่งคืนต้องใช้เท่าไร ข้าอยากทำบุญบ้าง”
แม่หมอหม่าว่า “ไม่ได้กำหนดจำนวนเงินมากน้อย สุดแต่ศรัทธาของประสก อย่างที่สำนักของข้า มีเหล่าพระสนมหลายตำหนักมาบูชา อย่างเช่นไท่เฟยจากจวนอ๋องเมืองหนานอาน ศรัทธาแรงกล้า เติมน้ำมันวันละสี่สิบแปดชั่ง ไส้ตะเกียงหนึ่งชั่ง ตะเกียงสมุทรของพระนางจึงมีขนาดเล็กกว่าโอ่งเล็กน้อย ฮูหยินชั้นที่หนึ่งของจิ่นเซียงโหวเติมน้ำมันวันละยี่สิบชั่ง ยังมีผู้อื่น คนละสิบชั่ง แปดชั่ง สามถึงห้าชั่งไม่เท่ากัน ข้ามีหน้าที่ช่วยพวกเขาเติม”
แม่เฒ่าเจี่ยพยักหน้าครุ่นคิด แม่หมอหม่าว่า “ยังมีอีกเรื่องคือ การเติมน้ำมันเสริมอายุให้บิดามารดา ถึงเติมมากก็ไม่เป็นไร แต่อย่างบรรพชนจะเติมให้เป่าวี่ที่อ่อนอาวุโสกว่า เติมมากไปจะขัดโชค จะเติมอย่างมากไม่เกินเจ็ดชั่ง อย่างต่ำไม่ควรน้อยกว่าห้าชั่งก็เพียงพอ”
แม่เฒ่าเจี่ยว่า “ถ้าเช่นนั้นก็เติมวันละห้าชั่ง คิดบัญชีส่งไปให้ที่สำนักเดือนละครั้ง”
แม่หมอหม่าว่า “อามิตาภพุทธ พระโพธิสัตว์ทรงพระมหากรุณา”
แม่เฒ่าเจี่ยยังเรียกคนมากำชับว่า
“วันหลังเป่าวี่จะออกไปที่ไหน ให้บ่าวนำเงินพวงติดตามไปด้วย เอาไว้แจกทำทานให้นักบวชและผู้ยากไร้”
กล่าวจบ แม่หมอก็ออกมาเดินสำรวจตามเรือนต่างๆ ว่าใครมีโชคเคราะห์อย่างไร จนมาถึงเรือนของน้าหญิงเจ้า พอพบหน้า น้าหญิงเจ้าบอกให้สาวใช้รินน้ำชามาให้แม่หมอ ตัวนางเองกำลังปะซ่อมรองเท้าอยู่ แม่หมอหม่าเห็นเศษผ้าบนเตียงอยู่เป็นกอง จึงว่า
“รองเท้าข้าไม่มีผ้าแต่งหน้า น้าหญิงแบ่งเศษผ้าไหมผ้าต่วนสีอะไรก็ได้ให้ข้าทำรองเท้าสักคู่”
น้าหญิงเจ้าถอนหายใจว่า “ท่านดูเอา ในกองนั้นมีชิ้นไหนพอดูได้บ้าง ของดีดีมาไม่ถึงที่นี่หรอก ถ้าท่านไม่เกี่ยง ก็เลือกไปสักสองชิ้น”
แม่หมอหม่าเลือกเอาจำนวนหนึ่งยัดลงในแขนเสื้อ
น้าหญิงเจ้าว่า “วันก่อนข้าฝากเงินห้าร้อยเฉียนไปบูชาพระไภษัชยคุรุ 药王 ท่านบูชาแล้วหรือยัง”
แม่หมอหม่าว่า “ข้าช่วยจัดการให้ท่านแล้ว”
น้าหญิงเจ้าถอนหายใจว่า “อามิตาภพุทธ หากข้าพอจะหาได้คล่องบ้าง คงบูชาได้บ่อย แต่นี่ถึงจะมีใจแต่ไม่มีกำลังทรัพย์”
แม่หมอหม่าว่า “ท่านสบายใจเถิด วันหน้าคุณชายหวนเติบใหญ่ ได้เป็นขุนนางหรือมีการงานเป็นหลักฐาน ท่านจะทำบุญเพียงไหนย่อมได้”
น้าหญิงเจ้ายิ้มว่า “พอเถิด อย่าพูดเลย ดูอย่างตอนนี้พวกเราแม่ลูกจะไปพึ่งใคร ในบ้านนี้มีเป่าวี่เหมือนลูกมังกร เป่าวี่ยังเด็ก เลี้ยงดูมาได้ดังใจ ผู้ใหญ่ถึงได้รัก ข้าก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่ข้าไม่ยอมรับคนเจ้ากี้เจ้าการอีกคน”
แล้วยื่นนิ้วออกมาสองนิ้ว
แม่หมอหม่าพอจะรู้ จึงถามว่า “คุณนายรองเหลียน”
น้าหญิงเจ้าตกใจรีบโบกไม้โบกมือ ลุกขึ้นแหวกม่านดูเห็นว่าไม่มีใคร จึงหันกลับมาหาแม่หมอว่า “ร้ายกาจ ร้ายกาจ พูดถึงนาง ต่อไปสมบัติพัสถานคงถูกนางขนไปไว้บ้านแม่หมด”
แม่หมอหยั่งเชิงว่า “ยังต้องให้ท่านบอกหรือ มีหรือข้าจะดูไม่ออก ยังโชคดีที่พวกท่านทำใจได้ นางอยากทำอะไรก็ทำไป กลับเป็นเรื่องดี”
น้าหญิงเจ้าว่า “อุแม่เจ้า อยากทำอะไรให้ทำไป นี่ไม่มีใครกล้าทำอะไรนางกระนั้นหรือ”
แม่หมอหม่าว่า “อย่าหาว่าข้ายุให้ก่อเวรกรรม พวกท่านไม่มีปัญญาเอง อย่าโทษผู้อื่น ถึงไม่กล้าในทางแจ้ง ยังลงมือได้ในทางลับ ทำไมต้องรอถึงป่านนี้”
น้าหญิงเจ้าฟังดูมีเงื่อนงำ แอบชอบใจถามว่า
“ลงมืออย่างไรในทางลับ ข้าก็คิดอยู่ แต่ไม่รู้จะหาใคร ท่านช่วยชี้ทางหน่อย จะเป็นพระคุณ”
แม่หมอหม่าฟังดูรู้ว่าติดเบ็ดแล้ว เสพูดว่า
“อามิตาภพุทธ อย่ามาถามข้า ข้าจะรู้หรือ บาปกรรมบาปกรรม”
น้าหญิงเจ้าว่า “เอาอีกแล้ว ท่านเป็นผู้โปรดสัตว์คลายทุกข์ จะทนเห็นคนรังแกพวกเราสองแม่ลูกตายไปต่อหน้าได้หรือ หรือกลัวข้าจะไม่ตอบแทนคุณ”
แม่หมอหม่าฟังแล้วยิ้มว่า “บอกว่าข้าไม่อาจทนเห็นพวกท่านสองแม่ลูกถูกรังแกตายต่อหน้า พอฟังได้ บอกว่าจะแทนคุณข้า นั่นข้าไม่ได้หวัง”
น้าหญิงเจ้าเฉลยว่า “ท่านเป็นคนฉลาด ไม่น่าเหลวไหล หากมนต์คาถาของท่านได้ผล กำจัดสองคนนั้นเสียได้ สมบัติในบ้านนี้ตกเป็นของเรา ถึงตอนนั้นท่านอยากได้อะไร”
แม้หมอหม่าฟังแล้วก้มหน้านิ่งไปครึ่งวันจึงว่า
“ถึงตอนนั้นงานเสร็จแล้ว ไม่มีหลักฐาน ท่านยังเห็นข้าอยู่หรือ”
น้าหญิงเจ้าว่า “ไม่ยาก ข้าพอมีเงินเก็บอยู่หลายตำลึง ยังมีเสื้อผ้าเครื่องประดับ ท่านเอาไปก่อน ข้ายังจะเขียนใบรับรองหนี้ ถึงเวลานั้นนำมาคิดบัญชี”
แม่หมอหม่าตรองดูสักพักก็ว่า
“ได้ ถือว่าข้าลงทุนให้ก่อน”
น้าหญิงเจ้าไม่ถามอะไรอีก บอกพวกสาวใช้ออกไปให้หมด แล้วจึงเปิดหีบหยิบเครื่องประดับกับเงินเก็บ พร้อมเขียนใบติดหนี้อีกห้าสิบตำลึงส่งให้แม่หมอหม่าว่า
“ท่านเอาไปใช้ก่อน”
แม่หมอหม่าพอใจ รับเงินสิ่งของและใบติดหนี้ไป แล้วขอกระดาษจากน้าหญิงเจ้า เอากรรไกรมาตัดเป็นรูปคนสองคน ถามวันเดือนปีเกิด เขียนเอาไว้ ขอกระดาษสีน้ำเงินอีกแผ่นมาตัดเป็นผีหน้าครามห้าตน นำเข็มมากลัดติดกับรูปคน
“กลับไปถึงข้าจะทำพิธี จึงจะมีผล”
พลันมีสาวใช้ของหวางฮูหยินมาถามว่า
“ท่านน้าหญิงอยู่บ้านไหม ไท่ไท่รอพบท่าน”
แม่หมอหม่าจึงลากลับ ต่างคนต่างแยกย้าย
ตอนก่อนหน้า : เสี่ยวหง
https://www.blockdit.com/posts/691eda879e47837030466417
ตอนถัดไป : คุณไสยของแม่หมอหม่า
https://www.blockdit.com/posts/692824cc76ff708a5688727e
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ความฝันในหอแดง
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย