ได้(ด้าย)ไหม / CGM48 - เส้นใยแห่งฝัน ที่ถักทอไปด้วยความหมาย
“โอยย ขนลุก ชอบตั้งแต่แรกฟัง
ทัชใจจังๆ ตั้งแต่แรกชม"
.
.
.
นี่คือความรู้สึกของพวกผม
หลังจากได้ดื่มด่ำกับ "ได้(ด้าย)ไหม"
ซิงเกิ้ลที่ 10 ใหม่แกะกล่อง
ของ "CGM48" วงน้องสาว
จากแดนดินถิ่นล้านนา
ที่คว้าเอาใจไปทั้งดวง ตามนี้เลย
1. ความวิจิตรที่งดงาม
- เพียงวินาทีแรกที่ MV ค่อยๆ ฉายภาพออกมา
ก็สัมผัสได้ทันทีเลยว่านี่คือลายเซ็นความเป็น CGM48 จริงๆ
ตั้งแต่โมเมนต์ที่คุณป้าชาวดอย กำลัง "ค่อยๆ" ส่งต่อภูมิปัญญาท้องถิ่นให้น้องๆ ด้วยความอบอุ่น เอ็นดูเสมือนลูกหลานคนหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ บรรจงถักทอเส้นด้ายผ้าไหมไปด้วยกัน
ค่อยๆ เรียนรู้ ค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปทีละขั้น ไยไหมก็สามารถร้อยเรียงกันออกมาเป็นผ้าไหมที่งดงามได้เอง
นี่คือจุดที่สื่อจุดเด่นของเพลงและวิถีชีวิตคนภาคเหนือได้อย่างแท้จริง ทำให้เห็นว่าบางทีชีวิตคนเรา การได้เฝ้าศึกษาเรียนรู้ โฟกัสกับสิ่งตรงหน้าด้วยความตั้งใจ ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน ทำด้ายออกมาได้หรือไม่ ถ้าเรายังทำต่อไปด้วยความมุ่งมั่น ด้ายและเส้นใยย่อมแปรเปลี่ยนไป เป็นเส้นด้ายอันงดงาม
เป็นสิ่งที่พี่รินะวางรากฐานมาให้วงได้ดีจนถึงวันนี้ และเด็กๆ รุ่นใหม่ก็รับเส้นใยแห่งฝันนั้นมาปรับใช้ ไม่ว่าจะปรุงแต่ง เสริมความร่วมสมัยยังไง หัวใจสำคัญที่จะยังยึดไว้คือการสื่อสารอัตลักษณ์แห่งเชียงใหม่ให้ดี ให้ถึงที่สุด พร้อมสไตล์การทำงานของวงที่ใส่ใจรายละเอียดในทุกโจทย์
2. การผสมผสานที่ลงตัว
- ทั้งซาวด์ดนตรีแบบร่วมสมัย ให้ทั้งกลิ่นอายล้านนา และความสนุกซาบซ่า โซะ จึ้งสไตล์ Gen Z อย่างการใส่เสียงเบสบูมๆ ชวนให้โคฟเต้นตามแอบคิดว่าถ้าดนตรีเหนือดั้งเดิมกับยุคนี้รวมเข้ากัน ออกมาเป็นคลิป Break Dance เท่ๆ คงจะเริ่ดเลยทีเดียว
ตามด้วยการร้อยเรียงที่เข้ากันทั้งคำร้องและทำนอง ชวนติดหูตั้งแต่ประโยคแรกที่กระแทกเข้ามากลางใจ คำร้องดู catchy จำง่าย จอยง่าย "ได้สิด้ายไหมทอ ถักความฝัน..." พร้อมทำนองฟังง่าย จอยๆ ม่วนอ๊กมวนไจ๋ มีเอเนอจี้ไปด้วยกัน กำลังพอดี
เพิ่มเติมคือมีการผสมผสานที่กำลังดีทั้งกำเมือง / ภาษากลาง และอังกฤษอย่างท่อน "Hu hu hu hu! Let's do it!" ก็ติดหูเช่นกัน ท่อน Believe it เชื่อฉันสิ ด้ายไหม ก็น่ารักดี จะเห็นว่าทั้งเพลงมีการเล่นคำพ้องเสียง เล่นคามหมายรับส่งกันไปมาตลอดเลย
รวมถึงการออกแบบเพลงให้มีไดนามิค ค่อยๆ ไต่ระดับอารมณ์ ทั้งการเพิ่มบีทจากเบาไปดัง เร่งจังหวะจากอ่อนช้อยไปสนุกสุดสตรอง และการอัปคีย์แตะจุดพีคสูงตอนท้าย หรือที่ขาดไม่ได้คือท่อนปล่อยเสียงดับเบิ้ลเซนเตอร์ออกมาคนละที ทำได้ดีมากจริงๆ เสียงเพลินใส่ก้องกังวาน เสียงณิชาก็เสนาะหวาน ขี้เล่น เป็นสไตล์ตัวเอง
ด้านโปรดักชันยังคงความประณีต ใส่ใจ ยิ่งใหญ่อลังการ และเต็มไปด้วยการร้อยเรียงเรื่อยราวระหว่างกัน ทั้งฉาก แสง สี ชุด ตลอดจนการหยอด Easter Eggs อย่าง "มะลิเอามาฮ้อยมาลัย (เพลงมะลิ)" หรือ "ดินทรายก๋ายเป็นม่อนดอยใหญ่" ก็สื่อได้ทั้งเพลง 2565 และเนินเขาแห่งความฝัน หรือท่อน "ลำธารเป็นแม่น้ำกว้างใหญ่" ก็อาจสื่อไปถึงเพลง "Kaze wo Matsu - ความทรงจำในสายลม" นับว่าทำได้ดี กลมกลืน เป็นธรรมชาติไปด้วยกัน
จะว่ายังไงดี ผมรู้สึกเหมือนกำลังได้ชิมเมนูเด็ดเมืองเหนือฉบับท้องถิ่น ที่หากแวะมาต้องลองกิน ขณะเดียวกันก็รู้สึกฟินไปกับรสชาติความแปลกใหม่ที่ใส่เข้ามา
เสมือนเชฟคนนี้กำลังทำให้เห็นว่าเขาหรือเธอเคารพต้นฉบับ แต่ก็ปรับแต่งบางอย่างให้ชูรสความอร่อยยิ่งขึ้นไปอีก
3. ความ "Niche" ที่ควร "Mass"
- เชื่อเหลือเกินว่าตลอดเวลาที่ได้สดับรับชมผลงานนี้ พี่ๆ เพื่อนๆ แฟนคลับ 48 Group TH น่าจะเอ่อล้นไปด้วยความยินดี ภูมิใจ ตื้นตัน ถักทอร้อยเข้าด้วยกันไปมาแบบยากจะอธิบาย
ชื่นชมที่ไม่ว่า CGM48 จะล้มลุกคลุกคลานยังไง ผ่านจุดพีคมาไกลแค่ไหน จากร่มเงาอันยิ่งใหญ่ที่รุ่น 1 ได้ให้ไว้ จนทุกวันนี้ที่กระแสวงค่อนข้างเงียบลงอย่างน่าใจหาย โดยมี "ระยะทาง" เป็นอุปสรรค ที่ไม่อาจจูงใจแฟนๆ ให้รู้สึกว่าเชียงใหม่ก็แค่ปากซอยเหมือนเดิม
แต่สิ่งที่น้องๆ วงมิ้นท์รุ่นใหม่ทุกคนกำลังทำ คือการก้มหน้าก้มตาพิสูจน์ให้พวกเราเห็นด้วยความคราฟต์ลึกซึ้งในผลงาน ยึดมั่นในแนวทางของตัวเองต่อไป พร้อมรังสรรค์ความแปลกใหม่ เติมความร่วมสมัยเข้ามาให้กลมกล่อม โดยเฉพาะกับเพลงต้นตำรับที่พิสูจน์แล้วว่า นี่คือเหล่า "Queen of Original Songs" อย่างแท้จริง
ในการผสานพลังแห่งวัฒนธรรมท้องถิ่น และกลิ่นอายใหม่ๆ สร้างออกมาเป็น Soft Power ไทยที่น่าดึงดูด จนอยากจะเชียร์ให้ประสบความสำเร็จขึ้นไปอีก เอาจริงๆ ณ จุดนี้เราอาจต้องมาเขย่าชุดความคิดในนิยาม "แมส" กันใหม่
มันอาจไม่ต้องไปไกลดังพลุแตกระดับคุกกี้เสี่ยงทาย แต่ยังคงใช้ความนีชนี้ให้แมสไปสุดทางได้ ตั้งแต่ในกลุ่มแฟนคลับวง ตลอดจนหน่วยงานท้องถิ่นและผู้เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ ให้มาร่วมส่งเสริมกัน คงดีไม่น้อยเลยถ้าเพลงนี้ได้คอลแลปกับ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) / กระทรวงวัฒนธรรม / เทศบาลนครเชียงใหม่ / อบจ. / ตลอดจนเอกชนต่างๆ ที่สามารถมา "Co-Create" สร้างอิมแพ็คให้จังหวัดไปด้วยกัน
ลองนึกภาพถ้าเพลงนี้ได้รับการร่วมโปรโมต เปิดตามห้าง MAYA, ถนนคนเดิน, ม.เชียงใหม่, และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในภาคเหนือ คลอๆ พอให้ได้เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญแห่ง Soft Power ท้องถิ่น แค่คิดก็ฟินแทนน้องๆ สุดๆ ไม่อยากให้มีโอกาสแล้วหยุดไว้ ไม่ได้ไปต่อเหมือน 77 ดินแดนแสนวิเศษของวงพี่เมื่อหลายปีก่อน
ไหนจะการร่ายรำ ฟ้อน การนำผ้าทออันเป็นเอกลักษณ์ (Hero Product) มาใส่จัดเต็มใน MV ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกถึงรากเหง้าแห่งล้านนา ผ่านสายตา ท่วงท่าของคนรุ่นใหม่ได้อย่างงดงาม ชัดเจน
เพิ่มเติมขอชื่นชมทีมงานถ่ายทำและตัดต่อด้วยครับ ที่ทำภาพออกมาได้ดีเหลือเกิน จากที่เพลินบอกในไลฟ์ล่าสุด (23 พ.ย. เวลา 22.13 น.) ว่าน้องเป็นคนที่มือไม้ไม่ได้อ่อน ไม่เหมาะกับการรำ แต่หน้างาน พี่ๆ ทุกคนก็ขอให้รำแบบด้นสด ก่อนจะปรุงแต่ง ตัดต่อออกมาอย่างสมบูรณ์
"ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำชม ขอบคุณมากเลยค่ะ หนูอ่านหมดเลยนะ นั่งเลื่อนอ่านฟีดแบ็กทุกอย่างจนตี 3 กว่าจะได้นอน เพราะอยากรู้จริงๆ ว่าเป็นยังไง ก็ดีใจที่ผลตอบรับดีมาก ดีใจที่ชอบเพลงนี้นะคะ ทุกคนชอบ ร้องตามได้ หนูก็สบายใจ"
เพลิน CGM48 รุ่นที่ 3 (หนึ่งในดับเบิ้ลเซนเตอร์ เคียงข้าง "นิชา" รุ่นที่ 4)
นอกจากนี้อยากขอบคุณด้วยนะครับที่ใส่น้องๆ เมมเบอร์ที่แม้ไม่ได้ติดเซม ก็ยังได้เติมเต็มผลงานชิ้นนี้ และเติมกำลังใจดีๆ ให้พร้อมถักทอความฝันต่อไปด้วยกัน อาจเหมือนคืนวันที่ขับขานผ่านบทเพลง
.
.
.
.
.
"ได้สิ ด้ายไหม ทอ
ถักความฝันที่ไกลสุดไกล
ด้วยเสียงที่ดังก้องใจให้ประสานกัน
ต้องได้สิ ได้ไหมเธอ ถักเส้นใยเล็กๆ วันนั้น
หื้อก๋ายไปเป็นเรื่องใหม่ตี้งดงาม
ได้สิ ด้ายไหม ทอถักความฝันที่เกินกว่าใจ
จะบินออกไปแม้ไกลเท่าไรก็ตาม
ต้องได้สิ ได้ไหมเธอ
ต้องลงมือเท่านั้น ต้องทำ
Believe it เชื่อฉันสิ ด้ายไหม,,,🧶👌🏻"
อนาคตเพลงนี้จะสำเร็จอีกแค่ไหน ไม่รู้
แต่เท่าที่ดูในวันนี้คือ "ด้ายแล้ว"
ได้ใจพวกเราแล้วจริงๆ
ขอบคุณที่ตั้งใจทำผลงานดีๆ
ออกมานะครับ "CGM48"
สายเลือดใหม่ทุกคน
ค่อยๆ ถักทอเส้นใยอันเบาบาง
แล้วมุ่งสู่ปลายทางที่รอคอย
มันอาจจะเร็วหรือช้าหน่อย
อย่างน้อย การได้บรรจงลงมือทำ
ประณีตกับชิ้นงานในมืออย่างดีที่สุด
"เส้นใยแห่งความตั้งใจ" นั่นแหละ
ที่งดงามและจะทรงคุณค่าที่สุดเสมอไป,,,💚
ขอบคุณภาพจาก: CGM48
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
